อาการหึงหวงคู่รัก เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน หากคุณกำลังมีความสัมพันธ์ที่ไปได้ดี ย่อมทำให้เกิดความกังวลใจ และท้ายที่สุดอาจทำให้คุณหึงหวงคู่รักของคุณเมื่อยามที่เขาใกล้ชิดกับผู้อื่น และจากผลสำรวจระบุว่า คนเรามักจะมีประสบการณ์หึงหวงเกี่ยวกับอดีตของอีกฝ่าย หรือเรียกง่าย ๆ ว่าหึงเรื่องแฟนเก่าของคนรักนั่นเอง 

โดยการหึงหวงเรื่องอดีตของคนรัก มีตั้งแต่พยายามไปขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีต ไปจนถึงการหมกมุ่นเรื่องดังกล่าวทั้งวันจนกระทบกับความสัมพันธ์ของคุณกับคนรัก ซึ่งอาการหึงเหล่านี้อาจส่งผลต่อสุขภาพจิตของและเสี่ยงภาวะซึมเศร้าได้ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำวิธีที่ทำให้คุณหลุดพ้นจากวงจรเหล่านี้เพื่อสุขภาพจิตที่ดี

ทำไมถึงหึงกับเรื่องความสัมพันธ์ในอดีตของคนรัก ?

การหึงหวง อิจฉา ริษยา เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ทุกคนและเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ในกรณีที่คุณรู้สึกหึงหวงคู่รักของคุณกับคนรักเก่านั้น อาจมาจากพฤติกรรมของคนรักคุณที่ยังคงเก็บของเก่า ๆ ที่อดีตคนรักมอบให้ หรือยังหวงแหนของบางอย่างที่เป็นความทรงจำในอดีต ซึ่งทำให้คุณเกิดความกังวลใจว่าคนรักของคุณอาจกำลังคิดถึงคนรักเก่าอยู่นั่นเอง

โดยจากการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องความหึงหวงเชิงโรแมนติก พบว่าอารมณ์เหล่านี้มักมีรากฐานมาจาก ความรู้สึกไม่ปลอดภัยในความสัมพันธ์, ความนับถือตนเองต่ำ, ประสบการณ์ถูกนอกใจจากคนรักเก่าหรือจากคนรักในปัจจุบัน, การใช้สารเสพติด, ความผันผวนทางฮอร์โมน เป็นต้น

ยอมรับและรู้เท่าทันความรู้สึกของตนเอง

สิ่งที่จะทำให้คุณก้าวผ่านความรู้สึกหึงหวง หรืออิจฉาริษยาไปได้นั้น อย่างแรกคือคุณต้องยอมรับตนเองก่อนว่าคุณกำลังเกิดความหึงหวง หรืออิจฉาคนรักเก่าของคู่คุณจริง ๆ แม้จะรู้สึกยากลำบากที่ต้องยอมรับมันในบางครั้ง แต่การที่คุณรู้เท่าทันอารมณ์และความคิดของตนเองก็จะทำให้คุณหาทางแก้ไขความรู้สึกเหล่านั้นได้ไวมากขึ้น 

นักจิตวิทยาได้แนะนำว่า ให้คุณถามตนเองว่าความรู้สึกอิจฉานั้นมีความหมายต่อคุณอย่างไร คุณอาจจะรู้สึกว่าอดีตของคนรักกำลังจะเป็นตัวทำนายความสัมพันธ์ปัจจุบันของคุณ หรือคุณรู้สึกไม่ไว้ใจความสัมพันธ์ของพวกเขาเพราะอะไร เมื่อคุณเข้าใจตนเองแล้วคุณก็จะสามารถเผชิญหน้ากับความกลัวเหล่านั้นได้

แม้ว่าการหึงหวงสามารถเกิดขึ้นได้โดยทั่วไป และไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่าคุณเป็นคนดีหรือคนไม่ดี แต่การที่คุณหึงหวงเรื่องราวในอดีตที่ตนเองไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้อีก และหมกมุ่นกับเรื่องนั้น อาจทำให้คุณรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องอนาคตของคุณกับคนรัก และกลายเป็นปัญหาตึงเครียดในชีวิตคู่ของคุณได้

เอาใจเขามาใส่ใจเรา

แน่นอนว่าทุกครั้งที่คนเราเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ย่อมอยากให้ประสบความสำเร็จ และอยากให้เป็นความสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายเสมอ และเป็นปกติที่คุณจะเกิดความกังวลและเปรียบเทียบประสบการณ์ความรักครั้งนี้กับรักในอดีตของคู่คุณ แต่หากคุณกำลังประสบปัญหาคิดมากกับเรื่องในอดีต ให้คุณลองนำความรู้สึกทั้งหมดมาเปรียบเทียบกับความรู้สึกของตนเอง ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรกับอดีตคนรักของตนเอง ? และคุณคิดจะกลับไปหาแฟนเก่าหรือไม่ ?

