บ่อยครั้งที่คนเราจะเกิดความรู้สึกว้าเหว่ หรือความรู้สึกเหงา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสิ่งที่มีอยู่กลับหายไป หรือเกิดการเปลี่ยนแปลง การที่เห็นคนในวัยเดียวกันทยอยแต่งงาน มีครอบครัวเองก็สามารถส่งผลให้คนที่ยังไม่มีใครเกิดความรู้สึกเหงาใจได้ไม่น้อยเลย ยิ่งเข้าสู่วัยทำงานและมีอายุที่เยอะขึ้น หากว่าคนรอบกายพากันแต่งงานไปหมด ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะอาจจะพบเจอกับความรู้สึกเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดความรู้สึกเหล่านี้ขึ้นมา ก็จำเป็นที่จะต้องหาแนวทางรับมือกับเรื่องนี้ให้ได้นั่นเอง

ความเหงา และความว้าเหว่ ความรู้สึกที่มนุษย์ทุกคนบนโลกต้องเจอ

ความรู้สึกเหงา ว้าเหว่ เป็นความรู้สึกที่สามารถเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคนบนโลก กล่าวได้ว่าไม่มีมนุษย์คนไหนบนโลกที่ไม่เคยเกิดความรู้สึกเช่นนี้ โดยความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ก็มาจากหลากหลายปัจจัย และแต่ละคนก็มีความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่เหมือนกัน ความรู้สึกเหงา และว้าเหว่นี้เมื่อเกิดขึ้นแล้วถือว่ารบกวนจิตใจมากทีเดียว เพราะจะรู้สึกว่าตัวเองนั้นแปลกแยกออกมาจากสังคม หรือการที่ความต้องการทางสังคมไม่ได้รับการตอบสนอง

ความรู้สึกว้าเหว่ของคนวัยทำงาน ที่ก่อตัวขึ้นเมื่อคนรอบตัวมีครอบครัว

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ความรู้สึกเหงา และว้าเหว่ เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนบนโลกนี้ แน่นอนว่ากับผู้คนในวัยทำงานเองก็เช่นกัน ที่สามารถเกิดความรู้สึกเหล่านี้ได้เช่นกัน แม้ว่าในวัยทำงานจะมีเรื่องเครียด หรือต้องพบเจอกับปัญหามากมาย แต่ความรู้สึกว้าเหว่ก็สามารถเกิดขึ้นได้อยู่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบว่าคนรอบ ๆ ตัว เพื่อน หรือคนที่อยู่วัยเดียวกันมีครอบครัว และแต่งงาน แน่นอนเมื่อต้องไปอยู่ท่ามกลางผู้คนที่มีคู่ก็อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกโดดเดี่ยวขึ้นมาได้ แต่ถึงอย่างนั้นความรู้สึกนี้สามารถจางหายไปได้ หรือดีขึ้นได้ด้วยการหาวิธีการรับมือที่ถูกต้อง ก็จะทำให้สามารถจัดการความรู้สึกที่มีอยู่ได้นั่นเอง

วิธีการจัดการและรับมือกับความรู้สึกว้าเหว่

การที่คนวัยทำงานเกิดความรู้สึกว้าเหว่ และเหงาจากการไม่มีคนรัก หรือไม่มีคู่นั้น ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรู้สึก และจมไปกับความรู้สึกนี้ไปตลอด เพราะเราสามารถจัดการและรับมือกับความรู้สึกว้าเหว่ที่เกิดขึ้นได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ซึ่งวิธีการจัดการและรับมือกับความรู้สึกว้าเหว่สามารถทำได้ดังนี้

1. เปิดใจยอมรับว่าการอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องน่าอาย

