เมื่อพูดถึงเนื้อเรื่องในวิดีโอเกมในยุคนี้ จะมีน้อยครั้งมาก ๆ ที่ตัวเกมจะใช้การสานต่อเรื่องราวจากพ่อแม่ไปสู่ลูก ส่วนมากเมื่อขึ้นภาคใหม่ก็จะเป็นเรื่องราวของตัวละครเก่าที่ยังได้รับความนิยม หรือตัวละครใหม่คนกลุ่มใหม่ที่ไม่ได้เกี่ยวกับตัวละครชุดก่อน เพราะการใช้ตัวละครรุ่นลูกจะมีข้อเสียตรงที่ช่วงเวลาในเกม ที่เมื่อเป็นลูกของตัวเอกนั่นก็หมายความว่าตัวละครผู้เป็นพ่อแม่ต้องแก่ลง จนอาจจะเอามาใช้ในงานในภาคต่อไปไม่ได้ ยิ่งในกรณีที่ตัวละครใหม่ที่เป็นลูกไม่ได้รับความนิยม การจะเอาตัวละครพ่อแม่ที่แก่แล้วให้กลับมาใช้ในภาคใหม่จึงยาก เมื่อเป็นแบบนั้นเราจึงไม่ค่อยเห็นเกมที่ใช้เนื้อเรื่องแบบนี้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเกมที่ทำแบบนี้ แถมตัวละครรุ่นลูกแต่ละคนก็มีความสามารถโดดเด่นน่าสนใจทั้งนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีตัวละครรุ่นลูกคนไหนที่สานต่อจากสิ่งที่พ่อแม่ทำไว้บ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาดูกันเลย

Nero จากเกม Devil May Cry

Devil May Cry

เริ่มต้นตัวละครแรกกับนักล่าปีศาจสุดกวน เจ้าของฉายาหัตถ์ปีศาจที่จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเนโร (Nero) หนึ่งในตัวเอกของซีรีส์เกม (Devil May Cry) ที่หลายคนคงจะทราบกันไปตั้งแต่ภาคที่ 4 แล้วว่าเนโรนั้นคือลูกแท้ ๆ ของเวอร์จิล (Vergil) แฝดผู้พี่ของดันเต้ (Dante) ที่หลังจากในเกมภาคที่ 3 เวอร์จิลได้ไปท้าสู้กับเจ้านรกก่อนจะพ่ายแพ้อย่างหมดรูปและถูกใช้เป็นลูกน้อง แต่ก่อนจะเกิดเรื่องรางในเกมภาคที่  3 ที่เป็นจุดเริ่มต้นนั้น เวอร์จิลได้แอบไปมีสัมพันธ์ทางเพศกับหญิงสาวบนเกาะ Fortuna เมื่อเนโรคลอดเขาก็ถูกทิ้งตั้งแต่ยังเป็นทารก แต่โชคดีที่เด็กน้อยได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดีกับครอบครัวที่รักเขา จนก่อนเหตุการณ์ในเกมภาคที่ 4 พลังปีศาจในตัวของเนโรตื่นขึ้นมา แขนของเขาก็กลายเป็นปีศาจในช่วงที่เข้าร่วม ‘Order of the Sword’ ตัวเนโรไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่เขาเป็นโดยเฉพาะแขนปีศาจที่ทำให้เขายิ่งต่างไปกับคนอื่น แต่เพราะพลังนี้เขาจึงสามารถปกป้องคนที่รักได้ เนโรจึงยินดีที่จะใช้มัน จนมาถึงภาคที่ 5 ที่เขาต้องเสียแขนไปให้ชายปริศนา เนโรจึงต้องใช้แขนกลในการปราบปีศาจ และถึงแม้จะเป็นแค่หลานของปีศาจในตำนาน แต่เนโรก็มีพลังเทียบเท่าพ่อกับอาของเขา(อาจจะมากกว่า) ปัจจุบันเนโรได้แขนใหม่กับคืนมาพร้อมพลังปีศาจที่ตื่นเต็มที่ และเขาก็ใช้พลังนี้ในการช่วยเหลือผู้คนปราบปีศาจต่างกับพ่อของเขาอย่างชัดเจน

Devil May Cry

Atreus จากเกม God of War

God of War

ถ้าเป็นสมัยก่อนเมื่อพูดถึงเกมในซีรีส์ ‘God of War’ เราจะคิดถึงความโหดเลือดสาดกับการเดินหน้าฆ่าล้างทวยเทพเหมือนคนบ้าขาดสติของเครโทส (Kratos) แต่พอมาในภาคล่าสุดเมื่อพูดถึง ‘God of War’ เราจะคิดถึงสองคนพ่อลูกที่ออกเดินทางไปยังดินแดนแห่งเทพเจ้าที่ลดความโหดดิบลงไป และแทนที่ด้วยระบบคู่หูที่เครโทสเราตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนที่สุขุมเป็นผู้ใหญ่เพราะเขาได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ในอดีตแล้วว่า การขาดสติทำอะไรลงไปแบบไม่คิดมันเป็นอย่างไร ซึ่งตอนนี้ลูกชายของเขาอย่างอเทรอัส (Atreus) ก็เริ่มจะเป็นแบบตนในอดีต นั่นคือมีความเลือดร้อนหุนหันไม่ต่างกับตนในอดีต และนอกจากความเลือดร้อนก็มีความอ่อนโยนขี้สงสารและเห็นใจปนอยู่ ซึ่งทั้งสองอย่างนั้นคือจุดอ่อนถ้าอยากเอาชีวิตรอดในโลกใบนี้ เครโทสจึงต้องทำคือการสั่งสอนลูกชายให้โตขึ้นมาเป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่จะไม่ทำผิดแบบตนที่เคยเป็น ซึ่งในเกมนั้นเราจะเห็นหลายครั้งว่าอเทรอัสมีทั้งความโมโหหุนหันแบบพ่อแต่ก็มีสติความอ่อนโยนเหมือนแม่ที่สอน ในตอนนี้เราอาจจะตอบอะไรไม่ได้ว่าอเทรอัสจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่เราก็พอจะเดาได้เลยว่าเขาต้องโตไปเป็นคนที่ดีแม่แม่และไม่ทำผิดพลาดแบบพ่อของเขาอย่างแน่นอน

God of War

Sherry Birkin จากเกม Resident evil

Resident evil

เปลี่ยนมาดูสาว ๆ กันบ้างที่หลายคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดีกับเชอร์รี่ เบอร์กิน (Sherry Birkin) อดีตสาวน้อยที่รอดชีวิตมาจากเมือง Raccoon ในเกม ‘Resident evil’ ที่เมื่อเราย้อนกลับไปในอดีตของเธอนั้นจะทราบว่าพ่อของเชอร์รี่นั้นคือ วิลเลียม เบอร์กิน (William Birkin) นักวิทยาศาสตร์ที่สามารถคิดค้นเชื้อ ‘G-Virus’ ขึ้นมาได้ แต่ด้วยความผิดพลาดและการหักหลังขององค์กร จึงทำให้วิลเลียมฉีด ‘G-Virus’ เข้าตัวจนกลายเป็นสัตว์ประหลาด ขณะที่แม่ของเชอร์รี่นั้นก็สนใจแต่พ่อของตนจนไม่ได้สนใจลูกที่ต้องหนีตายกลางดงซอมบี้คนเดียว และเมื่อแม่ของเธอรู้ว่าเชอร์รี่ถูก ‘G’ หรือพ่อของเธอใส่ตัวอ่อนให้ติดเชื้อ แม่ของเธอก็ไม่สนใจจะช่วยลูก แต่ตัวของเชอร์รี่ก็ยังรักเคารพพ่อแม่ของเธอ และเมื่อโตขึ้นเด็กสาวก็คิดจะไถ่บาปที่พ่อกับแม่ของเธอเคยทำเอาไว้ โดยการเป็นอาสาสมัคร ‘Division of Security Operations’ เพื่อช่วยเหลือผู้คนจากภัยเชื้อชีวภาพ ถือเป็นการชดเชยจากสิ่งที่พ่อของเธอทำไว้กับผู้คนก็สามารถพูดได้เต็มปาก

Resident evil

Ellie จากเกม The Last of Us

The Last of Us

แม้จะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่ความความสัมพันธ์ระหว่างเอลลี่ (Ellie) และโจเอล (Joel) ก็มีความรักและผูกพันมากกว่าพ่อลูกแท้ ๆ หลาย ๆ คู่เสียอีก แถมในเกมถ้าใครที่ได้เล่นจะทราบดีว่าตัวของเอลลี่นั้นก็รักเคารพโจเอลมาก ๆ ถึงขนาดเคยน้อยใจจนหนีออกมาในป่า เมื่อรู้ถึงความรู้สึกของโจเอลที่ต้องการให้คนอื่นไปส่งเอลลี่แทนตัวเอง เด็กหญิงคิดว่าโจเอลไม่รักตนแบบที่เธอรักโจเอลเหมือนพ่อ ขณะที่ชายแก่ก็รู้สึกรักเอลลี่เหมือนลูกสาวที่จากไป แต่เขาไม่อยากผูกพันกับเอลลี่ไปมากกว่านี้ จนพยายามที่จะตัดสายสัมพันธ์นี้ทิ้งก่อนที่จะตัดกันไม่ขาด จนเมื่อโจเอลรู้ว่าเอลลี่ก็รู้สึกเหมือนตนทั้งคู่จึงยอมรับในความรักนั้น จนมาในภาคที่สองที่เอลลี่ทราบความจริงว่าโจเอลโกหกตนเรื่องการผ่าตัดที่เอลลี่ต้องตาย ทั้งคู่ก็สามารถปรับความเข้าใจกันได้ ซึ่งสิ่งที่หล่อหลอมให้เอลลี่เติบโตและให้อภัยโจเอลก็เพราะเอลลี่รู้ว่าโจเอลทำไปเพราะรักเธอ  ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอให้อภัยแอ็บบี้ (Abby) ไม่ได้นั่นเอง เพราะแอ็บบี้ได้พรากคนที่รักเธอที่สุดในชีวิตไปแบบไม่มีวันกลับ คงต้องรอดูกันต่อไปว่าชีวิตเอลลี่จะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะเธอเลือกจะมีชีวิตต่อไปตามที่โจเอลพ่อของเธอต้องการ

The Last of Us

Clementine จากเกม The Walking Dead

The Walking Dead

อีกหนึ่งคู่ที่ไม่ใช่พ่อลูกแท้ ๆ แต่ก็รักผู้พันกันจนวินาทีสุดท้าย กับสาวน้อยคลีเมนไทน (Clementine) จากเกม ‘The Walking Dead’ ที่ตัวเกมได้บอกเล่าเรื่องราวของลี (Lee) ชายผู้ถูกจับบนรถตำรวจก่อนจะเจออุบัติเหตุจนรถตกข้างทาง ลีตกใจเมื่อเห็นนายตำรวจกลายเป็นซอมบี้จึงหนีไปที่บ้านหลังหนึ่ง ที่นั่นเขาพบวิทยุสื่อสารที่เป็นเสียงของเด็กผู้หญิงที่แอบอยู่บนบ้านต้นไม้ เพราะพี่เลี้ยงของเธอกลายเป็นซอมบี้ ลีที่ช่วยสาวน้อยคลีเมนไทน์ลงมาได้ทั้งคู่ก็ออกเดินทางใช้ชีวิตร่วมกันในกลุ่มผู้รอดชีวิตกลุ่มต่าง ๆ จนความสัมพันธ์ของทั้งคู่ผูกพันกันเหมือนพ่อลูกแท้ ๆ ซึ่งถ้าใครที่ดูหรืออ่านซีรีส์ ‘The Walking Dead’ มาจะทราบดีว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นต้องมีตัวละครคนใดคนหนึ่งตาย ซึ่งก็คือลีที่ถูกซอมบี้กัดและคลีเมนไทน์ก็เป็นคนฆ่าพ่อของเธอด้วยมือตัวเอง แต่สิ่งที่ลีได้สอนเอาไว้ระหว่างที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน ก็หล่อหลอมให้เด็กสาวเติบโตเป็นคนที่แข็งแกร่ง และพร้อมจะปกป้องทุกคนได้ในเวลาต่อมา นับเป็นการสานต่อความรักความกล้าและความผูกพันกันที่หนังซีรีส์ซอมบี้หลายเกมจะทำได้

The Walking Dead

Bowser Jr. จากเกม Super Mario

Super Mario

เล็กพริกขี้หนูคือคำจำกัดความของบุคคลที่มีขนาดตัวเล็ก แต่ความสามารถที่มีนั้นกลับต่างกับขนาดตัวอย่างมากมาย ซึ่งเจ้า บาวเซอร์ จูเนียร์ (Bowser Jr.) ก็คือหนึ่งในตัวละครที่ถูกจัดอยู่ในนั้น เพราะตั้งแต่ที่เจ้าหนูจูเนียร์ออกมาสร้างความวุ่นวายในเกม ‘Super Mario Sunshine’ เราก็ได้เห็นว่าเขานั้นมีความสามารถในการวางแผนและฉลาดกว่าพ่อ โดยเริ่มจากครั้งแรกที่เขาสร้างความวุ่นวาย โดยการปลอมตัวเป็นมาริโอ้ (Mario) เพื่อไปสร้างความวุ่นวายโดยการทาสีตามสถานที่ต่าง ๆ บนเกาะจนชาวเมืองเกลียดมาริโอ้ ก่อนจะเฉลยออกมาว่าเขาคือลูกชายของบาวเซอร์ (Bowser) และต้องการจับเจ้าหญิงพีช (Princess Peach) แม่ของตนไปให้พ่อ ซึ่งหลังจากนั้นเราก็ได้เห็นจูเนียร์ออกมาสร้างความวุ่นวายอีกหลายครั้ง เพราะถึงเขาจะรู้ว่าเจ้าหญิงพีชไม่ใช่แม่แท้ ๆ แต่เขาก็พร้อมจะทำเพื่อพ่ออย่างสุดความสามารถเพื่อให้พ่อมีความสุข เรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ

Super Mario

Brigitte จากเกม Overwatch

Overwatch

ถ้าคุณมีพ่อ 2 คน (คนหนึ่งคือพ่อทูนหัว) และคุณก็รักท่านทั้งคู่และอยากจะทำให้ทั้งทั้งคู่ภูมิใจในสิ่งที่เธอเป็น บริกิตเต (Brigitte) จึงเลือกที่จะเดินไปบนทางที่พ่อทั้งสองคนอยากให้เป็นอย่างเต็มใจ โดยทางแรกบริกิตเตเลือกจะเป็นช่างประดิษฐ์เครื่องกลแบบท็อปจอห์น (Torbjörn) พ่อของตน ที่เป็นถึงคนแคระช่างเครื่องของกลุ่ม ‘Overwatch’ ที่เคยปกป้องโลกจากภัยหุ่นยนต์มาแล้วในอดีต โดนเธอได้สร้างชุดเกราะโล่ของตนเองขึ้นมาด้วยตนเอง ก่อนจะที่จะให้พ่อทูนหัวของเธอไรน์ฮาร์ท (Reinhardt) อดีตทหารนักรบสุดแกร่งในสงครามที่สู้เคียงข้างพ่อของเธอ ช่วยสอนวิชาต่อสู้ด้วยค้อนและโล่ จนบริกิตเตกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัวของพ่อทั้งสองคน จนทำให้เธอเป็นทั้งนักรบที่แข็งแกร่งและนักประดิษฐ์มากความสามารถที่ช่วยเพื่อนร่วมทีมในเกม ‘Overwatch’ ได้เป็นอย่างดี เรียกว่าไม่ทำให้พ่อทั้งสองคนของเธอผิดหวัง