การเลิกราหรือการเลือกคบหาใครสักคนมีหลายเหตุผลด้วยกัน และการที่คุณเลือกที่จะเลิกรากับแฟนเก่าของคุณนั้น คุณก็อยากที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ครั้งใหม่ไม่ให้วนกลับไปมีจุดจบแบบเดิม ในทำนองเดียวกันคู่รักของคุณก็คิดเช่นเดียวกัน เขาตัดสินใจที่จะพัฒนาความสัมพันธ์กับคุณโดยไม่สำคัญว่าความสัมพันธ์กับอดีตคนรักครั้งก่อนจะเป็นอย่างไร

เลิกส่อง เลิกขุด!

ยุคที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นสังคมวงกว้างที่ผู้คนต่างออกมาแชร์เรื่องราวในชีวิต การที่จะสืบค้นเรื่องของใครสักคนก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร และการเข้าไปขุดคุ้ยความทรงจำต่าง ๆ ของคนรักกับอดีตคนรักของเขาก็เป็นเรื่องง่าย ซึ่งการย้อนไปดูความทรงจำที่เคยมีความสุขของพวกเขาก็จะนำมาซึ่งความรู้สึกห่อเหี่ยวใจ ยิ่งดูยิ่งเสียสุขภาพจิต

แต่อยากเตือนคุณไว้เสมอว่าทุกคนมักจะโชว์ด้านดี ด้านมีความสุขของตนเองผ่านทางโซเชียลมีเดียเสมอ สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่ความจริงก็เป็นได้ คุณควรปล่อยผ่านและหันมาโฟกัสที่ปัจจุบันมากกว่า

พูดคุยกับคนรักของคุณ

วิธีที่ได้ผลที่สุดในทุกความสัมพันธ์นั่นคือการพูดคุยสื่อสารกัน สำหรับความสัมพันธ์แบบคู่รักก็เช่นกัน หากการกระทำของคนรักคุณทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ และทำให้คุณคิดมากว่าเขาอาจจะยังลืมคนรักเก่าไม่ได้ คุณอาจจะต้องพูดคุยและปรับความเข้าใจกัน เพื่อหาทางออกที่ลงตัวที่สุดในความสัมพันธ์ และหากคุณสงสัยในเรื่องใดก็ให้ถามคนรักออกไปตรง ๆ โดยยืนยันว่าคุณจะไม่นำเรื่องเหล่านี้มาเป็นปัญหาให้ทะเลาะกันภายหลัง และจดจ่อกับปัจจุบันแทนที่จะสนใจกับเรื่องในอดีต

เชื่อในสิ่งที่คนรักพูด

การเปิดอกพูดคุยกันสามารถช่วยให้ความสัมพันธ์ดีขึ้นได้ก็จริง แต่บางครั้งความรู้สึกหึงหวงก็อาจกลับมาได้อีก ต่อให้คุณเชื่อในสิ่งที่เขาบอกคุณก็ตาม แต่คุณอาจจะยังกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากคนรักเก่าของคู่คุณกลับมาขอคืนดี เพราะสิ่งที่คุณไม่สามารถล่วงรู้ได้นั่นคือความรู้สึกนึกคิดของใครสักคน จึงเป็นที่มาของความกังวลใจที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม คุณไม่สามารถรู้ความคิดของใครได้ สิ่งที่คุณจะพยายามทำได้นั่นคือการเชื่อใจและเชื่อในคำพูดของคนรักตนเอง และแน่นอนว่าเรื่องนี้อาจเป็นเรื่องยากสำหรับใครหลาย ๆ หากคุณประสบปัญหานี้จนกระทบต่อสุขภาพจิตของตนเอง อย่าอายที่จะไปพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเพื่อหาทางออกต่อไป

จงเห็นคุณค่าในตนเอง

การขาดความเชื่อมั่นในตนเอง และไม่เห็นคุณค่าของตนเองจะกระตุ้นให้เกิดความอิจฉาริษยาผู้อื่นได้ คุณอาจจะมองไปที่คนรักเก่าของแฟนคุณและเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับเขาเหล่านั้น สิ่งที่คุณต้องทำคือเตือนสติตนเอง และมองเห็นคุณค่าของตนเองเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความสามารถพิเศษหรือพรสวรรค์ที่คุณมี รวมถึงลักษณะเฉพาะของตนเองที่โดดเด่นเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ตนเอง 

ปรับความคิดใหม่

หากคุณคิดว่าคู่รักของคุณเป็นคนดี และกลัวที่จะเสียเขาไป ให้คุณพิจารณาดูว่าในทุกความสัมพันธ์คนเรามักจะเรียนรู้ข้อผิดพลาด และนำมาปรับปรุงในความสัมพันธ์ครั้งใหม่เสมอ และคู่รักของคุณก็ได้เติบโตขึ้นจากความสัมพันธ์ในอดีต ดังนั้น หากเปลี่ยนจากกังวลใจมาเป็นขอบคุณเหตุการณ์และความสัมพันธ์ในอดีตที่ทำให้คุณได้คนรักที่เป็นคนดีตามที่ต้องการเหมือนในปัจจุบันก็จะช่วยลดความคิดมาก หรืออิจฉาลงได้

โฟกัสอยู่กับปัจจุบัน

ในทุกความสัมพันธ์ไม่มีอะไรแน่นอน การที่คุณเอาเวลาทั้งหมดหรือช่วงเวลาที่ควรจะมีความสุขไปโฟกัสอยู่กับอดีตที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ อาจทำให้คุณเสียเวลาและเป็นผลด้านลบต่อสภาพจิตใจของคุณ ดังนั้น คุณควรหันมาโฟกัสกับการทำให้ความรักในปัจจุบันของตนเองดีขึ้นกว่าเดิมเสียดีกว่า เพราะการจมปลักอยู่กับอดีตไม่เพียงแต่บั่นทอนจิตใจคุณและคู่เท่านั้น แต่อาจมีส่วนทำให้ความสัมพันธ์ในอนาคตของคู่คุณมีปัญหาได้

พูดคุยกับเพื่อนที่ไว้ใจได้

บางครั้งความหึงหวงอาจทำให้ความคิดของคุณเปลี่ยนแปลงไป หรือบางทีคุณอาจจะหาเหตุผลต่าง ๆ มาสนับสนุนความคิดของตนเอง ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้คุณลองปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนหรือคนในครอบครัวที่ไว้ใจได้ เพื่อให้คนนอกได้นำเสนออีกมุมมองหนึ่งให้คุณเห็น อาจช่วยคลายความคิดมากของคุณลงไปได้

ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต

อย่างที่บอกว่าปัญหาความหึงหวง หรือความอิจฉาริษยาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้น หากความรู้สึกดังกล่าวนับวันยิ่งทวีความรุนแรง การพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตไม่ใช่เรื่องน่าอาย โดยคุณสามารถไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้หากคุณมีอาการเหล่านี้

  • หมกมุ่นและคิดมากตลอดเวลา
  • เกิดความวิตกกังวลจนกลายเป็นภาวะซึมเศร้า
  • ส่งผลต่อความสัมพันธ์หรือคุณภาพชีวิตของคุณ
  • ส่งผลต่อความไว้วางใจในตัวคู่ของคุณ

ความหึงหวง อยากรู้อยากเห็น เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในอดีตของคู่รักตนเองไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่สิ่งที่จำเป็นคือคุณต้องรู้วิธีจัดการกับความรู้สึกของตนเอง เพื่อให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคู่สามารถไปต่อได้โดยไม่มีเรื่องในอดีตมาเป็นตัวบั่นทอนจิตใจ และหากเรื่องนี้สร้างผลกระทบต่อจิตใจคุณอย่างหนักการพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้คุณได้มีความสัมพันธ์ที่ดีควบคู่ไปกับการมีสุขภาพจิตที่ดีด้วย

ที่มา healthline , psychcentral

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส