ช่วงนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหน เข้าแพลตฟอร์มอะไร เราก็มักจะเห็นคนที่หันมารักสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมที่ทำได้ง่ายและไม่ต้องมีอุปกรณ์เยอะอย่าง ‘การวิ่ง’ และกลุ่มคนเหล่านี้ก็ชอบอวดสกอร์การวิ่ง ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลา ระยะทาง และความเร็วต่อระยะทาง (Pace) ผ่านแอปฯ ที่มีขีดสีส้มยึกยือไปมาตามระยะทางที่วิ่งอย่าง ‘Strava’ แอปฯ สุดฮิตสำหรับวัยรุ่น Gen Z ที่มีคนใช้งานมากกว่า 50 ล้านบัญชีต่อเดือนในปี 2025 ! 

ขอบคุณภาพจากบัญชี TikTok @caityviant

ปัจจุบัน Strava เป็นแอปฯ ที่มียอดผู้ใช้งาน (Active User) ต่อเดือนมากถึง 50 ล้านบัญชี และยอดดาวน์โหลดเพิ่มขึ้น 80% เมื่อเทียบปีต่อปี ถือว่าฐานผู้ใช้งานหนาแน่นมาก ๆ ทั้งที่เป็นบัญชีเก่าและใหม่ด้วย ทำให้ ไมเคิล มาร์ติน (Michael Martin) ซีอีโอ Strava วางแผนที่จะเสนอขายหุ้น IPO หวังเงินทุนเพื่อใช้ในการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม อีกทั้งบริษัทซึ่งมีผู้สนับสนุนหลักอย่าง Sequoia Capital, TCV และ Jackson Square Ventures ซึ่งเคยได้รับการประเมินมูลค่าล่าสุดที่ 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

การเติบโตที่ก้าวกระโดดนี้ อาจจะต้องบอกว่าเพราะจังหวะความบูมของกลุ่ม Gen Z ที่หันมาใส่ใจรักสุขภาพมากขึ้น และใช้ Strava เป็นกลไกในการสร้างแรงผลักดันให้ออกกำลังกายได้อย่างมีเป้าหมายมากขึ้น รวมถึงวัฒนธรรม ‘Run club’ หรือชมรมวิ่งที่บูมไม่หยุดไม่หย่อนจนเกิดเป็นคอมมิวนิตีดี ๆ แทนสังคมการดื่มดริงก์ที่ทำลายสุขภาพ (Alchohol-free) และที่สำคัญได้เปลี่ยนรูปแบบการหาคู่จากแอปฯ หาคู่ เป็น ‘แอปฯ วิ่งหาคู่’ ในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายและหาแฟนไลฟ์สไตล์เดียวกันด้วย จึงไม่แปลกใจที่ Strava จะมียอดผู้ใช้งานโดยเฉพาะวัย 20 ต้น ๆ มากขึ้นขนาดนี้ 

แต่จะอ้างว่าเพราะกระแสสุขภาพและความรักอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะ Strava เขาก็มีลูกเล่นของตัวเอง เคล็ดลับความสำเร็จอีกอย่างของ Strava คือการเปลี่ยนการออกกำลังกายให้กลายเป็น ‘สกุลเงินทางสังคม’ ด้วยการใช้ฟีเจอร์อย่าง ‘Kudos’ (การกดถูกใจ/ชื่นชม) และการเปรียบเทียบผลลัพธ์การฝึกซ้อมในแต่ละช่วงเวลา (คล้าย ๆ โซเชียลมีเดีย แต่สำหรับสายออกกำลังกาย)

ทั้งนี้ ในด้านรายได้ Sensor Tower ประเมินว่า ผู้ใช้งานใช้จ่ายกับบริการสมัครสมาชิกของ Strava ไปแล้วกว่า 180 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จนถึงเดือนกันยายน แม้ว่าทาง Strava จะระบุว่าตัวเลขนี้ยังต่ำกว่ารายได้จริงอยู่มากก็ตาม นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้เสริมจากแคมเปญท้าทายที่มีผู้สนับสนุน (Sponsored Challenges) และการร่วมเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ต่าง ๆ อีกด้วย