วันพุธที่ 19 กรกฎาคม เทสลา (Tesla) ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2023 เผยว่ายังคงถือครองบิตคอยน์ (Bitcoin) เอาไว้เช่นเดิมโดยไม่ได้ขายออกไปติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 4 และไม่ได้ซื้อเพิ่มเติมในช่วงที่ราคาบิตคอยน์ลดต่ำลง

เมื่อส่องดูในรายงานได้แสดงว่ามูลค่าสุทธิของสินทรัพย์ดิจิทัลที่บริษัทถือครองอยู่ ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ 184 ล้านเหรียญ (6,249 ล้านบาท) เท่ากับ 3 ไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งที่ราคาบิตคอยน์ในสิ้นไตรมาสที่ 2 อยู่ที่ประมาณ 30,400 เหรียญ (1,032,566 บาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงสิ้นไตรมาสแรกที่ประมาณ 28,500 เหรียญ (968,031 บาท) ซึ่งแสดงว่ามูลค่าบิตคอยน์ที่ถือครองอยู่เพิ่มขึ้น แต่ด้วยกฎทางบัญชีปัจจุบันไม่อนุญาตให้เพิ่มมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลเมื่อราคาสูงขึ้น เว้นแต่มีการขาย หรือลดยอดตามราคาที่ลดลง

เทสลาได้เทขายบิตคอยน์ครั้งล่าสุดเมื่อไตรมาสที่ 2 ปี 2022 ออกไปมากกว่า 30,000 BTC ประมาณ 75% จากที่ถือครองอยู่ในงบดุลของบริษัท ซึ่งแปลงเป็นเงินสดได้ 936 ล้านเหรียญ (34,412 ล้านบาท) เนื่องจากต้องการเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัทเพราะไม่แน่ใจว่าจีนจะล็อกดาวน์โควิด – 19 นานแค่ไหน แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้ขายหรือซื้อเพิ่มอีกเลย

ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของเทสลา มีกำไรหลังการปรับปรุงแล้วต่อหุ้นที่ 0.91 เหรียญ (30.91 บาท) เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 0.80 เหรียญ (27.17 บาท) และมีรายรับ 24,900 ล้านเหรียญ (845,753 ล้านบาท) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 24,200 ล้านเหรียญ (821,977 ล้านบาท)

ที่มา : coindesk.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส