ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องแดดและอากาศร้อน แม้ในความเป็นจริงแสงแดดจะมีข้อดี ทำให้ร่างกายได้รับวิตามินดี และทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่ข้อเสียของแสงแดดก็มีอยู่มากเช่นกัน

สาว ๆ หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าในทุก ๆ วันไม่ว่ามีกิจกรรมมากน้อยแค่ไหน ครีมกันแดดถือเป็นสิ่งสำคัญเสมอ ไม่ใช่แค่ปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ผิวไหม้ เท่านั้น แต่การตากแดดเป็นเวลานานโดยเฉพาะช่วงเวลา 10.00 – 16.00 น. ซึ่งเป็นเวลาแดดจัด ยังทำให้ใบหน้าของคุณเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ร้ายแรงกว่านั้นอาจเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้

ความสำคัญของครีมกันแดด

ครีมกันแดด เป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนไม่ควรมองข้าม แม้จะไม่ได้ออกกิจกรรมกลางแจ้งก็ควรทาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันแสงที่มองไม่เห็น ขณะเดียวกันก็สามารถเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF15 ขึ้นไปจนถึง SPF50 เพื่อการปกป้องที่ได้ประสิทธิภาพตามกิจกรรมที่ตนเองต้องเผชิญ และควรทาซ้ำในทุก ๆ 2 ชั่วโมง

แต่ขณะเดียวกัน ผู้หญิงหลายคนหรือบางคนอาจไม่ชอบความรู้สึกเหนียวเหนอะจากครีมกันแดด เพราะครีมกันแดดบางตัวที่ช่วยปกป้องสูงก็ต้องแลกมาด้วยความเหนียวข้นของครีม บางคนถึงกับไม่ยอมทาครีมกันแดดก็มี หรือบางคนไม่อยากทาซ้ำระหว่างวัน ซึ่งนวัตกรรมของครีมกันแดดในปัจจุบันก็ได้พัฒนาเพื่อให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานมากขึ้น โดยเปลี่ยนสภาพสารกันแดดออกมาในรูปแบบอื่น

ชนิดของผลิตภัณฑ์กันแดด

  • กันแดดเนื้อครีม

ปัจจุบันกันแดดเนื้อครีมยังคงเป็นกันแดดที่ได้รับความนิยม เพราะใช้ง่ายให้ความรู้สึกเหมือนกำลังทาครีมบำรุงผิวอยู่ ที่สำคัญมีหลายแบรนด์ให้เลือกสรรตามแต่ละสภาพผิวของตนเอง แต่อย่างไรก็ตาม ครีมกันแดดเนื้อครีมก็อาจไม่เหมาะกับคนที่หน้ามันมาก ๆ หรือผิวที่มีแนวโน้มเกิดสิว 

  • กันแดดเนื้อเจล

กันแดดเนื้อเจลจะใช้ง่ายคล้ายกับกันแดดเนื้อครีม เหมาะกับผู้ที่มีผิวมันหรือผิวผสม เพราะเนื้อเจลจะซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย ไม่หนักหน้า ซึ่งปัจจุบันก็มีวางขายตามท้องตลาดให้ผู้ใช้ได้เลือกซื้อให้เหมาะกับความต้องการของตนเอง

  • กันแดดสูตรน้ำนม

กันแดดสูตรน้ำนม เป็นกันแดดสูตรที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ลักษณะเมื่อเทออกมาแล้วจะคล้ายกับน้ำนม มีความชุ่มชื้นแต่เมื่อทาลงใบหน้าก็จะซึมซาบสู่ผิว ไม่ทิ้งความมันเอาไว้ โดยกันแดดสูตรนี้เหมาะกับคนที่ผิวแห้ง และผิวมัน เพราะคนผิวมันเองก็ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเช่นกัน เพื่อไม่ให้ผิวผลิตน้ำมันออกมาจนเกิดความหน้ามันเพิ่มขึ้นนั่นเอง 

  • กันแดดชนิดสเปรย์

กันแดดในรูปแบบของสเปรย์กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันไม่น้อย เพราะสะดวก รวดเร็ว ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังใช้สเปรย์เซตเครื่องสำอาง และอย่างที่ทราบกันว่าการทาครีมกันแดดนั้นควรทาซ้ำทุก ๆ 2 ชั่วโมง ซึ่งบางคนอาจไม่สะดวกหากต้องนำครีมหรือเจลกันแดดมาทาซ้ำบนใบหน้า กันแดดในรูปแบบสเปรย์ก็ถือว่าตอบโจทย์ เพราะสามารถฉีดได้ทุกเมื่อที่ต้องการแถมซึมซาบสู่ผิวได้ไวไม่เป็นคราบอีกด้วย

  • กันแดดแบบแท่ง

ปัจจุบันครีมกันแดดแบบแท่งก็ได้รับความสนใจไม่น้อย เนื่องจากคนใช้สามารถถูเนื้อผลิตภัณฑ์ลงบนใบหน้าที่ปราศจากเครื่องสำอางได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาเกลี่ยให้ยุ่งยาก แต่การนำมาทาซ้ำระหว่างวันอาจไม่ตอบโจทย์ เพราะครีมกันแดดแบบแท่งจะสัมผัสกับใบหน้าโดยตรง หากมีฝุ่นหรือมลภาวะเกาะอยู่ที่ใบหน้า ก็อาจทำให้เชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกติดไปกับครีมกันแดดแบบแท่งได้

  • วิตามินกันแดด

ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ได้รับความนิยมอีกประเภท นั่นก็คือ วิตามินกันแดด เพราะหลายคนมองว่ากินง่ายและไม่ต้องเสียเวลามากมาย ซ้ำทุกวันนี้ยังมีหลายแบรนด์ออกมาให้เลือกซื้อ แต่ทั้งนี้ก็มีหลายคนเกิดการตั้งคำถามว่า แค่กินก็ช่วยกันแดดได้จริงหรือ ? เพราะเป็นการกินเข้าสู่ร่างกาย ไม่ใช่การปกป้องผิวจากภายนอก

สารที่อยู่ในวิตามินกันแดด

วิตามินกันแดด เป็นอาหารเสริมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเรื่องการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระในชั้นผิว เมื่อผิวโดนแดด รังสี UVA UVB จะกระตุ้นให้ผิวสร้างอนุมูลอิสระ และเกิดการอักเสบ จนกลายเป็นผิวแห้ง ผิวคล้ำเสีย มีจุดด่างดำ อีกทั้งเสี่ยงมะเร็งผิวผนัง

หากกินวิตามินกันแดดจะช่วยลดความรุงแรงและผลกระทบของรังสี UV แต่ไม่ได้มีคุณสมบัติช่วยป้องกันแดดเหมือนกับครีมกันแดดที่ใช้กัน ทั้งนี้ สามารถกินเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวที่อาจได้รับผลกระทบจากแสงแดดในแต่ละวันได้ แต่ต้องกินในปริมาณที่ฉลากกำหนด เพราะหากกินในปริมาณมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้

ข้อดีของวิตามินกันแดด

ในกรณีของคนที่เพิ่งผ่านการทำเลเซอร์ หรือเพิ่งผ่านการทำหัตถการต่าง ๆ ต้องงดเว้นการทาครีมบนใบหน้า และไม่สามารถทาครีมกันแดดได้ การกินวิตามินกันแดดเพื่อลดความอักเสบของผิว หรือลดผลกระทบจากแสง UV ก็เป็นทางเลือกที่ดีในระหว่างที่ผิวยังบอบบางอยู่

กินวิตามินกันแดดแล้วต้องทาครีมกันแดดอีกหรือไม่ ?

มาถึงตรงนี้หลายคนคงเข้าใจแล้วว่า วิตามินกันแดดที่มีขายกันอยู่ตามท้องตลาดไม่สามารถทดแทนครีมกันแดดที่ปกป้องผิวจากภายนอกได้ ดังนั้น หากคุณกินวิตามินกันแดด ก็ยังจำเป็นต้องใช้กันแดดแบบทาอยู่ดี เพราะทั้งสองผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ต่างกันแต่การใช้ควบคู่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการดูแลผิวได้อย่างครอบคลุมนั่นเอง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส