ญี่ปุ่นวางแผนเริ่มระบบตรวจคัดกรองนักท่องเที่ยวที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าก่อนเดินทางถึงในปีงบประมาณ 2571 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามประกาศของกระทรวงยุติธรรม ระบบใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากระบบ Electronic System for Travel Authorization (ESTA) ของสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบนักท่องเที่ยว

ในปี 2567 ญี่ปุ่นต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 36.87 ล้านคน เพิ่มขึ้น 47.1% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากการท่องเที่ยวเป็นเสาหลักในกลยุทธ์การเติบโตของประเทศ รัฐบาลจึงตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ถึง 60 ล้านคน ภายในปี 2573

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าก็ต้องลงทะเบียน Visit Japan บนเว็บไซต์อยู่แล้ว ซึ่งต้องกรอกข้อมูลเบื้องต้น เช่น หนังสือเดินทาง ข้อมูลที่พักในประเทศญี่ปุ่น ข้อมูลสายการบินที่บินเข้าญี่ปุ่น และกรอกข้อมูลอาชยากรรมและศุลกากร เพื่อรับ QR Code ไว้สแกนที่ ตม. ตอนเดินทางเข้าประเทศ

แต่ภายใต้ระบบใหม่นี้ นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าสำหรับการพำนักระยะสั้นในญี่ปุ่น จะต้องให้ข้อมูลส่วนตัวและการเดินทาง เช่น ชื่อ วัตถุประสงค์การเดินทาง และสถานที่พัก ล่วงหน้าอย่างน้อยหลายวันก่อนถึงญี่ปุ่น โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นจะตรวจสอบข้อมูลล่วงหน้า และหากพบว่านักท่องเที่ยวมีประวัติอาชญากรรมหรือเคยอยู่ในญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมาย อาจถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องบินมายังญี่ปุ่น กระทรวงยุติธรรมระบุ แตกต่างจากระบบเดิมที่จะเป็นการตรวจหน้าด่าน ตม.​

ปัจจุบัน ประชาชนจาก 71 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ ได้รับการยกเว้นวีซ่าสำหรับการพำนักระยะสั้นในญี่ปุ่น ตามข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศ

ระบบ ESTA ของสหรัฐฯ เริ่มใช้ในปี 2544 หลังเหตุการณ์ก่อการร้าย 11 กันยายน และหลายประเทศ เช่น แคนาดา ก็ได้นำระบบที่คล้ายกันไปใช้

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองญี่ปุ่นยังพิจารณาใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและลดขั้นตอนที่ต้องทำด้วยตนเอง เพื่อให้การตรวจคัดกรองมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น