รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ประจำปี 2025 ประกาศมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ให้กับ มาเรีย โครีนา มาชาโด (Maria Corina Machado) ผู้นำฝ่ายค้านเวเนซุเอลา จากการต่อสู้อันยาวนานหลายสิบปีเพื่อต่อต้านระบอบเผด็จการ การปกป้องประชาธิปไตยอย่างกล้าหาญ และความเป็นผู้นำทางศีลธรรมที่เด็ดเดี่ยวในประเทศที่กำลังเผชิญวิกฤต จากผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง จำนวน 338 รายชื่อ โดยแบ่งเป็นบุคคล 244 คน และองค์กร 94 แห่ง

มาชาโด ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม ‘สตรีเหล็กแห่งเวเนซุเอลา’ ได้หลบซ่อนตัวมานานกว่า 14 เดือน หลังจากปฏิเสธที่จะยอมจำนนภายหลังจากที่ นิโกลัส มาดูโร (Nicolás Maduro) ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งที่มีทั้งสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปออกมาวิพากษ์วิจารณ์

ซึ่งสหรัฐฯ และชาวเวเนซุเอลาส่วนใหญ่ไม่ยอมรับการนำของมาดูโรว่าเป็นผู้นำที่ชอบธรรม หลังจากการเลือกตั้งสองครั้งที่ผ่านมาถูกกล่าวหาว่ามีการโกง อย่างไรก็ตามแม้จะมีคำครหาแต่มาดูโรก็ยังคงได้ดำรงตำแหน่งต่อไป ในขณะที่มาชาโดต้องเผชิญกับการตัดสิทธิ์, การข่มขู่ และการถูกบังคับให้เงียบ แต่เธอก็ยังคงยืนหยัด ผลักดันให้มีการเลือกตั้งเสรี, ระดมพลประชาชน, ตีแผ่การละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำหน้าที่เป็นมโนธรรมของประเทศ

แม้จะอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ แต่เธอก็ยังคงทำงานเพื่อการเลือกตั้งเสรี, หลักนิติธรรม และความรับผิดชอบในกรุงการากัส ในขณะที่รัฐบาลยังคงจำกัดสิทธิทางการเมือง, ตัดสิทธิ์ผู้สมัครฝ่ายค้านอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย และปราบปรามการต่อต้านอย่างโหดร้าย

นอกจากรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปีนี้แล้ว มาชาโด ยังได้รับรางวัลซาคารอฟเพื่อเสรีภาพทางความคิด (Sakharov Prize for Freedom of Thought) ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบโดยรัฐสภายุโรปเพื่อเชิดชูเกียรติบุคคลหรือองค์กรที่อุทิศตนเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงออกอีกด้วย

โดยผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 2024 คือองค์กร “นิฮง ฮิดังเคียว” (Nihon Hidankyo) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูที่ฮิโรชิมาและนางาซากิในปี 1945 ทางคณะกรรมการโนเบลได้ประกาศมอบรางวัลนี้เพื่อยกย่องความพยายามขององค์กรในการรณรงค์และให้ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบอันเลวร้ายของอาวุธนิวเคลียร์ รวมถึงการต่อสู้เพื่อโลกที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์ตลอดมา

ทั้งนี้พิธีมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจะจัดขึ้นในวันที่ 10 ธันวาคม 2025 ณ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์