แอปเปิลไซเดอร์ คือ น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล ยีสต์ ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร เช่น น้ำสลัด ผักดอง และซอสหมัก ขณะเดียวกันหลายคนก็นับแอปเปิลไซเดอร์เป็นยาสามัญประจำบ้านอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะไม่เพียงแต่ช่วยชูรสชาติอาหารเท่านั้น งานวิจัยยังค้นพบว่าแอปเปิลไซเดอร์อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง เช่น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ต้านอนุมูลอิสระ และช่วยลดน้ำหนักได้

แอปเปิลไซเดอร์ประโยชน์ด้านสุขภาพ

1.มีสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายสูง

กรดอะซิติกเป็นสารประกอบออกฤทธิ์หลักของแอปเปิลไซเดอร์ ทำให้มีกลิ่นและรสเปรี้ยวจัด นักวิจัยเชื่อว่ากรดนี้มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

แอปเปิลไซเดอร์ออร์แกนิกที่ไม่ผ่านการกรอง ยังมีสารที่เรียกว่ามาเธอร์ ซึ่งประกอบด้วย โปรตีน เอนไซม์ ดีต่อระบบย่อยอาหารอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีกรดอะมิโนและสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ด้วย

2.สามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายได้

แอปเปิลไซเดอร์สามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ รวมถึงแบคทีเรียบางสายพันธุ์ด้วย ในอดีตผู้คนใช้น้ำส้มสายชูในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ รักษาเชื้อราที่เล็บ เหา หูด และการติดเชื้อในหู

ฮิปโปเครติส บิดาแห่งการแพทย์ได้ใช้น้ำส้มสายชูล้างบาดแผลเมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน นอกจากนี้ น้ำส้มสายชูยังเป็นสารกันบูดในอาหาร โดยการศึกษาแสดงให้เห็นว่ามันยับยั้งแบคทีเรีย เช่น อีโคไล ไม่ให้เติบโตและทำให้อาหารเน่าเสีย ซึ่งหากคุณกำลังมองหาวิธีถนอมอาหารตามธรรมชาติ แอปเปิลไซเดอร์สามารถช่วยได้

3.อาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและจัดการโรคเบาหวานได้

ในปัจจุบันการใช้แอปเปิลไซเดอร์ที่น่าเชื่อถือที่สุดอย่างหนึ่งคือการช่วยรักษาโรคเบาหวานประเภท 2 เพราะโรคเบาหวานประเภท 2 มีลักษณะเฉพาะคือระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเกิดจากการดื้อต่ออินซูลินหรือไม่สามารถผลิตอินซูลินได้ 

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่เป็นโรคเบาหวานแต่บริโภคแอปเปิลไซเดอร์ จะได้รับประโยชน์จากการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ เนื่องจากนักวิจัยบางคนเชื่อว่าระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นสาเหตุสำคัญของความชราและโรคเรื้อรังต่าง ๆ  วิธีที่มีประสิทธิภาพและดีต่อสุขภาพที่สุดในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดคือการรับประทานอาหารที่สมดุล มีคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลขัดสีต่ำ ในขณะที่แอปเปิลไซเดอร์ก็อาจใช้ได้ผลดีเช่นกัน

นอกจากนี้ การทดลองทางคลินิกปี 2019 ชี้ให้เห็นว่าการบริโภคแอปเปิลไซเดอร์อาจมีผลดีต่อดัชนีระดับน้ำตาลในเลือดและความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชันในผู้ป่วยเบาหวาน และภาวะไขมันผิดปกติ  ขณะที่การศึกษาอื่น ๆ ในมนุษย์ระบุว่าแอปเปิลไซเดอร์อาจช่วยปรับปรุงการทำงานของอินซูลินและลดระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหารด้วย

แม้ว่าแอปเปิลไซเดอร์จะเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าปลอดภัย แต่หากคุณกำลังใช้ยาลดน้ำตาลในเลือด ให้ปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะบริโภคแอปเปิลไซเดอร์

4.อาจช่วยลดน้ำหนักได้

อาจเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่การศึกษาแสดงให้เห็นว่าแอปเปิลไซเดอร์สามารถช่วยให้ผู้คนลดน้ำหนักได้ โดยการศึกษาในมนุษย์หลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าแอปเปิลไซเดอร์สามารถเพิ่มความรู้สึกอิ่มได้ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การกินอาหารในปริมาณน้อยลง ทำให้ลดน้ำหนักได้

โดยรวมแล้วแอปเปิลไซเดอร์อาจมีส่วนช่วยลดน้ำหนักโดยส่งเสริมความอิ่ม ลดน้ำตาลในเลือด และลดระดับอินซูลิน ที่สำคัญแอปเปิลไซเดอร์มีค่าพลังงานเพียง 3 กิโลแคลอรีต่อช้อนโต๊ะซึ่งถือว่าต่ำมาก

5.อาจช่วยให้สุขภาพหัวใจดีขึ้น

การศึกษาในสัตว์ทดลองหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าแอปเปิลไซเดอร์สามารถลดไตรกลีเซอไรด์ในเลือด คอเลสเตอรอล และความดันโลหิตได้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าความเสี่ยงดังกล่าวสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจในมนุษย์ได้ นักวิจัยจำเป็นต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมก่อนที่จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน

6.อาจช่วยเรื่องสุขภาพผิว

บางคนใช้แอปเปิลไซเดอร์เป็นยารักษาโรคผิวหนังทั่วไป เช่น ผิวแห้งและกลาก เนื่องจากผิวมีความเป็นกรดเล็กน้อยตามธรรมชาติ แต่อาจมีความเป็นกรดน้อยกว่าในผู้ที่เป็นโรคเรื้อนกวาง การใช้แอปเปิลไซเดอร์เจือจางอาจช่วยปรับสมดุลค่า pH ตามธรรมชาติของผิว และปรับปรุงเกราะป้องกันผิวได้ 

ตามทฤษฎีแล้วแอปเปิลไซเดอร์เจือจางมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย จะช่วยป้องกันการติดเชื้อที่ผิวหนังที่เชื่อมโยงกับโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังและสภาพผิวอื่น ๆ ได้ บางคนนำแอปเปิลไซเดอร์เจือจางในผลิตภัณฑ์ล้างหน้าหรือโทนเนอร์ เพราะเชื่อว่าสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและป้องกันจุดด่างดำได้

อย่างไรก็ตาม ควรพูดคุยกับแพทย์ก่อนลองใช้วิธีรักษาใหม่ ๆ โดยเฉพาะกับผิวที่เสียหาย หลีกเลี่ยงการใช้แอปเปิลไซเดอร์ที่ไม่เจือปนกับผิวหนัง เนื่องจากอาจทำให้เกิดแผลไหม้ได้

ปริมาณและวิธีการใช้

บางคนชอบที่จะเจือจางในน้ำแล้วดื่มเป็นเครื่องดื่ม ปริมาณมาตรฐานมีตั้งแต่ 1 – 2 ช้อนชา (5 – 10 มล.) ถึง 1 – 2 ช้อนโต๊ะ (15 – 30 มล.) ต่อวัน โดยผสมในน้ำแก้วใหญ่

ทางที่ดีควรเริ่มต้นด้วยปริมาณน้อย ๆ และหลีกเลี่ยงการบริโภคในปริมาณมาก เพราะการบริโภคแอปเปิลไซเดอร์มากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ 

แอปเปิลไซเดอร์กินมากไปอาจเป็นอันตราย ? 

เนื่องจากแอปเปิลไซเดอร์มีกรดสูง หากคุณดื่มโดยไม่ผ่านการเจือจาง หรือดื่มมากเกินอาจทำให้หลอดอาหารระคายเคือง ทำลายเคลือบฟัน นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงอื่น ๆ เช่น

  • อาจทำให้บางคนท้องอืดหรือรู้สึกคลื่นไส้ และหากคุณรู้สึกไม่สบายหรืออาเจียนหลังจากดื่มไปแล้วให้หยุดดื่มทันที
  • แอปเปิลไซเดอร์ยังสามารถทำปฏิกิริยากับยาบางชนิดได้ เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาระบาย และอินซูลิน ควรปรึกษาแพทย์เสมอว่าการบริโภคแอปเปิลไซเดอร์สามารถใช้ร่วมกับยาปัจจุบันของคุณได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
  • หลีกเลี่ยงการใช้แอปเปิลไซเดอร์มากเกินไปหากคุณเป็นโรคไต เนื่องจากไตของคุณอาจไม่สามารถรับมือกับกรดในระดับสูงได้

หากคุณอยากลองซื้อแอปเปิลไซเดอร์มาผสมน้ำดื่มในตอนเช้า เพื่อช่วยลดความหิวตามที่หลายคนนิยมทำ ก็สามารถหาซื้อได้ง่ายที่ห้างสรรพสินค้าทั่วไป และเนื่องจากแอปเปิลไซเดอร์มีความเป็นกรดสูง จึงปลอดภัยต่อการใช้งานเป็นเวลานาน แต่รสชาติและรูปลักษณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นควรใช้ภายใน 2 – 3 ปีหลังจากที่ซื้อมา และไม่จำเป็นต้องแช่เย็น สามารถเก็บไว้ในตู้กับข้าวให้ห่างจากแสงแดดโดยตรง

ที่มา healthline , webmd

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส