ในวินาทีที่จรวด Falcon 9 ของบริษัท SpaceX ทะยานขึ้นจากฐานปล่อยในภารกิจ Axiom-4 ไม่เพียงแต่เป็นการส่งนักบินอวกาศขึ้นสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ที่ห่างจากโลกประมาณ 400 กิโลเมตร เท่านั้น แต่ยังเป็นการนำพาความภาคภูมิใจของคนไทยในรูปแบบเมนู “ไก่” ขึ้นไปจารึกบนเวทีอวกาศระดับโลก นี่คือบทสรุปของก้าวสำคัญที่ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของอาหาร แต่คือสัญลักษณ์แห่งศักยภาพและอนาคตของประเทศไทย

ไม่ใช่แค่อาหาร แต่คือมาตรฐานระดับอวกาศ
หัวใจสำคัญของภารกิจ “ไก่ไทยไปอวกาศ” คือการพิสูจน์ว่าอุตสาหกรรมอาหารของไทยมีศักยภาพในการผลิตอาหารที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับอวกาศ (Space Food Safety Standard) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรฐานที่เข้มงวดที่สุดในโลกตามเกณฑ์ของ NASA เมนูไก่จาก CP ที่ถูกคัดเลือกนั้น มีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถเก็บรักษาได้นานถึง 1 ปีเต็ม โดยไม่ต้องพึ่งพาความเย็น และยังคงรสชาติจัดจ้านเผ็ดร้อน ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักบินอวกาศที่มักจะมีการรับรสเปลี่ยนไปเมื่ออยู่ในสภาวะไร้น้ำหนัก
ความสำเร็จครั้งนี้จึงเป็นการตอกย้ำคุณภาพของผลิตภัณฑ์ไทย และเป็นการเปิดประตูให้ “อาหารไทย” กลายเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับภารกิจอวกาศในอนาคต

เบื้องหลังความสำเร็จ : เทคโนโลยีและโอกาสเชิงพาณิชย์
ภารกิจนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของหลายภาคส่วน โดยมีบริษัท Axiom Space เป็นผู้จัดภารกิจเชิงพาณิชย์ที่ทำงานร่วมกับ NASA อย่างใกล้ชิด การเดินทางครั้งนี้ใช้จรวด Falcon 9 จากบริษัท SpaceX ซึ่งเป็นผู้ปฏิวัติวงการอวกาศด้วยเทคโนโลยีจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ทำให้ต้นทุนการขนส่งสู่อวกาศลดลงอย่างมหาศาล และเปิดโอกาสให้หน่วยงานเอกชนหรือประเทศต่าง ๆ สามารถเข้าถึงอวกาศได้ง่ายขึ้นกว่าในอดีต
เหตุการณ์นี้จึงสะท้อนให้เห็นถึงยุคสมัยใหม่ของ “อวกาศเชิงพาณิชย์” (Commercial Space) ที่การสำรวจอวกาศไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในหน่วยงานรัฐของมหาอำนาจอีกต่อไป

ก้าวต่อไปของไทยในเวทีอวกาศ
การที่ไก่ไทยได้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจระดับโลกครั้งนี้ ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่สร้างแรงบันดาลใจและแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยพร้อมที่จะมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจอวกาศ (Space Economy) มากขึ้น ดังที่ปรากฏในวิดีโอถ่ายทอดสด ซึ่งมีการพูดถึงโครงการวิจัยในอนาคตที่จะส่งอุปกรณ์ขึ้นไปทดลองผลิตอาหารสดในอวกาศ ยิ่งเป็นการยืนยันว่านี่ไม่ใช่แค่โครงการเฉพาะกิจ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางที่ยาวไกล
#BTbeartai #ไก่ไทยไปอวกาศ