หลังจากที่ ‘Lightyear’ แอนิเมชันเรื่องใหม่ล่าสุดของดิสนีย์และพิกซาร์ ถูกแบนห้ามฉายในโรงภาพยนตร์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตัดสินใจแบนเพราะเนื้อหาภายในเรื่องแสดงให้เห็นฉากจูบเพศเดียวกันของตัวละครหญิง

ไม่เพียงแต่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เท่านั้นที่แบนหนังเรื่อง ‘Lightyear’ แต่ก็ยังมีประเทศอื่น ๆ มากกว่า 14 ประเทศ ในแถบตะวันออกกลางด้วย เช่น ซาอุดีอาระเบีย, อียิปต์, เลบานอน, คูเวต และยังมีประเทศในแถบเอเชียอย่าง อินโดนีเซีย, มาเลเซีย ที่แบนหนังเรื่องนี้

‘บัซ’ (Buzz) จากเรื่อง Lightyear

ภายหลัง ‘คริส อีแวนส์’ (Chris Evans) ผู้พากย์เสียง ‘บัซ’ พระเอกตัวหลักของเรื่อง ได้ออกมาโต้ตอบในประเด็นนี้ว่า “พวกที่ไม่สนับสนุน LGBTQ นั้นโคตรจะงี่เง่า เอาแต่พยายามยึดติดอยู่กับอดีต ซึ่งคนพวกนั้นจะตายและสูญพันธุ์ไปเหมือนไดโนเสาร์”

‘คริส อีแวนส์’ (Chris Evans) ผู้พากย์เสียง ‘บัซ’ ในเรื่อง Lightyear

ซึ่งประเด็นนี้ทำให้หลาย ๆ คนสงสัยว่า ทำไมประเทศส่วนใหญ่ในแถบตะวันออกกลางจึงแบนหนังเรื่องนี้? เหตุผลหนึ่งที่อาจเป็นไปได้คือ ‘การขัดต่อหลักศาสนา’ ซึ่งในประเทศดังกล่าว ประชากรส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลาม และมักจะใช้ ‘กฎหมายชะรีอะฮ์’ หรือเรียกอีกชื่อว่า ‘กฎหมายอิสลาม’

โดยกฎหมายอิสลามจะครอบคลุมในด้านต่าง ๆ ของชีวิตประจำวัน ที่รวมทั้งการปกครอง เศรษฐกิจ การบริหารธุรกิจ การธนาคาร ระบบการทำสัญญา ความสัมพันธ์ในครอบครัว หลักการอนามัย ปัญหาของสังคม รวมไปถึงหลักของความสัมพันธ์ทางเพศ

ธง LGBTQIA+

หลักของความสัมพันธ์ทางเพศ ในศาสนาอิสลามจะไม่มีการรักเพศเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ชายรักชาย หญิงรักหญิง นั้นหมายถึงการรักร่วมเพศเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ก็ไม่ใช่เพียงแค่ศาสนาอิสลามที่ต่อต้านการรักร่วมเพศ แต่ศาสนาคริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ก็เห็นว่าการรักเพศเดียวกันเป็นบาปเช่นเดียวกัน

อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลก็คือ การรักเพศเดียวกันจะทำให้ไม่สามารถขยายเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ ซึ่งสิ่งที่ศาสนาห้ามคือสิ่งที่ขัดกับธรรมชาติของการเป็นมนุษย์ นอกจากนี้ยังเป็นการยกเกียรติความเป็นมนุษย์ให้สูงกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น แม้ว่าศาสนาอิสลามจะต่อต้านการรักร่วมเพศ แต่ก็ไม่เข้าไปก้าวก่ายคำสอนของศาสนาอื่น ดังปรากฏในคำภีร์อัลกุรอานว่า “สำหรับพวกท่านก็คือศาสนาของพวกท่าน และสำหรับฉันก็คือศาสนาของฉัน” (อัลกาฟิรูน โองการที่ 6)

แอนิเมชันเรื่อง ‘Onward’ (ซ้าย) และ ภาพยนตร์เรื่อง ‘Doctor Strange 2’ (ขวา)

ไม่ใช่แค่ ‘Lightyear’ ที่เคยถูกแบนในแถบตะวันออกกลาง แต่แอนิเมชันของพิกซาร์อย่าง ‘Onward’ ก็ถูกแบนมาแล้วเช่นเดียวกัน เหตุเพราะมีการอ้างอิงถึงพ่อแม่ที่เป็นเลสเบี้ยน รวมถึงในเดือนเมษายนที่ผ่านมาซาอุดิอาระเบียก็เคยพยายามตัดซีนที่มีการอ้างอิงถึง LGBTQ ใน ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’

อย่างไรก็ตาม ‘Lightyear’ จะถูกแบนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพียง 6 เดือนเท่านั้น และหลังจากนั้นตัวภาพยนตร์จะถูกจัดไปอยู่ในหมวดประเภทสื่อสำหรับคนอายุ 21 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจเป็นเพราะต้องการให้ผู้ที่ได้รับชมเป็นผู้ที่คิดไตร่ตรองได้ด้วยตนเองแล้วเท่านั้น

ท้ายที่สุดแล้วแม้ว่า ‘Lightyear’ จะถูกแบนห้ามฉายกว่า 14 ประเทศ แต่ก็สามารถทำรายได้ทั่วโลกในสัปดาห์แรกไปมากถึง 85.6 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 3,020 ล้านบาท

ที่มา wikipedia , Islammore

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส