ลงจอไปเรียบร้อยกับ ‘Wednesday’ ซีรีส์ภาคแยกของสาวน้อยหน้ามุ่ยจากแฟรนไซส์ ‘The Addams Family’ มินิซีรีส์ขนาด 8 ตอนกำกับโดย ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) โดยได้สาวน้อย เจนน่า ออร์เทก้า (Jenna Ortega) มารับบทเป็น ‘เวนส์เดย์’ เด็กหญิงหน้ามุ่ยขี้โมโหแห่งตระกูลพิลึก และยังได้ คริสตินา ริชชี (Christina Ricci) เวนส์เดย์ที่ผู้คนจดจำมากที่สุดในยุค 90s กลับมารับบทสำคัญในซีรีส์นี้อีกด้วย

ถ้าพูดถึง ‘The Addams Family’ เชื่อว่าหลายคนยังไม่ทราบที่มาที่ไปของครอบครัวพิลึก ๆ ตระกูลนี้กัน เราจะพาไปดูว่าแรกเริ่มเดิมที และที่มาที่ไปของครอบครัวแอดดัมส์จะเป็นอย่างไรกันบ้าง

The Addams Family (1938)

ต้นกำเนิดของครอบครัวพิลึกนี้เป็นการ์ตูนแก๊กที่ตีพิมพ์ลง ‘The New Yorker’ หนังสือพิมพ์ชื่อดัง ใช้ชื่อว่า ‘The Addams Family’ สร้างสรรค์โดย ชาร์ลส์ แอดดัมส์ (Charles ‘Chas’ Addams) การ์ตูนนิสต์ผุ้ให้กำเนิดครอบครัวสุดพิลึก ที่ว่ากันว่าเขาได้ต้นแบบความดาร์กของ ‘มอร์ทิเชีย แอดดัมส์’ มาจากภรรยาคนแรกของเขา บาร์บารา จีน เดย์ (Barbara Jean Day) ที่แต่งงานกันในปี 1942 และหย่ากันในปี 1950 ก่อนจะแต่งงานใหม่กับ เอสเทลล์ บาร์บ (Estelle Barb) ซึ่งภายหลังกลายเป็นผู้ฟ้องร้อง และได้ลิขสิทธิ์ของตัวละครทั้งหมดเป็นของเธอเองซะยังงั้น พวกเขาหย่ากันในปี 1985 ก่อนที่ชาร์ลส์จะแต่งงานอีกครั้งกับ มาริลีน แมทธิวส์ มิลเลอร์ (Marilyn Matthews Miller) และทั้งสองก็ย้ายมาตั้งรกรากฐาวรอยู่ที่นิวยอร์กจนถึงปี 1988 เขาก็ได้เสียชีวิตลงเมื่ออายุ 76 ปี เหลือเพียงตัวละคร และเรื่องราวที่เป็นตำนานของครอบครัวพิลึกมาให้คนรุ่นหลัง ๆ ได้บันเทิงกันต่อไป

The Addams Family (1964-66)

ซีรีส์ต้นฉบับที่ทำให้ครอบครัวพิลึกเป็นที่รู้จักและโด่งดังเป็นอย่างมาก สร้างสรรค์โดย ABC และพัฒนาบทโดย เดวิด เลวีย์ (David Levy) ออกฉายทั้งหมด 64 ตอนใน 2 ซีซัน ตั้งแต่ปี 1964-1966 และก็เป็นไปตามคาด เรื่องลิขสิทธิ์ที่ฟ้องร้องกันวุ่นวายตกเป็นของภรรยาคนที่ 2 จึงทำให้ต้องจ่ายเงินอีกมากมายเพื่อที่จะได้นำเรื่องราวของครอบครัวพิลึกนี้มาสร้างลงจอฉาย ซีรีส์ภาคดั้งเดิมนี้ได้ จอห์น แอสติน (John Astin) รับบท ‘โกเมซ’ แคโรลีน โจนส์ (Carolyn Jones) รับบท ‘มอร์ทิเซีย’ ได้ แจ็กกี้ คูแกน (Jackie Coogan) รับบทเป็นลุงเฟสเตอร์ และ ลิซา ลอร์ลิง (Lisa Loring) กับบท เวนส์เดย์ คนแรกที่โลดแล่นบนจอทีวี

The Addams Family Fun-House (1973)

เป็นตอนตัวอย่างที่ ABC ทำออกมาฉายโฆษณา ก่อนเวอร์ชันการ์ตูนที่กำลังจะทำออกมาในภายหลัง

The Addams Family (1973-75)

เมื่อกระแสการตอบรับเป็นบวก หลังจากไปปรากฎตัวในหนัง “Scooby-Doo Meets the Addams Family” ปี 1972 ครอบครัวสุดพิลึกก็ได้มีอนิเมชันซีรีส์เป็นของตัวเองครั้งแรก และได้นักแสดงจากเวอร์ชันแรกมาให้เสียงตัวละครของตัวเอง ทำให้โด่งดังมากในสมัยนั้น แถมยังออกมาถึง 2 ซีซัน และจากการ์ตูนฉบับนี้เองที่บัญญัติให้ ลุงเฟสเตอร์ เป็นพี่ชายของโกเมซ แทนที่จะเป็นพี่ชายของ มอร์ติเซีย ตามเนื้อเรื่องดั้งเดิม และมันก็เป็นอย่างนั้นตลอดมาจนทุกวันนี้

Halloween with the New Addams Family (1977)

หนังเฉพาะกิจเป้นการรียูเนียนของนักแสดงชุดแรกตั้งแต่ปี 1964 ที่กลับมารับบทบาทของตัวเองอีกครั้ง ยกเว้น บลอสซัม ร็อค (Blossom Rock) ที่รับบทคุณย่า ซึ่งเสียชีวิตไปไม่นานตั้งแต่ซีรีส์ออกฉาย 

The Addams Family (1991)

นับว่าเป็นภาพยนตร์ที่ดีที่สุด กวาดรายได้ไปมากที่สุด และมีคนพูดถึงมากที่สุด เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเลยทีเดียวสำหรับหนังเวอร์ชันนี้ น่าเสียดายที่ ชาร์ล เสียชีวิตไปก่อนเมื่อปี 1988 เขาจึงไม่มีโอกาสได้เห็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นี้ หนังเรื่องนี้เป็นผลงานของ แบร์รี ซันเนลเฟล (Barry Sonnenfeld) ซึ่งมากำกับเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกก็ปังซะแล้ว และยังได้สร้างไอคอนของ ‘เวนส์เดย์’ เด็กหญิงหน้ามุ่ยซึ่งรับบทโดย คริสตินา ริชชี (Christina Ricci) ซึ่งนับได้ว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ดีที่สุดของเธอเลยทีเดียว ในส่วนของตัวละครอื่น ๆ นั้นก็ได้นักแสดงฝีมือดีมารับบทบาทได้อย่างเหมาะสมดีเยี่ยม ราอูล จูเลีย (Raúl Juliá) ในบทโกเมซ, แองเจลิกา ฮุสตัน(Anjelica Huston) ในบท เมอร์ทิเซีย, คริสโตเฟอร์ ลอยด์ (Christopher Lloyd) กับบท ลุงเฟสเตอร์ 

The Addams Family : The Animated Series (1992-93)

จากความสำเร็จของภาพยนตร์ในปีก่อน ABC จึงจับครอบครัวพิลึกมาทำเป็นการ์ตูนลงจออีกครั้ง คราวนี้ได้ Hanna-Barbera มาจัดการสร้างสรรค์ และนับว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม แฟน ๆ ชอบ เลยมีออกมาให้ชมกันถึง 2 ซีซันเลยทีเดียว

Addams Family Values (1993)

ผลจากความสำเร็จของหนังภาคก่อนที่กวาดรายได้อย่างงดงาม และ ‘เวนส์เดย์’ กลายเป็นไอคอนแห่งยุค สตูดิโอ Paramount Pictures จึงไม่ลังเลที่จะสร้างภาคต่อออกมา ภาคนี้ได้นักแสดงจากภาคแรกมาทั้งหมดยกเว้นบทคุณย่า ที่ แครอล เคน (Carol Kane) มารับหน้าที่นี้แทน จูดิธ มาลินา (Judith Malina) แต่หนังภาคนี้กลับไม่ดังไม่ปังเท่าภาคแรก อีกทั้ง ราอูล จูเลีย (Raúl Juliá) โกเมซ ของเราก็มาเสียชีวิตลงในปี 1994 แผนการที่จะทำภาค 3 จึงต้องพับไปโดยปริยาย

Addams Family Reunion (1998)

หนังที่คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นภาคต่อของ ‘Addams Family’ และ ‘Addams Family Values’ แต่จริง ๆ แล้วหนังเรื่องนี้เป็นซิตคอมขนาดยาวที่ทำเป็นหนังวิดีโอ ซึ่งในตอนแรกคิดว่าจะเอาลงโรงฉายแต่คาดว่าจะขาดทุนแน่นอนจึงจับมาลงม้วนขายแทน

The New Addams Family (1998-99)

ซีรีส์ซิตคอมจากแคนาดาซึ่งไม่เป็นที่นิยมมากนักในวงกว้าง แต่ก็ทำออกมาถึง 2 ซีซัน 65 ตอน เพราะแฟน ๆ ในอเมริกาเหนือชอบมาก ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จในบ้านพอสมควร

The Addams Family Musical (2010)

ละครเพลงเรื่องนี้สร้างสรรค์ดัดแปลงจากต้นฉบับการ์ตูนของ ชาร์ล แอดดัมส์ โดยตรง เขียนบทโดย มือเขียนบทละครบรอดเวย์ มาร์แชล บริกแมน (Marshall Brickman) และ ริก อีไลซ์ (Rick Elice) ประพันธ์บทเพลงโดย แอนดรู ลิปปา (Andrew Lippa) เริ่มทำการออกทัวร์ในปี 2009-2010 โดยทำการแสดงไปถึง 722 รอบ และออกแสดงอีกครั้งในปี 2015-2017 โดยระหว่างออกทัวร์ คณะละครได้รับเสียงวิจารณ์ในแง่ลบจากแฟน ๆ มากมาย แต่ตั๋วก็ยังขายหมดทุกรอบ นับว่าประสบความสำเร็จไม่น้อยเลย

The Addams Family : Animated Movies (2019-2021)

Illumination Entertainment และ Universal Pictures ได้ลิขสิทธิ์ของ The Addams Family อย่างถูกต้องในปี 2010 จึงมีแผนลงทุนลงขันกันสร้างแอนิเมชันซึ่งพัฒนามาจากตัวละครต้นฉบับดั้งเดิมออกมา จนมาถึงในปี 2017 พาเมลา เพตต์เลอร์ (Pamela Pettler) นักเขียนบทชื่อดังที่เคยฝากผลงานไว้อย่าง Corpse Bride, Monster House ได้พัฒนาบทของเรื่องเสร็จเรียบร้อย และได้ คอนราด เวอร์นอน (Conrad Vernon) และ เกร็ก เทียร์แนน (Greg Tiernan) มากำกับ แต่เปลี่ยนสตูดิโอจาก llumination Entertainment มาเป็น Cinesite Studios แทน และได้นักแสดงชื่อดังมากมายมาร่วมให้เสียงคือ ออสการ์ ไอแซก (Oscar Issac) ในบท โกเมซ, ชาร์ลิซ เทียร์รอน (Charlize Theron) ในบท มอร์ทิเซีย, โคลอี เกรซ มอเรตซ์ (Chloë Grace Moretz) กับบท เวนส์เดย์ , ฟินน์ วูล์ฟฮาร์ด (Finn Wolfhard) เป็น พักซ์ลีย์, นิก โครลล์ (Nick Kroll) เป็นลุงเฟสเตอร์, เบ็ตต์ มิดเลอร์ (Bette Midler) เป็น คุณย่า, สนูป ด็อก (Snoop Dogg) เป็น ลูกพี่ลูกน้องอิท ทั้งสองเรื่องออกฉายในช่วงเทศกาลฮัลโลวีนของปี 2019-2021 และแน่นอนว่าได้รับความนิยมอย่างท่วมท้น

Wednesday (2022)

และมาถึงล่าสุดที่เพิ่งลงจอไป กับภาคแยกของเรื่องราวโดยเน้นไปที่ เวนส์เดย์ ซึ่งโตเป็นสาววัยรุ่นแล้ว แตกต่างกับที่ผ่านมาที่เธอจะถูกนำเสนอในแบบฉบับของเด็กน้อยอายุ 10 ขวบ ได้ เจนนา ออร์เทกา (Jenna Ortega) มารับบทสาวน้อยหน้ามุ่ย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครมาตั้งแต่ดั้งเดิม และก็ทำได้อย่างดีมากเสียด้วย อีกทั้งยังได้ คริสตินา ริชชี (Christina Ricci) อดีตเด็กน้อยเวนส์เดย์ ที่ผู้คนจดจำได้มากที่สุดในโลกจนกลายเป็นไอคอนของยุค 90 มารับบท คุณครูธอร์นฮิลล์ คุณครูแม่บ้านประจำหอ ซึ่งเพิ่มความน่าติดตามให้กับหนังอย่างมากมายเลยทีเดียว ผลงานซีรีส์นี้กำกับโดย ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ยอดฝีมือของวงการ ลงจอฉายแล้วทาง Netflix ทั้งซีซัน เรียกได้ว่าดูกันรวดเดียวจบได้เลยไม่ค้างคา สัมผัสความสยองกันได้แล้ววันนี้ แฟน ๆ น่าจะสมใจเพราะผู้เขียนเองดูไปแล้วเพียง 3 ตอนก็รู้สึกได้เลยว่า ‘ยอดเยี่ยม’

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส