SAIC Motor เจ้าของแบรนด์ MG ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของจีน ประกาศเตรียมสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในยุโรป 

โฆษกของ SAIC ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่าบริษัทยังอยู่พิจารณาและสรุปรายละเอียดอื่น ๆ เกี่ยวกับโครงการเนื่องจาก “เรามีแบรนด์มากมายทั้ง MG, IM และ Maxus ซึ่งเรากำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะสร้างโรงงานใด”

ข้อมูลของ SAIC ระบุอีกว่า ยอดขายรถยนต์ของบริษัทนอกประเทศจีนเพิ่มขึ้นถึง 40% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 และแบรนด์ MG ยังครองส่วนแบ่งยอดขายส่วนใหญ่ในต่างประเทศ เนื่องจากจำนวนรถยนต์ที่ขายในยุโรปเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วงเวลาเดียวกัน 

MG ก่อตั้งมานานกว่าหนึ่งศตวรรษในสหราชอาณาจักรจนกระทั่งมีการย้ายการผลิตไปยังประเทศจีนในปี 2559 โดย MG เคยประกาศไว้เมื่อปี 2559 ว่าการประกอบในสหราชอาณาจักรไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะรถยนต์ที่มาถึงประเทศนี้ “สร้างเสร็จ และพร้อมจำหน่าย”

โรงงาน Longbridge ผลิตรถยนต์รวมถึง MG และ Mini รุ่นดั้งเดิม ก่อตั้งขึ้นในปี 1906 และรอดพ้นจากสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 แถมยังต้องต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำหลังสงครามและการเกิดขึ้นของอุตสาหกรรมยานยนต์ในต่างประเทศ จนต้องหยุดการผลิตลงหลังจาก MG Rover พังทลายลงในปี 2548 จากนั้น SAIC จึงเข้ามาเทคโอเวอร์แบรนด์นี้ต่อ 

การส่งออกจากจีนได้รับแรงหนุนจากความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าและการขายไปยังรัสเซีย เนื่องจากประเทศตะวันตกหลายประเทศกำหนดมาตรการคว่ำบาตรมอสโกหลังการรุกรานของยูเครน

จีนส่งออกรถยนต์มากกว่า 1,000,000 คันในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ถือเป็นการแซงหน้าญี่ปุ่นในฐานะผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก

นอกจากโรงงานผลิตในประเทศจีนแล้ว SAIC ยังมีโรงงานผลิตในประเทศไทย อินโดนีเซีย อินเดีย และปากีสถานอีกด้วย

บริษัทจีนซึ่งร่วมทุนกับ Volkswagen บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของเยอรมัน และ General Motors ผู้ผลิตรถยนต์ของสหรัฐฯ ขายรถยนต์ได้ 5,300,000 คันทั่วโลกในปี 2022 โดยมียุโรปเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดซึ่งมียอดขายมากกว่า 100,000 คัน

ที่มา : BBC

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส