แบตฯ เสื่อมก็ไม่ใช่ ปัญหาสายไฟก็ไม่เชิง อะไรคือสาเหตุที่แม้จะเสียบสายชาร์จเข้ากับโทรศัพท์แล้ว แต่เปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่กลับไม่เพิ่มกันล่ะ ? ใครกำลังเจอปัญหานี้อยู่ บทความนี้จะช่วยคลายสงสัย พร้อมแนะนำวิธีแก้ไข

โทรศัพท์ชาร์จเข้าแต่แบตฯ ไม่เพิ่ม เกิดจากอะไร ?

ปัญหาเวลาชาร์จแบตฯ แต่เปอร์เซ็นต์ไม่เพิ่มส่วนใหญ่จะมาจากปัจจัยหลัก ๆ ที่เราชอบมองข้าม ตามนี้เลย

  1. ปลั๊กไฟหลวม : อันนี้ปัญหาคลาสสิก เกิดขึ้นบ่อย แต่หลายคนมักจะไม่ค่อยได้มาเช็ก 
  2. อะแดปเตอร์หรือสายชาร์จเสีย / ไม่ได้มาตรฐาน : นี่คืออีกปัจจัยที่ทำให้ชาร์จไฟไม่เข้า แม้ว่าอุปกรณ์ชาร์จพวกนี้จะถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ทนทานมาก ๆ แต่ก็มีโอกาสชำรุดได้ โดยเฉพาะสายชาร์จที่มักจะชำรุดจากภายใน นอกจากนี้หากซื้อมาแบบถูก ๆ อาจจะเป็นของที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ผ่านมาตรฐาน ที่ทำให้ชาร์จไฟไม่เข้าอีกด้วย ซึ่สเคสนี้เกิดขึ้นบ่อย
  3. ซอฟต์แวร์ทำงานผิดปกติ (Software Glitches) : บางครั้งการทำงานของซอฟต์แวร์อาจจะเกิดบัก (BUG) จนทำให้ชาร์จไฟไม่เข้า เคสนี้เกิดขึ้นยากมาก ๆ 
  4. แบตฯ เสื่อม : หนึ่งในปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้ชาร์จแบตฯ ไม่ขึ้น หรือขึ้นไวกว่าปกติ และลดลงไวกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งเคสนี้เจอค่อนข้างบ่อยกับโทรศัพท์ที่มักจะชาร์จบ่อย ๆ  
  5. เครื่องอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป : ถ้าโทรศัพท์ร้อนหรือเย็นจัด มักจะเกิดอาการชาร์จไม่เข้า เพราะมีระบบตัดการชาร์จอัตโนมัติ เพื่อป้องกันความเสียหายกับตัวแบตเตอรี่ 
  6. ชิปควบคุมการชาร์จไฟเสีย : กรณีนี้เกิดขึ้นยากมาก แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้จากกรณีไฟตก หรือไฟกระชาก 

วิธีแก้ไขเบื้องต้น

  1. ลองเปลี่ยนสายชาร์จ : ถ้าเสียบชาร์จแล้วไม่ขึ้นสัญลักษณ์ชาร์จไฟ เป็นไปได้ว่าเป็นสายที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือเป็นสายปลอมครับ ส่วนใหญ่โทรศัพท์ Android จะไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไร แต่กับ iPhone จะเจอบ่อย เพราะจะมีการเช็กว่าสายได้มาตรฐาน MFi Certified (Made For iPhone/iPad/iPod) หรือไม่ ถ้าไม่ได้มาตรฐานจะชาร์จไฟไม่เข้า เพราะมีโอกาสที่จะส่งผลเสียต่อโทรศัพท์ในระยะยาว แต่ถ้าเช็กแล้วว่าเป็นสายแท้ หรือสายที่ได้มาตรฐาน ให้ลองดูว่าสายมีการฉีกขาดหรือไม่ 
  2. ลองเปลี่ยนอะแดปเตอร์ : เหมือนกับสายชาร์จ ถ้าไม่ได้มาตรฐานบางทีจะชาร์จไม่เข้า หรือเข้าช้า และถ้าบางตัวที่จ่ายไฟได้น้อยกว่าที่โทรศัพท์ต้องการ จะชาร์จไฟไม่เข้า หรือเข้าแต่แบตฯ ลดลงเรื่อย ๆ  
  3. เปลี่ยนปลั๊กไฟ : ปัญหาบางทีไม่ใช่ที่สายชาร์จ อะแดปเตอร์ หรือโทรศัพท์หรอกแต่ปลั๊กไฟนี่ตัวการเลย บางทีจะหลวม หรือไม่จ่ายไฟ ต้องลองเปลี่ยนดูก่อน 
  4. ทำความสะอาดพอร์ตชาร์จ : ปกติแล้วจะมีฝุ่นเข้าไปสะสมอยู่ภายใน ซึ่งอาจจะมีที่เป็นขุยด้วย ทำให้เวลาเสียบชาร์จมันไปบังแผงสัมผัสทำให้เกิดความผิดปกติ ชาร์จไฟไม่เข้า แนะนำว่าลองใช้ปลายของแปรงสีฟันขนนุ่ม ๆ ที่ยังไม่ผ่านการใช้งานลองเขี่ยออกมา
  5. บังคับรีสตาร์ตเครื่อง : บางครั้งปัญหาอาจจะเกิดจากที่ซอต์ฟแวร์ทำงานผิดพลาด วิธีการแก้ปัญหาคือรีสตาร์ตเครื่อง ให้ระบบทุกอย่างเริ่มทำงานใหม่ อาจจะแก้ปัญหานี้ได้ แต่ถ้าไม่สามารถรีสตาร์ตได้ด้วยวิธีปกติ ก็สามารถใช้การบังคับรีสตาร์ต (Force Restart) เพื่อสั่งให้ระบบเริ่มทำงานใหม่ทั้งหมด ด้วยวิธีการแบบนี้
    1. สำหรับ iPhone กดปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียงอย่างละ 1 ครั้งแล้วปล่อย จากนั้นกดปุ่ม Power ค้างไว้จนเห็นโลโก้ Apple 
    2. สำหรับ Android ส่วนใหญ่ให้กดปุ่ม Power และปุ่มลดเสียงค้างไว้จนสั่น 
  6. พักการใช้งานเครื่อง และปล่อยทิ้งไว้สักพัก : ถ้าเครื่องร้อนจัด หรือเย็นจัด ปกติโทรศัพท์จะตัดการชาร์จชั่วคราว เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับตัวแบตเตอรี่ ดังนั้นวางทิ้งไว้ให้เครื่องปรับอุณหภูมิกลับมาเป็นปกติก่อนแล้วค่อยลองชาร์จใหม่อาจจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ 
  7. อัปเดตซอฟต์แวร์ : ถ้ายังไม่อัปเดตซอฟต์แวร์โอกาสชาร์จแบตฯ ไม่เพิ่มสามารถเกิดขึ้นได้ 

สำหรับใครที่โทรศัพท์ชาร์จเข้าแต่แบตฯ ไม่เพิ่ม อย่าเพิ่งแพนิกกันไปก่อน ลองเอาทริกเหล่านี้ไปลองใช้ดูก่อน นอกจากนี้ใครที่กลัวว่าแบตฯ อาจจะเสื่อม แอบแนะนำว่าการถนอมแบตฯ ก็สำคัญ อย่าลืมดูแลแบตเตอรี่กันด้วยนะ