ราคาหุ้น NVIDIA พุ่งทะยานกว่า 4% ในวันพุธที่ผ่านมา ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 154.31 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 5,090 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวม (Market Cap) ของ NVIDIA แตะ 3.77 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 124 ล้านล้านบาท แซงหน้าไมโครซอฟท์และแอปเปิล กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ณ ตอนนี้

เนื่องจากมาตรการควบคุมการส่งออกของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ทำให้ NVIDIA ไม่สามารถขายชิป AI H20 ให้กับจีนได้อีกต่อไป NVIDIA ยอมรับว่าตลาดจีนซึ่งมีมูลค่ากว่า 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.65 ล้านล้านบาท ถูกปิดตายสำหรับอุตสาหกรรมส่งออกสหรัฐฯ และอาจสูญเสียยอดขายกว่า 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และต้องตัดจำหน่ายสินค้าคงคลังถึง 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

แต่ NVIDIA ยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง จากรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดเผยรายได้เพิ่มขึ้น 69% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยเฉพาะธุรกิจ Data Center ที่พุ่งขึ้นถึง 73% ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของตลาด AI ในปัจจุบัน

นอกจากการเป็นผู้นำตลาดชิปประมวลผลกราฟิก (GPU) สำหรับการสร้างโมเดล AI แล้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เจนเซน หวง (Jensen Huang) ยังกล่าวในงานประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีว่า “หากไม่นับ AI แล้ว หุ่นยนต์คือโอกาสเติบโตอันดับสองของ NVIDIA ในอนาคต” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า NVIDIA วางรากฐานในเทคโนโลยีล้ำหน้าในหลายมิติ ไม่ใช่เพียงแค่ AI

แม้จะเจอแรงกดดันจากภายนอก โดยเฉพาะข้อจำกัดจากรัฐบาลสหรัฐฯ แต่ความสามารถในการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ NVIDIA ทำให้นักลงทุนกลับมาเชื่อมั่นอีกครั้ง ส่งผลให้ราคาหุ้นในเดือนมิถุนายนนี้เพิ่มขึ้นแล้วราว 14% หลังจากเพิ่งพุ่งไป 24% ในเดือนก่อนหน้า และกลับมายืนหนึ่งของโลกได้อีกครั้ง