เรื่องเงินทองถือเป็นเรื่องสำคัญของชีวิตตลอดอายุขัย เพราะทุกช่วงของการเติบโตไปจนถึงบั้นปลายล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ยิ่งใครที่เป็นพ่อแม่ หรือเตรียมตัวที่จะสร้างครอบครัว ยิ่งต้องวางแผนการเงินเพิ่มขึ้นไปอีกขึ้นเพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับลูก

หากลองคำนวณเล่น ๆ ว่า การเลี้ยงลูก 1 คนจะมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง นับตั้งแต่แรกเกิดก็มีค่าโรงพยาบาล ค่านม ค่าเสื้อผ้าเด็กอ่อน โตขึ้นมาหน่อยก็จะมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียน ซึ่งเริ่มตั้งแต่เตรียมอนุบาลไปถึงมหาวิทยาลัย โดยค่าใช้จ่ายจะมากน้อยก็แตกต่างกันไปตามหลักสูตรและสถาบันการศึกษา เช่น หลักสูตร 2 ภาษา หลักสูตรนานาชาติ หรือการส่งลูกไปเรียนที่ต่างประเทศ ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก ขณะเดียวกัน ในระหว่างทางก็มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าเรียนพิเศษ ค่าหนังสือ ค่ารักษาพยาบาล หากเจ็บป่วย เป็นต้น

จะเห็นได้ว่าการสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับลูกนั้นใช้เงินไม่น้อยเลยทีเดียว และหากใครมีลูกหลายคนก็ต้องวางแผนเก็บเงินเพิ่มขึ้นไปอีกเท่าตัว ซึ่งการวางแผนการเงินเพื่อลูกสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่แล้ว อาจต้องมีการออมเงินระยะยาวอย่างน้อย 20 ปี จนกว่าลูกจะเรียนจบมหาวิทยาลัยและสามารถหารายได้ได้ด้วยตนเอง บทความนี้จะมาแบ่งปัน 4 วิธีการออมเงินระยะยาวฉบับพ่อแม่ยุคใหม่ที่เริ่มได้ทันทีสำหรับใครที่วางแผนมีลูก

1. บัญชีเงินฝาก

วิธีการนี้เป็นช่องทางการออมที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด ผลตอบแทนจึงไม่สูงมากและเป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารแต่ละแห่งประกาศ โดยสามารถออมเงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สำหรับการออมเป็นสภาพคล่องไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน หรือบัญชีเงินฝากประจำที่จะได้รับดอกเบี้ยจะสูงขึ้นมาหน่อย

  • Tips: หากต้องการออมเงินระยะยาวขึ้น ธนาคารแต่ละแห่งจะมีบัญชีเงินฝากประจำปลอดภาษี ซึ่งช่วยสร้างวินัยจากการทยอยฝากเงินทุกเดือน โดยส่วนใหญ่จะกำหนดไว้ประมาณ 4 ปี และดอกเบี้ยที่ได้รับก็จะไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย

2. กองทุนรวม

วิธีการนี้เป็นช่องทางการออมระยะยาวที่ดี เพราะสามารถให้เงินทำงานผ่านการลงทุน ซึ่งกองทุนรวมมีทางเลือกหลากหลายนโยบายสำหรับคนที่ยอมรับความเสี่ยงได้แตกต่างกัน อีกทั้งยังมีมืออาชีพช่วยบริหารจัดการ เหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาติดตามสถานการณ์ และยังสามารถทยอยลงทุนแบบ DCA ได้อีกด้วย

  • Tips: เราสามารถแบ่งการลงทุนได้เป็นหลายกองทุนตามเป้าหมายการใช้เงิน เช่น เป้าหมายระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี ก็เลือกกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กองทุนรวมตลาดเงินหรือกองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล แต่ถ้าเป้าหมายระยะยาว เช่น ส่งลูกเรียนต่างประเทศ ก็สามารถลงทุนในกองทุนรวมหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เพื่อรับโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น

3. หุ้นกู้หรือพันธบัตร

วิธีการนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ เพราะการลงทุนในหุ้นกู้หรือพันธบัตรจะให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยที่กำหนดระยะเวลาจ่ายไว้ชัดเจน เหมาะกับคนที่ต้องการได้รับสภาพคล่องระหว่างทาง โดยหุ้นกู้หรือพันธบัตรสามารถเลือกระยะเวลาการลงทุนได้ เช่น หุ้นกู้ อายุ 5 ปี หรือพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี

  • Tips : ข้อสำคัญที่ควรรู้คือ หุ้นกู้ (ตราสารหนี้ภาคเอกชน) มีความเสี่ยงหลากหลาย ตั้งแต่เสี่ยงต่ำถึงเสี่ยงสูง ดังนั้น เวลาเลือกลงทุนต้องพิจารณาความเสี่ยงจากเครดิตเรตติงด้วยและอย่าดูที่ผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว

4. ประกันชีวิตสะสมทรัพย์

วิธีการนี้เป็นวิธีการออมที่ได้รับความคุ้มครองชีวิตควบคู่กันไปด้วย หากออมเงินได้ตามระยะเวลาที่กำหนดก็จะได้รับเงินก้อนคืนพร้อมผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้ แต่ถ้าเกิดเหตุไม่คาดฝัน ความมั่งคั่งจากประกันชีวิตสะสมทรัพย์ก็จะถูกส่งต่อไปยังลูกของเราหรือคนข้างหลังอีกด้วย

  • Tips : การคำนวณผลตอบแทนที่แท้จริงของประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ต้องคำนวณแบบ IRR ซึ่งจะคำนวณจากกระแสเงินสดที่จ่ายออกไป เช่น ค่าเบี้ยประกันและกระแสเงินสดที่ได้รับ เช่น เงินคืนระหว่างสัญญาและเงินครบสัญญา

แถมท้ายอีกนิดสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ นอกจากเรื่องสำคัญอย่างการเก็บเงินออมเพื่อลูกแล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรทำคือการสอนลูกให้รู้จักใช้เงินและออมเงินเป็นตั้งแต่เด็ก เพื่อปลูกฝังวินัยทางการเงินที่ดี ซึ่งจะเป็นทักษะชีวิตสำคัญที่ติดตัวในระยะยาว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส