6 กรกฎาคม 2025 โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) จุดกระแสความตึงเครียดครั้งใหม่ในเวทีการค้าระหว่างประเทศ หลังโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัวบน Truth Social ขู่เก็บภาษีกลุ่ม BRICS เพิ่ม โดยระบุว่า สหรัฐฯ เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นอีก 10% กับประเทศใดก็ตามที่ร่วมมือหรือสนับสนุนกลุ่ม BRICS ซึ่งเขามองว่าเป็น “กลุ่มที่ดำเนินนโยบายต่อต้านอเมริกา”

การเคลื่อนไหวของทรัมป์มีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากกลุ่ม BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้) จัดการประชุมสุดยอดผู้นำที่กรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล พร้อมออกแถลงการณ์ร่วมแสดง “ความกังวลอย่างมาก” ต่อแนวโน้มของมหาอำนาจที่ใช้มาตรการภาษีฝ่ายเดียว ซึ่งอาจสร้างผลกระทบร้ายแรงต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม

แม้จะเริ่มต้นจากการเป็นกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา BRICS ได้เร่งขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมือง โดยเฉพาะในประเด็นการลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และเตรียมจัดตั้ง “สกุลเงินกลาง” สำหรับใช้ในการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รัฐบาลทรัมป์เกิดความวิตก

โดยนอกจาก 5 ประเทศที่เป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มแล้ว ล่าสุดมีสมาชิกใหม่เพิ่มอีก 4 ชาติ ได้แก่ อียิปต์ เอธิโอเปีย อิหร่าน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมทั้งไทยได้เข้าร่วมกลุ่ม BRICS ในฐานะประเทศหุ้นส่วน (Partner Country) ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568

นอกจากนั้น ทรัมป์ยังเปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะเริ่มทยอยส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงประเทศคู่ค้าหลัก ๆ เพื่อแจ้งอัตราภาษีใหม่นี้ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 12 ฉบับ รวมถึงประเทศที่อยู่ในระหว่างการเจรจาการค้า

ทรัมป์เคยประกาศเก็บภาษีฐาน 10% สำหรับประเทศส่วนใหญ่ และมีอัตราเสริมสูงสุดถึง 50% แต่เลื่อนวันเริ่มบังคับใช้ทั้งหมด (ยกเว้น 10%) ไปเป็นวันที่ 9 กรกฎาคม ล่าสุดคือวันที่ 1 สิงหาคม ตามที่ทรัมป์และฮาวเวิร์ด ลัทนิค (Howard Lutnick) ประกาศ ซึ่งจะกลายเป็นการขยายเวลาผ่อนปรนออกไปอีก 3 สัปดาห์ แต่ก็ทำให้ผู้นำเข้าทั่วโลกเผชิญกับความไม่แน่นอนที่ยาวนานขึ้น แม้ว่าเวลานี้จะมีเพียง 3 ประเทศ ที่สามารถเจรจาบรรลุข้อตกลงทางภาษีสองฝ่ายกับสหรัฐฯ ได้แก่ จีน เวียดนาม และสหรัฐอเมริกาเอง