ในยุคที่ข้อมูลเชื่อมโยงกันทั่วโลก การค้นหาคำตอบอยู่แค่ปลายนิ้ว ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอังกฤษกำลังเปลี่ยนทิศทางอย่างชัดเจน ล่าสุดผลสำรวจจาก Fidelity International เผยว่า เกือบครึ่งของนักลงทุนในสหราชอาณาจักรเลือกใช้โซเชียลมีเดียแทนคำแนะนำจากที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น X , TikTok หรืออินฟลูเอนเซอร์สายการเงินที่รู้จักกันในชื่อ “Finfluencer”

จากผลสำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 1,000 คนในอังกฤษพบว่า มีกลุ่มเป้าหมายเพียง 1 ใน 3 เคยใช้บริการที่ปรึกษาทางการเงินมืออาชีพในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมากกว่า 60% ไม่เคยเข้าถึงระบบคำแนะนำทางการเงินเลย ในทางกลับกัน 40% กลับเลือกใช้ข้อมูลจากเว็บไซต์ให้คำแนะนำทางการเงิน โซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่ญาติและเพื่อน

สะท้อนถึงการเปลี่ยนพฤติกรรมครั้งใหญ่ของนักลงทุน ซึ่ง Fidelity ชี้ว่า มากกว่า 20% ของกลุ่ม Gen Z และมิลเลนเนียล (อายุต่ำ 45 ปี) เชื่อข้อมูลจากแหล่งออนไลน์ เช่น AI, พอดแคสต์ หรือผลการค้นหาใน Google มากกว่าคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาต

แอนดรูว์ ออกซ์เลด (Andrew Oxlade) ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนของ Fidelity กล่าวชัดว่า “หลายคนไม่สามารถเข้าถึงคำแนะนำที่มีคุณภาพได้ จึงหันไปพึ่งแหล่งข้อมูลอื่นซึ่งบางครั้งก็ไม่มีการรับรองหรือพิสูจน์ความถูกต้อง”

อนาคต Finfluencer ยังโตต่อ แม้ถูกรัฐบาลคุมเข้ม

ถึงแม้หน่วยงานกำกับดูแลอย่าง FCA (Financial Conduct Authority) ของอังกฤษจะพยายามกวาดล้าง Finfluencer ผิดกฎหมาย โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แบ่งเป็นมีการจับกุม 3 ราย, โดนตักเตือนถึง 50 เคส, ส่งคำขอลบคอนเทนต์บนโซเชียลกว่า 650 รายการ

แต่ดูเหมือนว่าอิทธิพลของ Finfluencer บนแพลตฟอร์มอย่าง TikTok, Instagram และ X จะยังคงมีพลังดึงดูดนักลงทุนหน้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มอายุต่ำกว่า 45 ปี ที่กำลังเริ่มต้นลงทุนครั้งแรกในชีวิต

พร้อมกับเทคโนโลยี AI ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น เนื่องจากผลสำรวจระบุว่า 13% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อในผลการค้นหาอันดับต้น ๆ บน Google และ 11% ใช้ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บบอร์ดการเงิน รวมถึงคนส่วนน้อยใน 8% เชื่อข้อมูลจาก AI โดยตรง

อย่างไรก็ตาม Fidelity เตือนว่า พฤติกรรมลงทุนที่ขาดการวิเคราะห์ เช่น การตัดสินใจซื้อกองทุนหรือหุ้นภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังได้รับข้อมูลอาจนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาดทางการเงินได้อย่างร้ายแรง การเข้าใจผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่างถ่องแท้ก่อนเริ่มลงทุนจึงเป็นปัจจัยสำคัญ