จริงอยู่ที่ว่าการมีคนรัก และการมีใครสักคนอยู่ข้างกาย เป็นสิ่งที่ดีและช่วยให้ไม่รู้สึกว้าเหว่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นการอยู่คนเดียวก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ดีเสมอไป หากอยากที่จะสามารถจัดการและรับมือกับความรู้สึกว้าเหว่นี้ได้ ก็จำเป็นที่จะต้องเปิดใจยอมรับก่อนว่า การอยู่คนเดียวเป็นเรื่องที่ไม่น่าอาย และไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว ถ้ามีความเข้าใจในเรื่องนี้ได้แล้วก็จะช่วยให้สามารถรับมือกับความรู้สึกนี้ได้ไม่ยาก

2. ทำความเข้าใจว่าความต้องการที่อยากจะมีใครสักคนเป็นเรื่องปกติ

การอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องที่น่าอาย และความต้องการอยากที่จะมีใครสักคนก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติเช่นกัน เพราะความต้องการนี้ไม่ได้หมายถึงว่าเรากำลังอ่อนแอ แต่เป็นสัญญาณของความเข้มแข็งต่างหาก ที่อยากจะอยู่ใกล้ชิดกับใครสักคน อีกทั้งการที่ได้มีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์กับใครสักคน ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี และไม่ใช่จุดอ่อนอย่างแน่นอน

3. ฝึกการปรับความคิดและพฤติกรรมของตัวเอง

Cognitive Behavioral Therapy หรือ CBT เป็นการปรับความคิดและพฤติกรรม โดยเป็นแนวคิดการบำบัดที่จะช่วยให้เราสามารถคิดให้ตรงกับความจริงแบบที่ไม่บิดเบี้ยวได้ เนื่องจากว่าบางครั้งกลไกการปรับตัวของคนเราอาจจะมีการใช้ความคิดที่ไม่ตรงกับความจริงจนเกิดความคิดที่บิดเบี้ยวขึ้นมาได้ เช่น การคิดว่าตัวเองเป็นบุคคลที่ไม่มีใครรัก ไม่เหมาะสมกับใคร หรือเป็นคนที่มีปัญหา ซึ่งแนวคิดการบำบัดนี้สามารถช่วยปรับเปลี่ยนความคิด และช่วยปรับตัวให้สามารถต่อรับมือกับสิ่งที่ต้องเจอได้

4. อนุญาตให้ใครสักคนเข้ามาในชีวิต

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า ความต้องการที่อยากจะมีใครสักคนเข้ามาในชีวิตนั้นเป็นเรื่องปกติ และไม่ใช่เรื่องน่าอาย หากอยากลองเริ่มความสัมพันธ์กับใครก็อยากให้ลองดูเลยสักตั้ง แบบที่ไม่ต้องกังวลหรือปิดกั้นตัวเอง โดยเริ่มต้นจากการให้ใครสักคนรู้ก่อนว่าเราต้องการอะไร และรู้สึกอย่างไร แน่นอนว่าการเริ่มความสัมพันธ์กับใครอาจจะเป็นความเสี่ยง แต่เชื่อเถอะว่าในชีวิตของคนเราย่อมจะต้องเจอเรื่องที่ต้องเสี่ยงเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งการเลือกใครเข้ามาในชีวิตก็ให้เลือกคนที่ไว้ใจได้ และลองเปิดใจดู ก็จะช่วยให้ได้เจอกับคำตอบที่ตามหา

จากที่กล่าวมานี้ คงทำให้สามารถเข้าใจได้มากขึ้นแล้วว่า การเกิดความรู้สึกเหงา และว้าเหว่ขึ้นมาเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้ แม้จะอยู่ในช่วงวัยทำงานที่ต้องเจอเรื่องต่าง ๆ เข้ามาอยู่ตลอดก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนที่พบเจอกับความรู้สึกนี้จะสามารถอยู่กับสิ่งที่ต้องเจอ และรับมือกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน เพียงแค่เชื่อมั่นว่าทำได้ พร้อมทั้งจะต้องหาวิธีการรับมือ และจัดการกับสิ่งเหล่านี้ทำควบคู่ไปด้วย ก็จะช่วยให้ความรู้สึกที่มีดีขึ้นได้ไม่ยากเลยนั่นเอง

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ OOCA (อูก้า) ปรึกษาปัญหาใจ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส