ฝ่ายขาย และการตลาด
085-848-2253[email protected]http://m.me/beartai
สมัครงาน/ฝึกงาน ติดต่อได้ที่
[email protected]
A woman worships a cow as Indian Hindus offer prayers to the River Ganges
AP Photo / Rajesh Kumar Singh
Read
| Trends

คนอินเดียขำกลิ้ง! เมื่อรัฐบาลสั่งเปลี่ยนวันวาเลนไทน์ให้กลายเป็น ‘วันกอดวัว’

Tabel of Content

เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่ชาวฮินดูส่วนใหญ่ในประเทศอินเดียถือว่า ‘วัว’ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเป็นสัญลักษณ์ของทั้งโลกและเทพเจ้า ซึ่งหากใครเคยเดินทางไปอินเดียมาแล้ว หรือเคยดูตามสารคดีต่าง ๆ เกี่ยวกับประเทศแห่งนี้ ย่อมพบว่าชาวอินเดียนั้นให้ความเคารพนับถือ ‘วัว’ อย่างมาก

แต่ความเคารพนับถือดังกล่าวยังไม่มากพอที่ประชาชนจะเห็นด้วยกับความพยายามของรัฐบาลในการ ‘รีแบรนด์’ วันวาเลนไทน์ให้กลายเป็น ‘วันกอดวัว’ (Cow Hug Day) เพื่อช่วยทำให้ประชาชนรู้สึกมีชีวิตชีวาและจิตใจเบิกบาน รวมถึงการส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นให้เฟื่องฟูอีกครั้ง หลังวัฒนธรรมตะวันตกที่ล้นเข้ามาในอินเดียได้ลดทอนความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ลงไปมาก

โดยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะกรรมการด้านสวัสดิภาพสัตว์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐจากอินเดีย ออกแถลงการณ์ให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็น ‘วันกอดวัว’ โดยให้เหตุผลว่า “วัวเป็นกระดูกสันหลังของวัฒนธรรมอินเดีย และเศรษฐกิจในชนบท วัวเป็นผู้ให้ทุกสิ่งทั้งความร่ำรวยและธรรมชาติที่หล่อเลี้ยงมนุษย์ นอกจากนี้ วัวยังฝังอยู่ในจิตวิญญาณของชาวฮินดูมาอย่างยาวนาน และได้รับความเคารพอย่างยิ่งจากชาวฮินดูจำนวนมาก ดังนั้น การผลักดันให้เกิด ‘วันกอดวัว’ นับเป็นการส่งเสริมประเพณีฮินดูอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกวัฒนธรรมตะวันตกลดทอนความสำคัญลงไป”

ดูจากแถลงการณ์แล้ว รัฐบาลอินเดียที่ความจริงจังอย่างมากในการผลักดันวันกอดวัว แต่กระแสตอบกลับจากประชาชนชาวอินเดียนั้น นี่คือมหกรรมขำขันครั้งใหญ่ของประเทศ และกลายเป็น Talk of the Town ตลอด 1 สัปดาห์ ไล่ตั้งแต่การรายงานข่าวของสื่อมวลชนที่มีการเหน็บแนมอย่างขำขัน ไปจนถึงมีมในอินเทอร์เน็ตที่ล้อเลียนอย่างเจ็บแสบ ล่าสุด แนวคิดนี้ดูเหมือนจะถูกโยนทิ้งไปแบบเงียบ ๆ แล้ว

ความเคลื่อนดังกล่าวของรัฐบาลอินเดียมีที่มาจากนโยบายชาตินิยมของ นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมที (Narendra Modi) ของอินเดีย ซึ่งกำลังผลักดันศาสนาฮินดูอย่างถึงขีดสุด เนื่องจากร้อยละ 80 ของประชาชนราว 1,400 ล้านคนของอินเดีย นับถือศาสนาฮินดู รองลงมา คือ มุสลิมร้อยละ 14 ในขณะที่คริสต์ ซิกส์ พุทธ และเชนอยู่ที่ร้อยละ 6

ที่มา : CNN

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส

Highlight

Xiaomi 17 Ultra เปิดตัวเป็นทางการ ยัดโหดกล้อง 1 นิ้ว ซูม 200 MP แบตฯ อึด 6,800 mAh พร้อมรุ่น Leica Edition ดีไซน์คลาสสิก

26/12/2025
Read More

Huawei Cloud ครองตำแหน่งผู้นำจากรายงาน Omdia พร้อมขึ้นอันดับ 1 ด้านกลยุทธ์และนวัตกรรม

26/12/2025
Read More

ซื้อดีไหม ? HUAWEI MatePad 12 X 2026 สรุปฟีเจอร์เด่นที่น่าโดนในราคาไม่เกินสองหมื่น 

26/12/2025
Read More

แว่นตา AI เปลี่ยนเสียงรอบตัวเป็น “ซับไตเติล” แบบ Real-time ช่วยผู้บกพร่องทางการได้ยิน

26/12/2025
Read More

ญี่ปุ่นทำถึง ! เปิดตัว เครื่องซักมนุษย์ อาบ-ล้าง-เป่าแห้ง จบใน 15 นาที ค่าตัว 13 ล้านบาท

26/12/2025
Read More

เตือน ! ผู้มีสิทธิ “ถ้าไม่ไปเลือกตั้ง – ไม่แจ้งเหตุ” จะถูกจำกัดสิทธิตามกฎหมาย

26/12/2025
Read More

Related Content