ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประกาศข้อตกลงการค้ากับเวียดนามเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยระบุว่า สินค้าส่งออกจากเวียดนามจะต้องเผชิญกับภาษี 20% เมื่อเข้ามาสหรัฐฯ ขณะที่สินค้าจากสหรัฐฯ จะสามารถเข้าประเทศเวียดนามได้โดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร

ในโพสต์ของทรัมป์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ทรัมป์ระบุว่า ข้อตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ประกาศเก็บภาษี 46% กับการนำเข้าสินค้าจากเวียดนามในเดือนเมษายน ซึ่งข้อกำหนดนี้ได้ถูกระงับชั่วคราวเป็นเวลา 90 วันเพื่อเจรจาต่อรอง โดยปัจจุบันสหรัฐฯ บรรลุผลสำเร็จกับเวียดนามเป็นที่เรียบร้อย ทรัมป์เสริมว่าข้อตกลงนี้จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางการค้าระหว่างสองประเทศ
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวว่าประเทศเวียดนามจะต้องเผชิญกับภาษี 40% สำหรับสินค้า Transshipping ซึ่งหมายถึงสินค้าที่มาจากประเทศอื่นแล้วผ่านเวียดนามก่อนเข้าสหรัฐฯ โดยทรัมป์กล่าวหาว่าสินค้าจากจีนหลีกเลี่ยงภาษีโดยการขนส่งผ่านเวียดนาม
ในปี 2023 สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้ากับเวียดนามเป็นจำนวน 122,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้าที่ใหญ่ที่สุดอันดับสามของสหรัฐฯ รองจากจีนและเม็กซิโก ขณะที่เวียดนามยังได้รับประโยชน์จากความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะลดอิทธิพลของจีน โดยเฉพาะในด้านการผลิตและการจัดหาซัปพลายเออร์
แม้ว่าข้อตกลงนี้จะได้รับการต้อนรับจากเวียดนาม แต่ผู้เชี่ยวชาญบางรายก็สงสัยว่า ทรัมป์จะสามารถบังคับใช้ข้อตกลงลักษณะดังกล่าวนี้กับประเทศการค้าขนาดใหญ่ เช่น สหภาพยุโรป หรือญี่ปุ่นได้หรือไม่