Overwatch

Elizabeth จากเกม BioShock Infinite

BioShock Infinite

เจอลูกที่ดีน่ารักมาเยอะแล้วคราวนี้มาดูลูกที่ต่างกับพ่อกันบ้าง กับเอลิซาเบธ (Elizabeth) สาวน้อยพลังเปิดประตูมิติในเกม ‘BioShock Infinite’ ที่ต้องบอกว่าเนื้อเรื่องเกมนี้ค่อนข้างจะซับซ้อนเกี่ยวกับห้วงมิติต่าง ๆ ที่เป็นเหมือนโลกคู่ขนานกันไป ซึ่งเอลิซาเบธสามารถข้ามหรือดึงผู้คนจากมิติต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ ซึ่งมันก็เกี่ยวข้องกับบุ๊คเกอร์ เดอวิทท์ (Booker Dewitt) ผู้เป็นพ่อที่ขายลูกสาวตัวเองตอนเป็นทารก จนโชคชะตาให้เขาต้องมาเจอกับลูกสาวอีกครั้ง แต่ด้วยเรื่องราวของห้วงมิติเวลาที่ต่างกันจึงทำให้ทั้งคู่ไม่รู้เรื่องความเป็นพ่อลูก จนเมื่อเกมมาถึงช่วงท้ายที่การมีอยู่ของบุ๊คเกอร์จะทำลายมิติเวลาที่มีอยู่ เอลิซาเบธจึงต้องไปฆ่าพ่อของเธอตามโลกต่าง ๆ มากมายให้หมด โดยที่เรื่องราวทุกอย่างมันเกิดจากความผิดพลาดของผู้เป็นพ่อที่ลูกต้องมามือเปื้อนเลือดฆ่าพ่อตัวเองซ้ำไปซ้ำมาในมิติต่าง ๆ แต่ความกล้าหาญเด็ดขาดที่เอลิซาเบธได้นั้น ก็มาจากช่วงเวลาที่เธอได้อยู่กับบุ๊กเกอร์ที่สอนให้เธอเปลี่ยนจากสาวน้อยที่อ่อนต่อโลกให้มีเป้าหมายของชีวิต นับเป็นการจบเกมที่สมบูรณ์แบบในตัวเองใครไม่เคยเล่นเราขอแนะนำเลย

BioShock Infinite

Solid Snake จากเกม Metal Gear

Metal Gear

ว่ากันตามหลักสากลแล้วถ้าวันหนึ่งเราเกิดมีร่างโคลนิ่ง (Cloning) หรือตัวที่เหมือนเราเกิดขึ้นมา นั่นจะถูกนับว่าร่างโคลนนั้นคือลูกของเรา เพราะถ้ามองกันตามหลักแล้วการโคลนนิ่งก็ไม่ต่างอะไรกับการให้กำเนิดมนุษย์ตามปกติ แค่ DNA ที่ร่างโคลนนิ่งนั้นจะเหมือนกับเราทุกประการ ต่างกับลูกของเราที่จะมี DNA ของพ่อแม่อย่างละครึ่ง และการโคลนนิ่งสิ่งมีชีวิตโดยเฉพาะมนุษย์คือสิ่งที่ผิด แต่ในโลกของวิดีโอเกมนั้นมันต่างออกไป เพราะเราจะเห็นตัวละครที่เป็นร่างโคลนของตัวละครนั้น ๆ ออกมาอย่างมากมาย และตัวละครเหล่านั้นก็ยอมรับร่างโคลนว่าเป็นลูกเหมือนที่ ‘BigBoss’ ยอมรับ ‘Solid Snake’ จากเกม ‘Metal Gear’ ว่าเป็นลูก ซึ่งถ้าว่ากันจริง ๆ ตอนที่ทั้งคู่ต่อสู้กันนั้นตัวลูกหรือ ‘Solid Snake’ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่นคือพ่อแต่คิดว่าเป็นอาจารย์ที่เคารพไม่ต่างกับพ่อ จนเมื่อมารู้ความจริงว่าชายที่ตนเคารพดุจอาจารย์และเป็นพ่อของตนคือผู้ก่อการร้าย ‘Solid Snake’ จึงเลือกที่จะเดินทางที่ต่างออกมา และทิ้งวิชาที่พ่อของตนเคยสอนเพื่อเริ่มต้นใหม่ ก่อนจะทราบความจริงว่าเหตุผลที่พ่อของเขาต้องเป็นผู้ก่อการร้ายให้ทุกคนเกลียด ก็เพื่อที่จะตามล่า ‘The Zero’ ผู้อยู่เบื้องหลังการควบคุมโลกภายในเกม การสร้างความวุ่นวายนี้จะทำให้ ‘The Zero’ ออกมา แต่ทาง ‘The Zero’ กลับเลือกใช้ลูกชายที่เป็นร่างโคลนออกมาต่อสู้กับ ‘Big Boss’ เป็นการเอาคืน จนเมื่อทั้งคู่ได้ปรับความเข้าใจและรับรู้ในสิ่งที่เป็น สุดท้ายในบั้นปลายชีวิต  ‘Solid Snake’ ก็ตายอย่างสงบแบบไม่มีอะไรติดค้าง รวมถึงพ่อของเขาที่ก็ได้ปรับความเข้าใจและฆ่า ‘The Zero’ ได้ด้วยมือตนเอง เป็นการจบเรื่องราวของ ‘Solid Snake’ ได้อย่างสมบูรณ์ที่นักเล่นเกมพอใจ

Metal Gear

Heather Mason จากเกม Silent Hill 3

Silent Hill 3

หนูจะเติบและเข้มแข็งแบบที่พ่อต้องการ นั่นคือคำพูดของเฮเธอร์ เมสัน (Heather Mason) ตัวเอกจากเกม ‘Silent Hill 3’ ที่ถ้าใครที่ติดตามเกมซีรีส์นี้มาตลอดจะทราบดีว่าตัวของเฮเธอร์นั้นไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แฮรี่ เมสัน (Harry Mason) แต่เธอคือหนึ่งร่างแยกของอัลเลสซ่า กิลเลส (Alessa Gillespie) และเชอร์รี่ เมสัน (Cheryl Mason) สองจิตวิญญาณที่แยกจากกันในเกม ‘Silent Hill’ ภาคแรก จนเมื่อวิญญาณทั้งคู่มารวมกันและแตกสลาย จึงเหลือเพียงร่างของเด็กทารกที่แฮรี่ได้มาในช่วงท้ายเกมภาคแรก จนเวลาผ่านเลยมาหลายสิบปีแฮรี่ก็เลี้ยงดูเด็กน้อยและตั้งชื่อเธอว่าเชอร์รี่ เมสัน ตามชื่อเดิมที่ร่างก่อนเคยใช้ แต่ทั้งสองพ่อลูกก็ถูกพวกลัทธิ ‘The Order’ ตามล่าจนเธอต้องเปลี่ยนสีผมเปลี่ยนชื่อเป็นเฮเธอร์เพื่อปลอมตัว ซึ่งเฮเธอร์ก็ทราบดีว่าพ่อของเธอนั้นไม่ใช่พ่อแท้ ๆ แต่แฮรี่ก็รักและสอนสิ่งต่าง ๆ ให้ลูกสาว เพื่อในอนาคตที่ไม่มีตนคอยปกป้องเด็กสาวจะดูแลตัวเองได้ และมันก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ ที่เมื่อพ่อของเธอตายเพราะปีศาจ แทนที่เฮเธอร์จะหนีแบบพ่อของเธอ เด็กสาวกลับเลือกที่จะเข้าไปจัดการทุกอย่างให้จบ และเธอก็ทำตามที่ให้สัญญากับพ่อเรื่องการใช้ชีวิตให้คุ้มค่า นับเป็นอีกหนึ่งเกมที่จบได้สมบูรณ์แบบภาคหนึ่งของซีรีส์เลยทีเดียว

Silent Hill 3

Katey Greene จากเกม Dead Rising 3

Dead Rising 3

อีกหนึ่งตัวละครที่เลือกเดินตรงข้ามกับพ่อ และเลือกที่จะช่วยเหลือทุกคนที่เดือดร้อนแบบเดียวกับที่พ่อของเธอเคยทำในอดีต กับตัวละครสาวน้อยเคที่ กรีน (Katey Greene) จากเกม ‘Dead Rising 3’ ที่ถ้าใครเคยเล่นเกม ‘Dead Rising 2’ มาก่อนจะรู้จักตัวละครนี้เป็นอย่างดี เพราะเธอนั้นคือหนึ่งในตัวแปรสำคัญในเรื่องที่ชัค กรีน (Chuck Greene) ผู้เป็นพ่อที่ต้องไปหายาต้านซอมบี้มาฉีดให้เธอทุก ๆ 24 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้นเคที่จะกลายเป็นซอมบี้และจบเกมทันที จนเมื่อจบเรื่องราวในเกมภาค 2 มาหลายปีชักก็เริ่มจะเปลี่ยนตัวเองจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลมาเป็นสนับสนุนรัฐบาล เพื่อให้ลูกสาวของตนได้รับการติดตัวเครื่องที่สามารถฉีดยาต้านได้แบบไม่ขาด (ยานี้ต้องฉีดทุก ๆ 24 ชั่วโมงห้ามขาด) แต่เคที่ไม่เชื่อในสิ่งที่รัฐบาลบอกและผิดหวังในตัวพ่อทำจึงหนีออกมาและเปลี่ยนชื่อเป็นแอนนี่ (Annie) ที่เป็นชื่อกลางเพื่อหนีพ่อเพื่อมาเข้ากับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลที่ชื่อ ‘Illegals’ ในเมือง Los Perdidos แต่สุดท้ายหัวหน้ากลุ่มก็แอบตกลงกับรัฐบาลเพื่อจะส่งตัวเคที่ให้ ก่อนจะถูกนิค รามอส (Nick Ramos) พระเอกของเกมมาช่วย ก่อนที่ชัคที่เมื่อรู้ว่าเคที่อยู่ที่เมืองนี้จึงรีบมาช่วยทันที และได้ปรับความเข้าใจกัน เพราะชัคเองก็เป็นห่วงเคที่ที่ต้องหนีการตามล่าของรัฐบาล และการได้ฉีดยาทุกวันของรัฐบาลก็อาจจะช่วยลูกสาวได้ถ้าวันหนึ่งไม่มีตนคอยดูแล แต่เคที่ก็แสดงให้พ่อเห็นว่าเธอสามารถเอาชีวิตรอดได้ด้วยตัวเองโดยที่พ่อไม่ต้องเป็นห่วง สุดท้ายพ่อลูกก็เข้าใจกันและร่วมมือกันช่วยโลกใบนี้เอาไว้ได้

Dead Rising 3

Jin Kazama จากเกม Tekken

Tekken

ถ้าจะมีตัวละครที่รักแม่เกลียดพ่อ จนขนาดที่ว่าจะฆ่ากันให้ตายก็ทำได้ คงต้องยกให้ลูกไม้ไกลต้นอย่างจิน คาซาม่า (Jin Kazama) จากเกม ‘Tekken’ มาพูดถึง เพราะตั้งแต่ที่จินจำความได้เขาก็อยู่กับแม่ในป่ากันสองคนอย่างมีความสุข จนวันหนึ่งออก้า (Ogre) ปีศาจโบราณที่หลุดออกมาได้ค้นหานักรบที่แข็งแกร่ง ซึ่งจุน คาซาม่า (Jun Kazama) ผู้เป็นแม่ของจิน ก็ถูกฆ่าตายจนทำให้จินต้องมาอยู่กับปู่เพื่อฝึกวิชาที่จะได้แก้แค้นให้แม่ จนสามารถแก้แค้นได้เขากลับถูกปู่หักหลังจนทอดทิ้งวิชาที่เคยเรียนมาจากปู่ แล้วมาใช้วิชาใหม่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำลายพลังปีศาจในตัว จนเมื่อเวลาผ่านไปจินก็พบกับผู้เป็นพ่ออย่างคาซึยะ มิชิมา (Kazuya Mishima) ที่ไม่สนใจลูกชายหรือแยแสแม่ที่จากไปเลย จนทำให้จินเกลียดพ่อและคิดที่จะทำลายพลังปีศาจในตัวเพราะไม่ต้องการเหมือนพ่อของตัวเอง ซึ่งความคิดที่จะทำลายพลังนั้นโดยไม่สนใจอะไรก็ดันไปคล้ายนิสัยฝั่งพ่อโดยที่จินไม่รู้ตัว ต้องมาริดูในภาคต่อ ๆ ไปว่าจินจะเรียกจิตใจอันดีงามฝั่งแม่กลับมาได้รึไม่ในภาคต่อไป

Tekken

Rosemary Winters จากเกม Resident Evil Village

Resident Evil Village

ปิดท้ายกับตัวละครที่หลายคนต่างหลงรัก และอยากให้เธอมีบทบาทต่อไปในอนาคต กับโรสแมรี่ วินเทอร์ (Rosemary Winters) จากเกม ‘Resident Evil Village’ ที่หลายคนน่าจะทราบกันแล้วว่าตัวของโรสนั้นเป็นหนึ่งในผู้มีพลังพิเศษ ที่ได้มาจากพ่อของเธอที่เป็นเหมือนผู้ติดเชื้อ ‘Mold’ แต่สามารถคืนสภาพและไม่ถูกต้นทางเชื้อที่มีพลังมากกว่าควบคุม  จึงทำให้โรสที่เป็นลูกสาวได้พลังความสามารถนี้ไปแบบเต็ม ๆ  แต่ตอนที่พ่อของเธอจากไปนั้นตัวของโรสอายุเพียง 6 เดือนเท่านั้น เด็กน้อยจึงยังไม่ทันได้เรียนรู้อะไรจากพ่อของเธอเลย แต่ไม่ว่าจะยังไงโรสก็ยังคงรักพ่อของเธอ และน่าจะได้รับฟังสิ่งต่าง ๆ ที่พ่อของเธอได้ทำเอาไว้จากคนรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการบุกเดี่ยวไปช่วยแม่จากครอบครัวปีศาจ ไปจนถึงบุกรังสัตว์ประหลาดฆ่าล้างเกือบหมดหมู่บ้านเพื่อช่วยลูก เพียงเท่านี้ก็ทำให้โรสรักและเทิดทูนพ่อของเธอได้แล้ว และแน่นอนว่าโรสต้องเป็นหนึ่งในตัวละครที่เดินตามพ่อของเธอ ที่จะปกป้องคนที่รักและทุกคนด้วยความสามารถที่มีอย่างสุดกำลัง คงต้องรอดูต่อไปว่าเรื่องราวของสาวน้อยคนนี้เป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต

Resident Evil Village

ก็จบกันไปแล้วกับ 13 ตัวละครลูก ๆ ที่เดินและไม่เดินตามรอยพ่อแม่ในการใช้ชีวิต โดยเราพยายามเลือกลูกหลาน ๆ แบบทั้งพ่อแม่แท้ ๆ พ่อแม่บุญธรรมไปจนถึงพ่อแม่ลูกที่ไม่รักกันมานำเสนอหวังว่าจะถูกใจกัน โดยเราต้องอธิบายก่อนว่าในต่างประเทศจะเน้นเรื่องราวของพ่อลูกมากกว่าเรื่องราวของแม่ลูกแบบบ้านเรา ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจถ้าจะเห็นเรื่องของพ่อลูกมากกว่าเรื่องของแม่ลูก และถ้าบทความนี้ขาดลูกคนไหนไปก็มาแนะนำกันได้เพื่อแลกเปลี่ยนกัน ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส