ในยุคที่ AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนโลกการทำงานอย่างรวดเร็ว ทำให้คนรุ่นใหม่ หรือเหล่าเด็ก Gen Z เริ่มเห็นชัดขึ้นว่า แม้แต่ ‘ใบปริญญาจากมหาวิทยาลัยดัง’ ก็อาจจะไม่ใช่กุญแจสู่ความสำเร็จอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น อัตราการว่างงานในหมู่ ‘เด็กจบใหม่’ เองก็กำลังเพิ่มสูงขึ้นด้วย อาจเพราะไร้ประสบการณ์หรือด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตาม

ใบปริญญากับทักษะเฉพาะทาง อะไรสำคัญกว่ากัน ?

ความจริงเรื่องนี้ก็ทำให้เกิดการถกเถียงครั้งใหญ่ว่า ตกลงแล้วระหว่าง “ใบปริญญา” กับ “ทักษะเฉพาะทาง” อะไรสำคัญกว่ากัน ?

ฮิวโก ซาราซิน (Hugo Sarrazin) CEO ของ Udemy

ฮิวโก ซาราซิน (Hugo Sarrazin) CEO ของ Udemy (แพลตฟอร์มเรียนทักษะออนไลน์มูลค่าเกือบพันล้านเหรียญสหรัฐฯ) บอกว่า ทั้งสองอย่างนี้ไม่ใช่ศัตรูกัน

ที่จริงแล้ว “มันคือการอยู่ร่วมกันครับ ผมคิดว่าการที่เราเริ่มต้นด้วยปริญญา มันคือใบเบิกทางที่ปูรากฐานที่ดี แต่เราเองก็ยังต้องมี ‘ทักษะ’ เพื่อให้เป็นที่ต้องการในที่ทำงาน”

ความรู้ที่เรียนมาจะเพียงพอไปตลอดชีวิตมันน่าตลก

ซาราซินยังเสริมด้วยว่า มัน “น่าตลก” ที่จะคิดว่าความรู้ที่เรียนมาตอนอายุ 20 ต้น ๆ จะเพียงพอไปตลอดชีวิต แต่สิ่งที่จะกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ คือ “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” (Lifelong Learning)

“เราต้องก้าวไปสู่โลกที่ทุกคนต้องอัปเดต ‘พอร์ตโฟลิโอทักษะ’ ของตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับงานที่อยากทำและตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป”

แน่นอนว่าการที่ซาราซินเลือกที่จะออกมาพูดแบบนี้ก็ไม่น่าแปลกใจ แต่เขาก็ยืนยันว่า ถ้าเขาย้อนกลับไปเป็นนักศึกษาอีกครั้ง เขาก็จะไม่ทิ้งการเรียนในมหาวิทยาลัย

เพราะตัวเขาเองก็มีปริญญาถึง 3 ใบ (2 ใบจากสแตนฟอร์ด) และไม่เคยเสียใจเลย เขากล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้สอนสิ่งที่ “ไม่มีวันตกยุค” นั่นคือ “วิธีคิด”

ทักษะที่จำเป็นในโลกที่ขับเคลื่อนด้วย AI

เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาไป ทักษะที่จำเป็นก็ต้องเปลี่ยนตาม ซาราซินชี้ว่า “ทักษะการปรับตัว” (Adaptive Skills) กลายเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุด แต่กลับ “ถูกมองข้าม” มากที่สุดในที่ทำงาน

รายงานเทรนด์ปี 2026 ของ Udemy เน้นย้ำว่าคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น การตัดสินใจ, ความสงสัยใคร่รู้, ความยืดหยุ่น และความกล้าเสี่ยง คือกุญแจสำคัญที่จะอยู่รอดในยุค AI

ในรายงานระบุว่า การพัฒนาทักษะเพื่อรับมือ AI ไม่ใช่แค่การเรียนเทคนิคการใช้งาน แต่มันคือความสามารถในการ ‘ตั้งคำถามที่ถูกต้อง’, รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพึ่งพา AI (และเมื่อไหร่ควรหยุด) และการมองเห็นผลกระทบที่จะตามมาไกลกว่าแค่ตรงหน้า

ข้อมูลจาก LinkedIn ก็สะท้อนไปในทางเดียวกัน โดยชี้ว่าทักษะที่เติบโตเร็วที่สุดที่คนทำงานควรมี ได้แก่ ความเข้าใจ AI, การจัดการความขัดแย้ง, การปรับตัว, การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ และการคิดเชิงนวัตกรรม

ไม่ว่าอย่างไรใบปริญญายังคงมีค่า

ถึงอย่างนั้น คุณค่าของการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยก็ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น ข้อมูลระบุว่า โดยเฉลี่ยแล้ว “ปริญญาตรี 1 ใบ ให้ผลตอบแทนตลอดชีวิตสูงถึง 682% (เมื่อเทียบกับต้นทุนที่จ่ายไป)”

แม้ว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการ “คืนทุน” (เฉลี่ยประมาณ 11 ปีในการทำงาน) แต่ผลตอบแทนระยะยาวนั้นถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะมันช่วยเปิดประตูสู่ความก้าวหน้าในอาชีพและรายได้ที่สูงขึ้น

ซาราซินยังย้ำว่า อย่างไรก็ตาม การมีแค่ “ใบปริญญา” อย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะรับประกันความสำเร็จได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสามารถในการนำ “ความรู้พื้นฐาน” ไปประยุกต์ใช้กับความท้าทายในอนาคต

สุดท้ายใบปริญญาก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ ที่ตอนเรียนนั้นเราทุกคนก็แสนจะเบื่อหน่ายกับมัน กว่าจะได้มาก็แสนยากเย็น ความรู้พื้นฐานที่ยังต้องเรียนรู้และพัฒนามันในทุก ๆ วันก็ยากเช่นกัน แต่เชื่อเถอะว่าในอนาคตมันจะตอบแทนคุณด้วยมูลค่าที่เราเองก็คาดไม่ถึง…