นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการที่กรมฯ มีนโยบายสนับสนุนธุรกิจฟู้ดทรักมาอย่างต่อเนื่อง และได้พูดคุยกับผู้ประกอบการฟู้ดทรักพบว่า ปัญหาอุปสรรคหลัก 2 ประการของธุรกิจนี้ คือ 1. การขาดเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ เนื่องจากผู้ประกอบการฟู้ดทรักส่วนใหญ่เป็นธุรกิจรายย่อย เงินทุนมีจำนวนจำกัด และใช้เงินลงทุนเกือบทั้งหมดไปกับการตกแต่งรถให้โดดเด่นสะดุดตา ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค รวมถึงต้องซื้ออุปกรณ์สำหรับจำหน่ายอาหาร จึงไม่มีเงินสำรองหรือเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอสำหรับใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจระยะยาว และ 2.ข้อจำกัดด้านสถานที่จอดรถจำหน่ายสินค้า เช่น ทำเลที่จอดรถต้องไม่ผิดกฎหมายและต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของสถานที่ก่อนจึงจะทำการขายได้ ฯลฯ โดยผู้ประกอบการขอให้หน่วยงานภาครัฐให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาที่กำลังประสบอยู่

เบื้องต้น กรมฯ ได้กำหนดแนวทางเพื่อให้ความช่วยเหลือ เป็น 2 ข้อหลักคือ จะส่งเสริมให้ใช้ประโยชน์จากกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ นำธุรกิจมาเป็นหลักประกันการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน โดยกรมฯ จะหารือและขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินเพิ่มเติมเพื่อออกโครงการเงินกู้อัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับธุรกิจฟู้ดทรักโดยเฉพาะ รองรับผู้ประกอบการที่ต้องการใช้สิทธิผ่านโครงการฯ ดังกล่าว 2.เจรจากับหน่วยงานพันธมิตรเอื้อเฟื้อสถานที่ให้รถฟู้ดทรักจอดจำหน่ายสินค้า หรือคิดค่าใช้จ่ายโดยให้ส่วนลดเป็นกรณีพิเศษ รวมทั้งจัดกิจกรรมฟู้ดทรักอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการได้มีสถานที่จำหน่ายสินค้า เป็นการเปิดตลาดใหม่ พบปะลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ สร้างการจดจำแบรนด์ ตลอดจน เปิดเวทีให้ความรู้เกี่ยวกับธุรกิจฟู้ดทรัก และการใช้ประโยชน์จากกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายมากขึ้น พร้อมเชิญชวนนักลงทุนหน้าใหม่เข้าสู่ธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

ทั้งนี้ช่วงวันที่ 16 – 17 ส.ค.นี้ กรมฯ เตรียมนำผู้ประกอบการฟู้ดทรักออกงานแสดงและจำหน่ายสินค้าในงาน ‘อร่อยกู๊ด ฟู้ดทรัก’ ณ บริเวณลานจอดรถชั้น G อาคารจอดรถมหิดลสิทธาคาร ภายในมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดยมีผู้ประกอบการฟู้ดทรักของไทยกว่า 30 ร้านค้า รวมทั้งเชิญผู้บริหารธุรกิจฟู้ดทรักทีมช้างมาถ่ายทอดประสบการณ์ วิเคราะห์จุดอ่อน – จุดแข็ง และโอกาสการเติบโตของธุรกิจฟู้ดทรักแก่นักลงทุนหน้าใหม่หรือผู้สนใจ เพื่อเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจเข้าลงทุนในธุรกิจ พร้อมทั้งเชิญธนาคารไทยพาณิชย์มาให้คำแนะนำการจัดทำแผนธุรกิจ และการขอสินเชื่อเพื่อเป็นใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือขยายการลงทุนของธุรกิจ

ปัจจุบันมีผู้นำกิจการมาจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแล้วจำนวน 10,021 สัญญา มูลค่ารวม 1,446 ล้านบาท หากผู้ประกอบธุรกิจที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2547 4939 e-Mail : [email protected] สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส