ถ้าพูดถึงซีรีส์ Digimon Story หลายคนคงนึกถึงการผจญภัยที่ผสมผสานการเล่าเรื่องดราม่ากับการสะสม Digimon จนกลายเป็น “ครอบครัวดิจิทัล” ของเราเอง มาครั้งนี้กับภาคใหม่ Digimon Story Time Stranger ทีมพัฒนานำเสนอมิติใหม่ที่ทั้งจริงจัง ซับซ้อน และมีรายละเอียดมากกว่าที่เคย จนแฟนเก่าและผู้เล่นใหม่ต้องจับตา


เรื่องราว: ความจริงที่เชื่อมโลกมนุษย์กับโลกดิจิทัล

Time Stranger วางโทนเรื่องให้เข้มข้นกว่าภาคก่อนๆ ตัวเกมพาผู้เล่นไปผจญภัยใน เมืองยุคปัจจุบันที่ถูกสร้างอย่างสมจริง ตั้งแต่ย่านร้านค้าไปจนถึงถนนพลุกพล่าน ก่อนจะเปิดประตูสู่ โลกดิจิทัลคู่ขนาน ที่เต็มไปด้วยสีสันเหนือจินตนาการและปริศนามากมาย

ธีมหลักของเรื่องคือ “การเชื่อมโยง” ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ Digimon หรือความจริงที่ซ่อนอยู่ในสองโลกที่ดำเนินไปพร้อมกัน ตัวเนื้อหามีการเล่าผ่านเหตุการณ์ที่ค่อยๆ เปิดปม ทำให้ผู้เล่นอยากก้าวต่อไปเพื่อค้นหาความจริง


Digimon กว่า 400 ชนิด: ระบบสะสมที่สนุกไม่รู้จบ

หนึ่งในเสน่ห์ตลอดกาลของซีรีส์ก็คือ การตามหา Digimon และใน Time Stranger ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะมีให้สะสมกว่า 400 สายพันธุ์ แต่ละตัวมีเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งรูปร่าง ความสามารถ และเส้นทางวิวัฒนาการ

วิธีเข้าร่วมทีมก็ตรงไปตรงมา: เมื่อเราสู้กับ Digimon แล้วชนะ จะได้ Point สะสม พอถึงจำนวนที่กำหนดก็สามารถ convert Digimon ตัวนั้นเข้าทีมได้ทันที ทำให้ทุกการต่อสู้มีความหมาย และชวนให้เราอยาก “ฟาร์ม” เพื่อปลดล็อก Digimon ที่เล็งไว้


ระบบ Digivolution & De-Digivolution: เล่นซ้ำได้ไม่รู้เบื่อ

แฟนๆ Digimon รู้ดีว่าการ Digivolution คือไฮไลต์ที่ทำให้ตื่นเต้นเสมอ และในภาคนี้ระบบนั้นถูกยกระดับให้ลึกขึ้น Digimon ของเราจะวิวัฒนาการได้หลายเส้นทางขึ้นอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ เช่น ค่าสถานะ การต่อสู้ หรือแม้แต่การเลือกของผู้เล่น

จุดพิเศษคือ ระบบ De-Digivolution ที่ให้เราย้อนกลับไปสู่ร่างก่อนหน้าได้ เพื่อทดลองเส้นทางการพัฒนาใหม่ๆ เช่น อยากลองให้ Koromon โตไปอีกสาย หรือลอง Digivolve สายป้องกันแทนสายโจมตี ก็ทำได้โดยไม่ต้องเริ่มเกมใหม่ ระบบนี้ทำให้การสะสมและพัฒนาทีม “ไม่มีทางตัน”


ธาตุ, ประเภท และกลยุทธ์การต่อสู้

เพื่อเพิ่มความเข้มข้น ทีมงานได้เสริม ระบบธาตุและประเภท ของ Digimon ซึ่งทำให้การต่อสู้ไม่ใช่แค่ “ตีแรงๆ แล้วจบ” แต่ต้องคิดให้รอบคอบว่าใครแพ้–ชนะทางใครบ้าง ยกตัวอย่างเช่น Digimon สายไฟฟ้าอาจได้เปรียบกับน้ำ แต่จะแพ้ทางดิน นอกจากนี้ยังมีระบบ Personality skill ที่จะพัฒนาไปตามสไตล์การเล่นของเรา และยังมีการใส่ Skill พิเศษให้กับ Digimon ของเราอีกด้วย

