วงการการลงทุนในเทคโนโลยีแห่งอนาคตกำลังร้อนแรงสุดขีด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาด Quantum Computing หรือการประมวลผลควอนตัม ซึ่งถูกยกให้เป็นขีดความสามารถใหม่ที่เทียบชั้นได้กับเซมิคอนดักเตอร์และ AI
เมื่อพูดถึงผู้เล่นสำคัญที่ถูกจับตามากที่สุดในตลาดนี้ คงหนีไม่พ้น IonQ (IONQ) บริษัทที่จดทะเบียนใน NYSE ซึ่งนับเป็นหุ้นควอนตัมที่ดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนได้อย่างมหาศาล จากราคาหุ้นที่ทะยานขึ้นไปมากกว่า 300% ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา
กระแสการสนับสนุนควอนตัมจากรัฐบาล
ล่าสุด หุ้น IONQ ได้กลับมาเป็นประเด็นหลักในหน้าข่าวการเงินอีกครั้ง หลังมีรายงานที่ส่งผลให้ราคาหุ้น พุ่งขึ้นกว่า 13% โดยมีข่าวลือว่า ทำเนียบขาวภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ส่งสัญญาณแสดงความสนใจที่จะเข้าถือหุ้นในบริษัท Quantum Computing
แม้ว่าข่าวลือเรื่องการเข้าถือหุ้นของรัฐบาลจะถูกปัดตกไป แต่ข้อมูลทางเทคนิคและมุมมองของนักวิเคราะห์ยังคงสนับสนุนการเติบโตในอนาคตของ IonQ แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคนิคที่น่าประทับใจ และการเติบโตของรายได้ในไตรมาสที่ 2 แบบปีต่อปีที่สูงถึง 82% ปัจจัยเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถในการเติบโตของราคาหุ้นต่อไปในอนาคต
ความท้าทายด้านการเงินและมูลค่าที่สูงลิ่ว
แม้จะมีสัญญาณบวกจากนักวิเคราะห์และตลาดออปชัน แต่นักลงทุนก็ควรพิจารณามูลค่าปัจจุบันของ IONQ อย่างถี่ถ้วน เนื่องจากเป็นบริษัทที่เน้นเทคโนโลยีควอนตัมบริสุทธิ์ ความตื่นเต้นของตลาดต่อเทคโนโลยีที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
ทำให้หุ้นมีราคาที่พุ่งสูงเกินจริง ณ เวลานั้น IonQ มีมูลค่าตลาดสูงถึง 2 หมื่นล้านเหรียญ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดูไม่สมเหตุสมผลนัก เมื่อเทียบกับยอดขายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาที่ทำได้ เพียง 52 ล้านเหรียญ
ปัญหาคลาสสิกของ Quantum Computing
แกนหลักของปัญหาในอุตสาหกรรม Quantum Computing คือการที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมในปัจจุบันยังประสบปัญหาใหญ่เกี่ยวกับ ข้อผิดพลาดในการคำนวณ เกิดจากธรรมชาติของอนุภาคที่นำมาใช้ในการสร้างคิวบิต (qubits) ซึ่งมีความไม่เสถียรสูง ทำให้ประสิทธิภาพในโลกแห่งความเป็นจริงถูกจำกัด
แต่มีสัญญาณบวกสำคัญในด้านการพัฒนา โดยผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ในช่วงปี 2024 ถึง 2025 นี้ จุดเน้นของอุตสาหกรรมได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน จากเดิมที่มุ่งเน้นเพียงแค่การ เพิ่มจำนวนคิวบิตได้เปลี่ยนมาเป็นการมุ่งเน้นไปที่ การสร้างความเสถียรให้กับคิวบิต แทน
ซึ่งรวมถึงการพัฒนาในด้านความเที่ยงตรง (fidelity), ความสอดคล้อง (coherence), และการลดข้อผิดพลาด (error mitigation) การปรับเปลี่ยนนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่บ่งบอกว่าอุตสาหกรรมกำลังก้าวเข้าสู่ ช่วงของการนำไปใช้งานจริง (deployment) มากขึ้น และความก้าวหน้าทางเทคนิคของ IonQ ในการบรรลุระดับความเที่ยงตรงที่ทำลายสถิติ ย่อมสอดคล้องกับทิศทางนี้
ภาพรวมตลาด Quantum Computing มูลค่า 9 หมื่นล้านเหรียญ
มีการคาดการณ์ขนาดตลาดเทคโนโลยีควอนตัมโดยรวมในปี 2035 ไว้ที่ตัวเลขที่น่าตกใจ โดยแบ่งเป็น:
- Quantum Computing: คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าตลาดสูงสุดถึง 72,000 ล้านเหรียญ ในปี 2035
- Quantum Communication: คาดการณ์มูลค่าตลาดที่ 15,000 ล้านเหรียญ
- Quantum Sensing: คาดการณ์มูลค่าตลาดที่ 2.7 พันล้านเหรียญ
นอกจากนี้ ในห่วงโซ่คุณค่าของ Quantum Computing บริการ QaaS (Quantum as a Service) Direct Subscription และบริการระดับมืออาชีพอื่นๆ ก็กำลังเป็นที่จับตาอย่างมาก โดยคาดการณ์ว่า QaaS Direct Subscription จะมีมูลค่าถึง 3.5 พันล้านเหรียญ ในปี 2035 (คิดเป็น 5% ของมูลค่าตลาด 72 พันล้านเหรียญ) ซึ่งถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง +3,400%
การพัฒนาเทคโนโลยีควอนตัมต้องอาศัยเงินทุนจำนวนมหาศาล ทำให้หลายประเทศทั่วโลกทุ่มงบประมาณจำนวนมากเพื่อแย่งชิงความเป็นผู้นำ ข้อมูลการลงทุนสูงสุด 5 อันดับแรกในปี 2023 แสดงให้เห็นการแข่งขันที่ดุเดือด:
- จีน ทุ่มงบประมาณสูงสุดที่ 1.5 หมื่นล้านเหรียญ
- เยอรมนี ลงทุนที่ 5.2 พันล้านเหรียญ
- สหราชอาณาจักร (UK) ลงทุนที่ 4.3 พันล้านเหรียญ
- สหรัฐอเมริกา (USA) ลงทุนที่ 3.75 พันล้านเหรียญ
- เกาหลี (Korea) ลงทุนที่ 2.3 พันล้านเหรียญ
ในส่วนของ ประเทศไทย นั้น แม้จะเป็นตลาดที่กำลังเริ่มต้น แต่ก็มีการลงทุนในเทคโนโลยีควอนตัมอยู่ที่ 6 ล้านเหรียญ
การลงทุนระดับโลกที่สูงเช่นนี้ ตอกย้ำว่ารัฐบาลและนักลงทุนสถาบันต่างมองเห็นศักยภาพของเทคโนโลยีนี้อย่างจริงจัง และความสนใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการสนับสนุนทางการเงินให้แก่บริษัทอย่าง IONQ จึงเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับกระแสการแข่งขันระดับมหภาคนี้
การที่หุ้น IONQ มีการปรับตัวขึ้นอย่างก้าวร้าวในช่วงเจ็ดเดือนที่ผ่านมา ทำให้นักลงทุนบางรายอาจกังวลว่าราคาหุ้นสูงเกินไปแล้วหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากตลาดออปชันชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของเทรดเดอร์ว่า ราคาหุ้นยังสามารถผลักดันให้สูงขึ้นได้อีก ตลอดช่วงที่เหลือของปี 2025 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคาดการณ์ว่าราคาจะทะลุ 80 เหรียญ ภายในสามเดือนข้างหน้า
และการคาดการณ์ขีดจำกัดสูงสุดที่ 68 เหรียญ ในระยะสั้น ซึ่งสะท้อนความเชื่อมั่นว่าความก้าวหน้าทางเทคนิคของ IonQ จะเป็นปัจจัยหนุนที่แข็งแกร่งต่อไป
ในท้ายที่สุดนี้ IonQ ยังคงเป็นชื่อที่โดดเด่นและเป็นศูนย์กลางความสนใจของนักลงทุนทั่วโลกในฐานะผู้ผลิต Quantum Computing แห่งอนาคต ถึงแม้ว่าหุ้นจะมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากข่าวลือเรื่องการเข้าถือหุ้นของรัฐบาลทรัมป์ที่ถูกปฏิเสธในเวลาต่อมา
แต่ปัจจัยพื้นฐานด้านเทคนิคที่แข็งแกร่ง ทั้งการทำลายสถิติด้านความเที่ยงตรง และการเติบโตของรายได้ที่ 82% แบบปีต่อปี ตลอดจนมุมมองเชิงบวกของนักวิเคราะห์ที่ให้เป้าหมายสูงถึง 100 เหรียญ ยังคงชี้ให้เห็นถึงศักยภาพระยะยาวที่น่าตื่นเต้น
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระลึกไว้เสมอว่า การลงทุนในบริษัท Pure-play quantum อย่าง IonQ ที่มีมูลค่าตลาดสูงถึง 20.4 พันล้านเหรียญ ในขณะที่ยังคงมีผลขาดทุนมหาศาล นั้น เป็นการเดิมพันในเทคโนโลยีที่อาจยังไม่มี Killer App ที่ชัดเจน แต่กำลังได้รับการรับรองว่าเป็นวาระแห่งชาติ
ดังนั้น การศึกษาแนวโน้มตลาดควอนตัมที่คาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 72 พันล้านเหรียญ ภายในปี 2035 พร้อมทั้งจับตาความคืบหน้าด้านเสถียรภาพของคิวบิต จะเป็นกุญแจสำคัญในการประเมินโอกาสการลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีพลิกโลกตัวนี้ต่อไป