วงการอวกาศกำลังจะก้าวสู่ยุคใหม่ เมื่อ Vast บริษัทเทคโนโลยีจากแคลิฟอร์เนียประกาศความคืบหน้าโครงการ Haven-1 สถานีอวกาศเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลก ที่มีแผนปล่อยสู่วงโคจรเดือนพฤษภาคม 2026 ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นท่ามกลางแผนการของ NASA ที่จะปลดระวางสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) ภายในปี 2030

NASA กำลังผลักดันการทำงานร่วมกับเอกชนเพื่อหาผู้สร้าง “บ้านหลังใหม่” ในอวกาศ โดย Vast ถือเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลัก พร้อมสัญญาความร่วมมือกับ SpaceX ในการส่ง Haven-1 สู่วงโคจรและรองรับนักบินอวกาศชุดแรกหลังสถานีขึ้นไปไม่กี่เดือน

Haven-1 ถูกออกแบบเป็นโมดูลเดียว เส้นผ่านศูนย์กลาง 4.4 เมตร มีพื้นที่อยู่อาศัย 45 ลูกบาศก์เมตร รองรับลูกเรือ 4 คนต่อภารกิจสองสัปดาห์ พร้อมหน้าต่างโดม 1.2 เมตร โต๊ะทำงานพับเก็บได้ พื้นที่นอนส่วนตัว และอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจาก Starlink เน้นการวิจัยด้านไมโครกราวิตีและการผลิตเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น เซมิคอนดักเตอร์

บริษัทตั้งเป้าจัดภารกิจ 4 ครั้งในระยะเวลา 3 ปี โดยลูกค้าหลักคือหน่วยงานอวกาศของประเทศกำลังพัฒนา และนักวิจัยเอกชนที่ต้องการทำงานสำคัญในอวกาศ ราคาค่าที่นั่งยังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าต้องเตรียมเงินก้อนใหญ่

ตั้งแต่เปิดตัวโครงการกลางปี 2023 Vast เพิ่มพนักงานจาก 200 คนเป็น 950 คน และลงทุนสร้างโรงงานผลิตโมดูลของตัวเอง คาดว่าจะลงทุนรวมราว 1,000,000,000 เหรียญ ก่อนถึงกำหนดปล่อยในปี 2026

แม้ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานสถานีอวกาศยังเป็นโจทย์ใหญ่—ปัจจุบัน ISS ใช้งบเฉลี่ยวันละกว่า 12,000,000 เหรียญ—ผู้เชี่ยวชาญมองว่าหาก Vast คุมต้นทุนต่อวันให้อยู่ราว 2,700,000 ถึง 5,500,000 เหรียญ ก็มีโอกาสทำกำไรและปูทางสู่การสร้าง Haven-2 รุ่นใหญ่ในอนาคต

Haven-1 ไม่เพียงเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมอวกาศเอกชน แต่ยังสะท้อนแนวโน้มใหม่ที่โลกกำลังเปลี่ยนจากโครงการภาครัฐสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์ หาก Vast ส่งสถานีขึ้นสู่วงโคจรได้ตามแผน โลกอาจได้เห็น “บ้านเช่าในอวกาศ” แห่งแรกภายในเวลาไม่กี่ปีจากนี้