จากกรณีถนนทรุดตัวบริเวณโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ในเขตก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ทำให้เกิดหลุมยุบขนาดใหญ่กว่า 30×30 เมตร และลึกถึง 50 เมตร เหตุการณ์นี้ชวนให้ย้อนคิดถึงกรณีหลุมยุบที่เมืองฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2559 ซึ่งแม้จะมีขนาดใกล้เคียงกัน แต่ความรวดเร็วในการจัดการกลับเป็นที่น่าทึ่ง

ย้อนไปเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2559 หลุมยุบขนาดยักษ์กว้าง 30 เมตร ลึก 15 เมตร ได้ปรากฏขึ้นกลางถนน 5 ช่องจราจรหน้าสถานีรถไฟฮากาตะ เสียงดังคล้ายระเบิดทำให้ชาวบ้านในละแวกนั้นแตกตื่น อาคารพาณิชย์และร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้เคียงถูกสั่งอพยพทันทีเพื่อป้องกันการถล่ม แม้จะไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่ระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า แก๊ส และน้ำประปาก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
สิ่งที่ทำให้ทั่วโลกต้องทึ่ง คือประสิทธิภาพในการซ่อมแซมของญี่ปุ่น ทีมวิศวกรและคนงานได้ระดมกำลังทำงานอย่างไม่หยุดพัก เริ่มต้นด้วยการถมดินและซีเมนต์กว่า 6,200 ลูกบาศก์เมตร พร้อมซ่อมแซมท่อส่งน้ำและท่อแก๊สไปพร้อมกัน โดยใช้เวลาเพียง 2 วันเท่านั้นในการถมหลุมยักษ์ ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างละเอียด

และในที่สุดถนนสายนี้ ก็สามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 หรือเพียงแค่ 7 วัน หลังจากเกิดเหตุการณ์ ไม่มีการรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตใด ๆ ความรวดเร็วและเป็นระบบนี้ทำให้คลิปการทำงานของพวกเขาถูกแชร์และได้รับคำชื่นชมอย่างกว้างขวาง
จนหลายคนทั่วโลกรวมถึงคนไทย อดไม่ได้ที่จะนำไปเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพการทำงานในประเทศของตนเอง นับเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการจัดการวิกฤตอย่างมืออาชีพของญี่ปุ่น ซึ่งในตอนนี้ประเทศเราเองก็กำลังเกิดเหตุการณ์นี้อยู่เช่นกัน ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าประเทศไทยเราจะรับมือเหตุการณ์นี้ต่อไปอย่างไร