สีทาภายในเป็นตัวช่วยสำคัญในการแต่งแต้มสีสันภายในที่พักของคุณให้เป็นไปตามสไตล์ที่ชื่นชอบ ซึ่งมีหลากหลายเฉดสีให้คุณเลือกใช้ บทความนี้จะพาคุณมาดูวิธีเลือกสีทาภายในให้ตอบโจทย์และปลอดภัยต่อสุขภาพ

การเลือกสีทาบ้านในให้ตอบโจทย์อาจไม่แค่เรื่องของการเลือกสีที่ถูกใจเท่านั้น เพราะหากคุณเลือกสีให้ดีอาจช่วยทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นและปลอดภัยขึ้นด้วย

สีทาภายในกับอารมณ์และสมอง

หลายคนคงทราบกันดีว่าสีสันส่งผลต่ออารมณ์และสมอง ซึ่งการเลือกสีทาภายในตามหลักจิตวิทยานั้นน่าสนใจไม่น้อย เพราะไม่ใช่แค่ช่วยให้ห้องของคุณดูสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับอารมณ์และกระตุ้นการทำงานของสมองในด้านที่แตกต่างกันออกไปด้วย 

หากย้อนกลับไปสมัยเรียน หลายคนคงพอผ่านตาเรื่องของวรรณะสีกันมาบ้าง เช่น สีโทนร้อน อย่างสีส้ม สีเหลือง สีแดงให้ความรู้สึกอบอุ่น ส่วนสีโทนเย็น อย่างสีฟ้า สีเขียวให้ความรู้สึกเย็นสบาย แต่เรื่องของสีกับอารมณ์ไม่ได้มีแค่นั้น มาดูดัวอย่างกัน

  • สีเหลือง สีสันแห่งความสุขและตัวแทนแห่งแสงอาทิตย์ช่วยให้คุณรู้สึกมีความสุขได้ง่ายขึ้น ซึ่งเหมาะกับแทบทุกพื้นที่ภายในที่พักอาศัย โดยเฉพาะห้องรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องอาบน้ำ
  • สีเขียว สีแห่งการพักผ่อน ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ ลดความตึงเครียดเหมาะกับห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว หรือถ้าใครมองหาสีทาภายในสำหรับพื้นที่ทำงาน สีเขียวก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะช่วยเสริมเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ความจำ และการแก้ไขปัญหาด้วย
  • สีฟ้า สีแห่งความสงบเหมาะสำหรับห้องพักผ่อนหรือพื้นที่ที่ต้องการความรู้สึกสบาย ๆ อย่างห้องนอนและห้องน้ำ ข้อมูลบางส่วนบอกว่าการมองสีฟ้าจะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายและอาจช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีอีกสารพัดสีที่มีคาแรกเตอร์และส่งผลต่ออารมณ์ในแบบที่แตกต่างกันออกไป อย่างสีแดงที่ควรเลี่ยงสำหรับห้องทำงาน เพราะอาจมีผลต่อการคิดวิเคราะห์ได้ หรือจะเป็นเรื่องของเฉดสีและโทนสี ความเข้มอ่อนก็ส่งผลด้วยเช่นกัน

ผลกระทบสุขภาพจากสีทาภายใน

ถัดมาเรามาคุยเรื่องสีทาภายในกับสุขภาพกันบ้าง โดยสีทาภายในล้วนแต่ผลิตจากสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นสารทำละลายและ VOCs ที่เป็นสารระเหยที่ลอยอยู่ในอากาศ นอกจากนี้ ยังมีสารเคมีอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไปตามฟังก์ชัน อย่างสีลบได้ สีกันน้ำ หรือสีป้องกันรอยขีดข่วนก็จะมีสารชนิดอื่นผสมมาด้วย

การหาข้อมูลเรื่องสารเคมีในสีทาบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าหากเลือกไม่ดีก็อาจเพิ่มความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพได้ เช่น

  • ผลกระทบด้านผิวหนังและดวงตา บางคนอาจชอบการทาสีด้วยตัวเอง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แถมยังสนุกอีกด้วย แต่การสัมผัสกับสารเคมีในสีทาบ้านอาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง เกิดผื่นแดงคัน หากสัมผัสกับดวงตาก็ทำให้แสบตาได้ หรือแม้ว่าสีไม่ได้สัมผัสกับดวงตาโดยตรง แต่สารระเหยจากสีก็ทำให้เยื่อบุตาระคายเคืองได้
  • ผลกระทบด้านทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล แสบจมูก แสบคอ ไอ หรือหายใจลำบาก
  • ผลกระทบด้านสมอง อย่างปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน ทั้งยังอาจทำให้ตาพร่าและส่งผลต่อการคิดได้ด้วย

แม้ว่าผลข้างเคียงเหล่านี้จะพบได้น้อยและไม่ค่อยรุนแรง แต่ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ทุกครั้งที่ต้องสัมผัสกับสีทาภายในก็ควรสวมอุปกรณ์ อย่างถุงมือ หน้ากากอนามัย และแว่นตาป้องกันสารเคมีเสมอ ระหว่างทาก็ควรพักออกไปสูดอากาศด้านนอกบ่อย ๆ และเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศให้เทอยู่ตลอด

นี่ก็คือวิธีเลือกและวิธีใช้สีทาภายในให้ตอบโจทย์และปลอดภัย โดยสีที่เราได้ยกตัวอย่างเป็นเพียงแนวทางเท่านั้น คุณสามารถเลือกสีที่ชอบให้กับห้องไหนในบ้านของคุณได้ตามใจชอบ

แต่ HfH ขอแนะนำว่าทุกครั้งที่มองหาสีทาภายใน ควรเลือกยี่ห้อที่ไม่มี VOCs หรือ VOCs ต่ำเพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพ ยิ่งบ้านไหนมีคนท้อง ทารก เด็กเล็ก หรือคนป่วยก็ยิ่งควรระวัง ไม่ว่าจะเป็นในห้องนอนของเจ้าตัวน้อย หรือพื้นที่อื่น ๆ ของบ้านด้วย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส