[รีวิว]Young Lady and Gentleman : น้ำเน่าขั้นสุดแต่สนุกติดหนึบ บ้านทรายทองต้องยอมแพ้
Our score
7.8

บท

คิมซาคยอง

กำกับ

ชินชางซอก

จำนวนตอน

52 ตอน / ตอนละ 70 นาที

ช่องทางรับชม

NETFLIX และ VIU

[รีวิว]Young Lady and Gentleman : น้ำเน่าขั้นสุดแต่สนุกติดหนึบ บ้านทรายทองต้องยอมแพ้
Our score
7.8

[รีวิว]Young Lady and Gentleman : น้ำเน่าขั้นสุดแต่สนุกติดหนึบ บ้านทรายทองต้องยอมแพ้

จุดเด่น

  1. เป็นซีรีส์สูตรสำเร็จฉบับแม่บ้านเกาหลี ที่เดาทางได้หมดและน้ำเน่าสุด ๆ แต่จะหยุดดูไม่ได้
  2. นักแสดงเด็กทั้ง 3 คนในเรื่อง ช่วยเพิ่มอรรถรสให้มีชีวิตชีวาและไม่น่าเบื่อได้มาก ๆ

จุดสังเกต

  1. การดำเนินเรื่องยืดเยื้อในบางช่วงและมีจุดน่าเบื่อน่ารำคาญจนแอบคิดว่า ซีรีส์เรื่องนี้มี 40 ตอนก็พอแล้ว และไม่แน่ว่าบางคนอาจจะอยากเททิ้ง แต่เทไม่ลงเพราะจะเกินครึ่งเรื่องเข้าไปแล้ว
  • บท

    6.5

  • โปรดักชัน

    8.0

  • การดำเนินเรื่อง

    6.5

  • การแสดง

    10.0

  • ความสนุกตามแนวซีรีส์

    8.0

ซีรีส์แม่บ้านเกาหลีปี 2021 เรื่องราวของรักต่างวัย ต่างฐานะ ที่ฟาดเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศไปที่ 36.5% เอาชนะ Hometown cha-cha-cha ที่ออกอากาศในวันเวลาเดียวกัน จัดเป็นละครล็อต เสาร์-อาทิตย์ ที่ครองอันดับ 1 ไม่มีตก แม้หัวหน้าฮงแห่งหมู่บ้านกงจินจะน่ารักแค่ไหน ก็ไม่สามารถเอาชนะประธานอี พระเอกสายลุงที่มีสาวน้อยวัยสดใสอย่าง พัคดันดัน มาตกหลุมรักไปได้หรอกจ้ะ

เรื่องนี้ผู้เขียนดูแบบตีคู่มากับหัวหน้าฮงตั้งแต่วันที่ออกอากาศในปีนั้นแล้วละค่ะ เป็นซีรีส์ 52 ตอน ที่ทำเอาติดหนึบและเฝ้ารอวันออกอากาศ ซึ่งก็เป็นปกติของซีรีส์ครอบครัวเกาหลีเขานะคะ ที่มักจะเป็นซีรีส์เรื่องยาว 50 กว่าตอน ไปจนถึง 200 กว่าตอนก็ทำมาแล้ว และเรตติ้งมักจะอยู่ในระดับที่สูงเสมอ ๆ อย่าง ‘Five Enough’ ซีรีส์ครอบครัวที่ผู้เขียนชื่นชอบมาก ๆ จนเรียกว่าละครประเภทอื่นไม่สามารถสู้ได้เลยในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ คอละครทั้งไทยและเกาหลีจะดูกันตาเปียกและมักจะไม่สามารถหยุดดูได้เลยสักเรื่อง ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ให้อารมณ์ได้ประมาณนั้น

Young Lady and Gentleman : เล่าเรื่องราวของ ‘พัคดันดัน’ (อีเซฮี) สาวน้อยน่ารัก สดใส สุดอาภัพที่แม่ผู้ให้กำเนิด สะบัดบ๊อบทิ้งไปอย่างไม่ใยดีตั้งแต่ยังเป็นทารก เธอเติบโตมากับ ‘พัคซูชอน’ (อีจองวอน) ผู้เป็นพ่อที่เป็นหัวหน้าครอบครัวหาเงินเลี้ยงคนทั้งบ้าน และ ‘ชา-ยอนชิล’ (โอฮยอนคยอง) แม่เลี้ยงที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่แบเบาะ เธอมีพี่ชายต่างสายเลือดอยู่กับเขาอีกคนหนึ่งคือ ‘พัคแดบอม’ (อันอูยอน) ลูกชายที่ไม่เอาไหนของชา-ยอนชิล ชายหนุ่มผู้ไม่เคยทำธุรกิจอะไรสำเร็จเลยสักอย่าง เรียกว่าหยิบจับอะไรเป็นเจ๊งว่างั้นเถอะ จนในที่สุดก็พลาดท่าหาเรื่องเดือดร้อนเข้าบ้านจนได้ หนำซ้ำเธอเองยังมาตกงานกะทันหัน เพราะสถาบันกวดวิชาที่เธอเป็นครูสอนพิเศษอยู่ต้องปิดตัวลง

ด้วยความเหนื่อยหน่ายและเซ็งเต็มแก่กับเรื่องราวทั้งหมด ถ้าชีวิตจะสู้กลับขนาดนี้มันก็ต้องก๊งกันให้หน้าแดงไปข้าง โซจู 1 ขวดจึงถูกเทลงไปในกระบอกน้ำและเดินทางไปชมวิวบนเขาพร้อมกันกับเธอ ใช่ค่ะ สาวน้อยน่ารักพกโซจูที่อยู่ในกระบอกน้ำสีชมพูขึ้นไปก๊งบนเขา และได้เจอกับ ‘อียองกุก’ (จีฮยอนอู) พระเอกของเรื่อง อีตาลุงนี่แกก็เดินขึ้นเขามาทั้ง ๆ ที่ใส่สูท ด้วยมาดของประธานบริษัทหล่อ ๆ เท่ ๆ ผ่านแมกไม้กันมาเลย แต่ดันดันเข้าใจผิด ว่าคนอะไรใส่สูทมาเดินบนเขา โรคจิตแน่ ๆ แถมเดินตามมาเรียกฉันแม่หนู แม่หนูอีกต่างหาก จะมาทำอะไรฉันรึเปล่า

ความกลัวแบบไม่ลืมหูลืมตา ก็ตีหัวประธานอีด้วยกระบอกน้ำสีชมพูหวานแหวว สลบเหมือดเลือดอาบ กว่าจะรู้ความจริงว่าที่เขาเดินตามน่ะเขาจะมาช่วย เพราะเธอเดินเข้าไปในเขตหวงห้าม มันอันตรายย่ะหล่อน ก็ต้องวุ่นวายไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่คนเรานะคะ บทมันจะมาเกี่ยวพันกันมันก็ต้องเกี่ยวเข้าจนได้ เพราะจริง ๆ แล้วประธานอีกับดันดันเคยเจอกันมาก่อนตั้งแต่ดันดันยังเป็นเด็กอายุ 13 เมื่อครั้งที่ดันดันงอนพ่อแล้วไปนั่งหน้าง้ำอยู่นอกบ้าน ขี่จักรยานเล่นด้วยกัน เล่นเกมตีตุ่นด้วยกัน เรื่องราวผ่านมาจนดันดันอายุ 26 ส่วนประธานอีอายุ 40 และเป็นพ่อม่ายลูกสาม สองคนกลับมาเจอกันอีกครั้งบนเขาแต่จำกันไม่ได้

แต่พวกเขายังจะต้องเจอกันอีก เพราะต่อจากนี้ดันดันจะเข้าไปทำงานเป็นครูสอนพิเศษแบบอยู่ประจำให้ลูก ๆ ของประธานอี จะต้องได้พบกับเด็ก ๆ 3 คน ‘อีเจนี’ (ชเวมยองบิน) ‘อีเซซาน’ (ยุนจุนซอ) และ ‘อีเซจอง’ (ซออูจิน) ที่เรียงอายุและความแสบตามลำดับกันมาเลย นอกจากนั้นจะต้องรับมือกับ ‘วังแดรัน’ (ชาฮวายุน) อนุภรรยาของพ่อประธานอีที่เห็นแก่เงินและรักความสุขสบาย ‘โจซารา’ (พัคฮานา) หัวหน้าแม่บ้าน รุ่นน้องของภรรยาประธานอี ซึ่งตกหลุมรักเจ้านายตัวเอง และหวังจะได้เป็นคุณนายคนใหม่ของบ้านอยู่ตลอดเวลา

หนำซ้ำยังมีเรื่องราวชุลมุนชุลเกอีกมากมายให้ต้องปวดหัว ทั้งความรักของคู่พระ-นาง ความรักของคู่อื่น ๆ เรื่องราวของการสู้ชีวิตแต่ชีวิตก็ดันสู้กลับ รัก หวานซึ้ง ดราม่า ร้องห่มร้องไห้ ถูกเข้าใจผิด ถูกกลั่นแกล้ง สารพัดสารเพที่เกิดมาเป็นนางเอกต้องอดทน ประหนึ่งพจมานแห่งบ้านทรายทองรวมร่างกับดาวพระศุกร์ก็ไม่ปาน

น้ำเน่าสุด ๆ แต่หยุดดูไม่ได้

ขึ้นชื่อว่าซีรีส์แม่บ้านของเกาหลีก็การันตีในความน้ำเน่าได้เต็มที่เลยละค่ะ เรื่องไหนเรื่องนั้นความน้ำเน่าไม่เป็นสองรองใคร พี่ไทยว่าเน่าแล้ว น้องเกานี่เน่ากว่า แต่ในความน้ำเน่าของเกาหลีมันทำเอาเราหยุดดูไม่ได้ทั้ง ๆ ที่เขาก็มักจะประเคนความยาวมาให้เราถูถึง 50 ตอนเป็นอย่างน้อย เพราะส่วนใหญ่แล้วละครประเภทนี้ของเกาหลีจะเป็นละครเรื่องยาว ย้าวยาว ชนิดที่ดูกันไปสักพักก็ทำเอาลืมฉากแรกไปเสียฉิบ แต่ด้วยเสน่ห์ของน้ำเน่าเกาหลีมักดึงอารมณ์ร่วมของคนดูได้ง่าย ๆ และการผูกเรื่องให้น่าติดตาม ชนิดที่หลงเดินตามกันมาจนเกินครึ่งทาง ไอ้ครั้นจะไม่ตามต่อให้มันจบก็คาใจเสียแล้วสิ

เรื่องนี้บทเขียนให้นางเอกเป็นเด็กอาภัพมาตั้งแต่เกิด ด้วยว่าแม่ใจร้ายทอดทิ้งไปมีชีวิตใหม่คนเดียวอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด เปิดฉากแรกมาแบบนี้อารมณ์คนดูอย่างผู้เขียนก็พุ่งพล่านทันทีเลยค่ะ คนอะไรใจร้ายจังทิ้งลูกทิ้งผัวไปมีชีวิตใหม่คนเดียวได้ลงคอ แต่บทก็ทำให้เราคิดในทางกลับกันได้อีกว่า ก็หนุ่มสาวมีลูกเมื่อไม่พร้อมอ่ะนะ ฝ่ายชายเป็นจิตรกรฝีมือดี ส่วนฝ่ายหญิงมีความฝันอยากเป็นดีไซเนอร์ชื่อดังให้ได้ แต่มาป่องกลางทางทำให้ความฝันและอนาคตที่วาดหวังไว้ต้องหยุดชะงัก เรื่องนี้เลยต้องมีคนเห็นแก่ตัวสักคนหนึ่งและมีอีกคนที่เสียสละจนน่าสงสาร

แต่เคราะห์ก็ยังดีที่ความน้ำเน่ามันต้องสุด ๆ ไปเลย บทจึงเขียนให้พ่อของดันดันมีนางฟ้ามาโปรด คือแม่เลี้ยงของดันดันที่กระเตงลูกเข้ามาขอร้องให้สู้ชีวิตต่อไปเถอะ ฉันจะเป็นแม่ให้ดันดันเอง เรามาช่วยกันเลี้ยงลูกกันนะ และบทก็ยังเพิ่มความน้ำเน่าให้มากขึ้นอีกด้วยการให้ดันดันเข้าใจผิด คิดว่าแม่เลี้ยงเป็นชู้กับพ่อตัวเองจนแม่แท้ ๆ ของตัวเองต้องตาย แถมพ่อยังต้องทำงานงก ๆ อยู่คนเดียวเลี้ยงแม่ เลี้ยงทุกคนในบ้านอีก

