ภาพจำของพัทยาสำหรับคนไทยและต่างชาติอาจเป็นภาพเมืองท่องเที่ยวชายทะเลและแสงสียามค่ำคืน แต่ปัจจุบันพัทยากำลังอัปแพตช์ใหม่ ปรับโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ซึ่งทาง BT beartai ได้ไปบุกถึงถิ่นพัทยา และบอกได้เลยว่า ‘พัทยาเปลี่ยนไปแล้ว’
สิ่งที่มาพร้อมความเจริญและการเติบโตทางเศรษฐกิจ คงที่ไม่ผลปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ ยิ่งสถานะการเป็นเมืองท่องเที่ยวของพัทยา ทำให้เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้มีขยะสูงถึง 500-600 ตันต่อวัน เมื่อเทียบปริมาณขยะต่อพื้นที่ตารางกิโลเมตรแล้ว ถือว่าหนาแน่นกว่ากรุงเทพมหานครด้วยซ้ำ
แต่ภาพที่ BT beartai ได้ไปเห็นกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะสภาพแวดล้อมของพื้นที่ส่วนใหญ่ของพัทยากลับดูสะอาดตาแบบไม่น่าเชื่อ ยิ่งเทียบกับภาพของนักท่องเที่ยวที่พลุกพล่านและเศรษฐกิจที่คึกคักผ่าน วอล์กกิงสตรีต และร้านค้าต่าง ๆ ยิ่งแลนด์มาร์กสำคัญอย่างชายหาดพัทยาตั้งแต่เหนือ กลาง จรดพัทยาใต้ หากลองเดินดูจะเห็นทางเท้าที่ปูเรียบเสมอ เดินได้ง่าย และถังขยะแยกประเภทที่วางไว้ถี่พอ ๆ กับเสาไฟฟ้า LED ที่เมืองพัทยาเพิ่งเปลี่ยนไปใหม่
ชวนให้เราสงสัยถึงนโยบายและการจัดการปัญหาขยะ เพราะอย่างที่ทุกคนรู้ว่ามนุษย์เป็นผู้ผลิตขยะให้กับโลกนี้ และเรากำลังเผชิญกับภาวะสิ่งแวดล้อมในระดับวิกฤต แต่เมืองคนต้องกินต้องใช้ เมืองต้องโต สิ่งที่เราทำได้ คือ จัดการกับสิ่งที่เราก่อให้ได้ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพที่สุด
พัทยา กับภารกิจแก้ปัญหาขยะล้นเมือง
Pattaya Go Green หนึ่งในนโยนบายของเมืองพัทยา ภายใต้การนำของ ปรเมศวร งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ที่ต้องการแก้ Pain Point ด้านขยะของเมือง ที่เริ่มต้นตั้งแต่การปลูกจิตสำนึกและรณรงค์เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมของคนท้องที่และผู้มาเยือนด้วยการแยกขยะอย่างจริงจัง แต่ก็ต้องบอกว่าเรื่องจิตสำนึกเรื่องการแยกขยะเป็นเรื่องปัจเจก แม้ว่าในภาพกว้างพฤติกรรมนี้จะส่งผลต่อเราทุกคนก็ตาม
เมื่อพูดถึงประเด็นแยกขยะ หลายคนอาจเข้าใจว่า ในท้ายที่สุดผู้ที่จัดการขยะก็จะนำขยะทั้งหมดที่ได้แยกไปกลับไปรวมและกำจัดด้วยกันอยู่ดี แต่นั่นใช้ไม่ได้กับที่พัทยา หากคุณมาพัทยา คุณอาจเห็นเจ้าหน้าที่เก็บขยะแต่งตัวด้วยชุดเอี๊ยมสีสันสดใสเหมือนคาแรกเตอร์มาริโอ มายกขยะ ซึ่งทางเมืองพัทยาได้มีการแยกการเก็บขยะแต่ละประเภทที่ชัดเจนตามที่ถังที่ผู้คนได้แยกเอาไว้

แม้จะเป็นเหมือนสีสันเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเมือง แต่แค่การเปลี่ยนชุดในการทำงานก็กลับทำให้ภาพของการแยกขยะในพัทยาดูเข้าถึงง่าย เป็นมิตร และทำได้จริงมากยิ่งขึ้น ช่วยเสริมความมั่นใจของคนท้องที่และนักท่องเที่ยวว่าขยะที่พวกเขาตั้งใจที่จะแยก นั้นจะไม่สูญเปล่า และขยะพวกนั้นจะถูกนำไปกำจัดอย่างถูกต้องตามที่ควรจะเป็น
บนพื้นที่เกาะล้าน แลนด์มาร์กสำคัญของพัทยา เดิมเคยมีขยะสะสมตกค้างกว่า 100,000 ตัน และมีขยะใหม่เกิดขึ้นวันละ 12-15 ตัน ปัจจุบันมีการสร้างเตาเผาขยะใหม่ 2 เตา ประสิทธิภาพเผาได้เตาละ 25 ตันต่อวัน เพื่อกำจัดขยะรายวันให้หมดไปและทยอยเผาขยะสะสมเดิม โดยไม่ต้องขนย้ายข้ามฝั่งมาทิ้งบนบก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่ขยะจะตกหล่นลงทะเลระหว่างการขนส่ง
ความพยายามในจัดการปัญหาขยะและวางแผนการจัดการสิ่งแวดล้อมของเมืองพัทยานั้นได้ผล เพราะล่าสุดพื้นที่ “ตลาดเก่านาเกลือ” ได้รับรางวัล Green Destination Top 100 ซึ่งเป็นรางวัลระดับโลกที่มอบให้กับแหล่งท่องเที่ยวที่มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ความยั่งยืนด้านความปลอดภัย
พัทยานั้นเป็นเมืองที่มีความหลากหลายด้วยกันหลายมิติ โดยเฉพาะในแง่ของผู้คน พัทยามีผู้มาเยือน ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศหลายล้านคนต่อไป ซึ่งความแตกต่างทางความคิด วัฒนธรรม และพฤติกรรมการนำไปสู่ความขัดแย้งหรือปัญหาอาชญากรรมบางอย่างได้ ซึ่งทางเมืองพัทยาได้สร้างความยั่งยืนในการใช้ชีวิตของผู้คนผ่านการใช้เทคโนโลยีและการจัดการ
อย่างการใช้กล้อง CCTV กว่า 2,500 ตัวทั่วเมือง และ 300 ตัวบนเกาะล้าน พร้อมเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ผ่านห้องควบคุมเพื่อเฝ้าระวังเหตุการณ์ไม่ปกติ ซึ่งประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถขอเรียกดูภาพที่บันทึกไว้ผ่านระบบในกรณีที่ต้องการหลักฐาน กล้องวงจรปิดบางส่วนยังใช้ AI และเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลของตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB เพื่อตรวจจัดใบหน้าของผู้ต้องหาที่มีหมายจับ ซึ่งจะแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที
นอกจากนี้ ผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือนเมืองพัทยาสามารถเข้าถึงกล้องวงจรปิดแบบ Real-time กว่า 400-600 จุดทั่วเมืองพัทยา เพื่อตรวจสอบปัญหาด้านการจราจรเพื่อวางแผนการเดินทาง ผ่าน LINE Official Account @PattayaConnect ความยั่งยืนของการอยู่อาศัยต้องมาพร้อมความปลอดภัย พัทยาจึงนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยดูแลประชาชนและนักท่องเที่ยวตลอด 24 ชั่วโมง

พัทยาในเวอร์ชันที่สวยกว่าที่เคย
พัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่โดดเด่น ทั้งในแง่ของความเจริญ แสงสี และธรรมชาติ หากใครไม่ได้ไปเยือนพัทยามาสักพัก การไปเที่ยวพัทยาครั้งถัดไป จะทำให้คุณเห็นพัทยาเวอร์ชันใหม่ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน ทั้งการนำเสาไฟฟ้าลงดินตลอดเส้นชายหาดพัทยาเหนือ พัทยากลาง จรดพัทยาใต้ จัดระเบียบร้านค้า พร้อมปูทางเท้าใหม่ เพิ่มไฟสว่าง ทางม้าลายอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัย สิ่งนี้จะทำให้ประสบการณ์การเที่ยวพัทยาไม่เหมือบครั้งไหน และการปรับทัศนียภาพยังขยายผลไปยังหาดจอมเทียนอีกหนึ่งแลนด์มาร์กของเมืองนี้
ซึ่งทั้งหมดที่เล่ามานี้ยังสะท้อนว่า “เมืองท่องเที่ยวระดับโลก” ไม่จำเป็นต้องแลกมาด้วยความเสื่อมโทรมของทรัพยากรเสมอไป หากมีการจัดการที่ดีและได้ีรับการใส่ใจ
ตัวหนังสือทั้งหมดนี้ไม่สามารถถ่ายทอดสัมผัสของเมืองพัทยาที่อัปแพตช์ใหม่ได้ทั้งหมด ทั้งภาพของสายไฟที่มุดลงดิน ทางเท้าใหม่ หรือพนักงานเก็บขยะในชุดมาริโอ มีหนทางเดียวที่คุณจะสัมผัสได้ คือ การมาเยือนพัทยาสักครั้ง สุดท้ายแล้ว พัทยาในแพตช์นี้อาจกำลังบอกเราว่า นี่คือพัทยาเวอร์ชันนี้ คือ เวอร์ชันที่ดีที่สุดเท่าที่เราเคยรู้จักมา