การจัดทีมที่สมดุลจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะใน Boss Fight ที่ท้าทาย การเข้าไปแบบไม่คิด อาจเจอศัตรูที่ต้านทานการโจมตีทั้งหมดของเราได้ ทำให้การเตรียมตัวและการวางแผนทีมคือกุญแจสำคัญในการผ่านด่าน


ระบบการต่อสู้: Turn-based ที่ไม่เชย

Time Stranger ใช้ระบบ Turn-based Battle ที่แฟน JRPG คุ้นเคย แต่ปรับให้ทันสมัยขึ้น

  • เลือกคำสั่ง: โจมตี, ป้องกัน, ใช้ Skill
  • Critical Point: จังหวะกดปุ่มพิเศษเพื่อสร้างดาเมจเพิ่ม ทำให้การเล่นต้องมีสมาธิ ไม่ใช่แค่กดรัวๆ
  • ปรับความเร็ว: ผู้เล่นสามารถเร่งความเร็วการต่อสู้ได้สูงสุดถึง 5 ระดับ ใครอยากลุยไวๆ ก็จัดไป ส่วนคนที่ชอบคิดละเอียดก็เล่นปกติ
  • Auto Battle: สำหรับคนที่อยากฟาร์มแบบไม่เครียด เกมก็มีระบบสู้ให้อัตโนมัติ

ระบบนี้ทำให้เกมเหมาะทั้งกับผู้เล่นสาย Casual ที่อยากเล่นสบายๆ และสาย Hardcore ที่อยากควบคุมทุกการตัดสินใจ


โลกเกมที่มีชีวิต: เมืองสมจริง + โลกดิจิทัลแฟนตาซี

หนึ่งในความประทับใจคือการออกแบบฉากแผนที่ เมืองจริง ที่เต็มไปด้วยรายละเอียด ทั้งแสงสี ป้ายโฆษณา และชีวิตผู้คน จากนั้นตัดไปสู่ โลกดิจิทัล ที่หลุดจากกรอบความเป็นจริง กลายเป็นพื้นที่แฟนตาซีที่ทั้งลึกลับและสวยงาม

เกมยังเพิ่มความสะดวกด้วย ระบบ Waypoint ที่ช่วยบอกเป้าหมายบนแผนที่ ลดปัญหาหลงทางในพื้นที่ซับซ้อน ทำให้ผู้เล่นโฟกัสกับการผจญภัยและต่อสู้ได้เต็มที่


ความรู้สึกหลังเล่น

Digimon Story Time Stranger เป็นเกมที่ “โตไปพร้อมกับแฟนๆ” อย่างแท้จริง โทนเนื้อเรื่องจริงจังและซับซ้อนขึ้น แต่ยังรักษาเสน่ห์ของการสะสมและเลี้ยงดู Digimon เอาไว้ครบถ้วน ระบบการต่อสู้ถูกปรับสมดุลให้สนุกทั้งสายคิดและสายชิว และระบบ Digivolution/De-Digivolution ทำให้ผู้เล่นอยากลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ


สรุป: ภาคที่แฟนต้องลอง

Time Stranger ไม่ได้เป็นเพียง “เกม Digimon ภาคใหม่” แต่เป็นก้าวต่อไปของซีรีส์ที่ใส่ใจทั้งเนื้อหาและเกมเพลย์ แฟนเก่าจะได้เสพความเข้มข้นของเรื่องราว ส่วนผู้เล่นใหม่ก็จะได้สัมผัสเสน่ห์ของการสร้างทีม Digimon ที่ไม่มีเกมไหนเหมือน

สำหรับใครที่เติบโตมากับ Digimon หรือกำลังมองหา JRPG ที่ผสมผสานการสะสม การวางแผน และการเล่าเรื่องสุดเข้มข้น นี่คือเกมที่ไม่ควรพลาด

Digimon Story Time Stranger จะวางจำหน่ายวันที่ 2 ตุลาคมนี้บนเครื่อง Console และ 3 ตุลาคมบน PC ครับ