ครั้นเมื่อเข้ามาทำงานในบ้านพระเอกก็ต้องรบราฆ่าฟันกับหม่อมแม่และหญิงใหญ่แห่งบ้านทรายทอง คือคุณนายแดรัน กับหัวหน้าโจ ที่สองคนรวมหัวกันกลั่นแกล้ง วางแผน สารพัดสารเพที่จะกำจัดให้ดันดันไปให้พ้น ๆ ด้วยความอิจฉา แต่ไม่สำเร็จง่าย ๆ เพราะดันดันได้กุมหัวใจเจ้าของบ้านและลูก ๆ ทั้งสามของเขาเอาไว้แล้ว แต่อุปสรรคมากมายก็จะถาโถมมาแบบไม่หยุดหย่อน กว่าจะรักกันได้ก็ยากเย็น แต่พอรักกันแล้วก็ต้องแยกจากกันอีกเพราะบทจะต้องเขียนให้เรื่องนี้ เป็นน้ำเน่าที่สมบูรณ์แบบให้จงได้

ด้วยการให้พระเอกความจำเสื่อมแล้วนางอิจฉาก็จะมาวางแผนหลอกลวงต่าง ๆ นานา จนน่าหยุมหัว น่าหมั่นไส้และตลกกับความคิดนางในหลาย ๆ ฉาก จำเอาไวเลยนะคะ เรื่องไหนพระเอก-นางเอกไม่ตากฝน ตากหิมะจนป่วย หรือพระเอก-นางเอกไม่ความจำเสื่อม เรื่องนั้นเป็นน้ำเน่าปลอม ของแท้ต้องมีสมองกระทบกระเทือนให้ลืมเลือนไปชั่วขณะ แถมด้วยการรับประกันคุณภาพที่ความจริงบางอย่างจะต้องเปิดเผย ไม่ต่างกับดาวพระศุกร์ได้พบแม่ที่แท้จริงจากปานแดงรูปหัวใจนั่นเลยเชียว มากไปกว่านั้นเรื่องนี้ยังทวีความน้ำเน่าไปที่ อีตาลุงพระเอกเป็นความจำเสื่อมแบบเสื่อมแล้วเสื่อมอีกด้วยจ้า ก็เสื่อมบ่อยจริง พอถึงจุดไคล์แม็กซ์ทีไร พ่อเป็นลืมทุกทีให้มันได้อย่างนี้สิ

ซึ่งจุดนี้ทำให้ซีรีส์เกิดความน่าเบื่อขึ้นมาแล้วละค่ะ เพราะจากบทน้ำเน่าลื่น ๆ กลายเป็นบทน้ำเน่าที่ย้ำคิดย้ำทำและยืดเยื้อจนเกิดความน่าเบื่อ ฟองฟอดจนน่ารำคาญในหลาย ๆ ช่วง แต่กว่าจะทำให้คนดูเกิดความรู้สึกนี้ขึ้นมาได้ก็ปาเข้าไป 40 กว่าตอน แต่ถึงแม้จะมีจุดน่าเบื่อขนาดนี้ ความเปรี้ยงปร้างของซีรีส์ก็ทำให้ผู้สร้างเพิ่มตอนจากตอนแรกที่มี 50 ตอนจบเป็น 52 ตอนจบได้อีกด้วย สารภาพว่าตอนนั้นร้องว่า แม่เจ้า!! ยังจะเพิ่มมาอีกพ่อคุณเอ้ย

นักแสดงคุณภาพทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่

ด้วยความที่ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ครอบครัวที่มีทุกรสชาติ ไม่ว่าจะเป็นดราม่า คอมเมดี้ โรแมนติก โดยเฉพาะโหมดดราม่าที่จัดหนักจัดเต็ม ประเคนความรันทดของชีวิตและบังเอิญแล้วบังเอิญอีกกันสุด ๆ ก็เป็นธรรมดาที่ตัวแสดงมากกว่าครึ่งจะเป็นดาราบ่อน้ำตาตื้น เอะอะน้ำตาร่วง เอะอะน้ำตาไหลพราก ไม่เว้นแม้แต่เด็กตัวเล็ก ๆ อย่าง ‘ซออูจิน’ เด็กชายตัวน้อยที่รับบท อีเซจอง ลูกชายคนเล็กของประธานอี ไม่มีใครไม่หลงรักเด็กน้อยคนนี้ค่ะ และมั่นใจได้เลยว่าเมื่อหนูน้อยซออูจินเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เขาจะกลายเป็นดาราเจ้าบทบาทที่น่าจับตามองคนหนึ่งเลยทีเดียว

และหากใครสักคนยังพอจะจำได้ หนูน้อยคนนี้เคยสร้างน้ำตาให้กับผู้ชมมาแล้วใน บ๊ายบายแม่จ๋า Hi Bye, Mama! ซึ่งตอนนั้นรับบทเป็นเด็กผู้หญิง เพราะหน้าตาช่างน่ารักจิ้มลิ้มเสียเหลือเกิน เสน่ห์มากมายของเรื่องนี้จึงอยู่ที่อินเนอร์นักแสดงที่ปล่อยพลังกันสุด ๆ ทั้งความลำไยเกินเบอร์จนน่ารำคาญของนางเอก และความขี้อิจฉาชนิดจะเอาให้ได้ของนางอิจฉาที่บทก็ใส่เหตุผลแสนรันทดให้กับนางไว้อีกแน่ะ ดราม่าเรื่องนี้จึงจัดหนักจัดเต็มไปที่ซีนอารมณ์ที่ใส่ไว้ให้แบบเกินเบอร์ คือมันไม่ต้องเศร้าขนาดนั้นก็ได้แต่บทก็จะบังคับให้เศร้า แล้วเรานี่แหละดันเศร้าตาม เอากับเขาสิ

จึงกลายเป็นความเก่งกาจของผู้กำกับและการดำเนินเรื่องที่ทำให้เราคล้อยตาม รู้ทั้งรู้ว่าหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย แต่เราก็เคลิ้มไปกับเขาได้ง่าย ๆ ด้วยการแสดงเรียล ๆ และบทที่หลอกให้เชื่อ ในโลกแห่งความฝันที่เป็นไปได้ยากในชีวิตจริง ทุกตัวละครในเรื่องจะวนเวียนอยู่ในจักรวาลเดียวกันที่ต้องมีจุดไหนสักจุดที่กลายเป็นความสัมพันธ์ที่ลึกลับ มีประเด็น และผูกเรื่องราวของตัวละครแต่ละตัวให้กลายเป็นสังคมใหญ่ที่พาเราไปให้เห็นชีวิตที่แตกต่าง

เราจะเห็นชีวิตของแต่ละคู่ที่น้ำเน่าไม่แพ้คู่เอก มีคู่รอง คู่สาม คู่สี่ อีรุงตุงนัง รวมเป็นกลุ่มก้อนให้เราลุ้น ยิ้ม หัวเราะ เสียน้ำตาและที่สำคัญคือเกิดความรู้สึกอบอุ่นกับสังคมครอบครัวที่สร้างขึ้นมาให้สัมผัสได้ถึงความรักที่ครอบครัวมีให้กัน แต่จะทำให้เราก่นด่าไปได้ตลอดทั้งเรื่องอีกด้วย ชนิดที่ดูไปบ่นไปแบบมีอารมณ์ร่วมสุด ๆ เป็นละครหลังข่าวสไตล์แม่บ้านเกาหลีที่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงครองเรตติ้งอันดับหนึ่ง เพราะเน่าได้ใจขนาดนี้เองไงล่ะ และแน่นอนว่าตอนจบก็ต้องจบแบบสุขนิยมให้แม่บ้านทั้งหลายได้ยิ้มแฉ่งอยู่แล้วละค่ะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส