หนึ่งในผู้กำกับยอดฝีมือที่เป็นตำนานของโลกใบนี้ สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ที่มีผลงานเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกถึงรสนิยม และความละเอียดที่ทุมเทลงไปในการทำงาน จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกผลงานที่เขาสร้างสรรค์ออกมานั้น เต็มไปด้วยคุณภาพ และมีความเป็นศิลปะขั้นสุดทั้งหมด เพียงแต่หนังของเขานั้นไม่ได้ดังเปรี้ยงไปเสียทุกเรื่อง เพราะรสนิยมคนดูนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย แต่แน่นอนว่า ผลงานของเขาทุกเรื่องนั้น เป็นที่รู้จัก และยังเป็นที่พูดถึงกันมาตลอดจนทุกวันนี้

“แรงบันดาลใจ” นั้นเป็นส่วนสำคัญในการทำงานในทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นงานที่เกี่ยวกับศิลปะหรือไม่ก็ตาม เพราะมันคือแรงขับเคลื่อนทำให้ศิลปิน หรือผู้สร้างสรรค์ผลิตผลงานออกมาอย่างดีที่สุด และมีคุณภาพมากที่สุด ในวงการภาพยนตร์ก็เช่นกัน สปีลเบิร์กเองก็เป็นนักดูหนังตัวยงมาก่อนที่จะเริ่มงานกกับการแสดง มีภาพยนตร์หลายเรื่องที่ตัวเขานำมาเป็นแรงบันดาลใจ หรือเอาความประทับใจนั้นมาขยายความในสไตล์ของตัวเขาเอง สร้างผลงานออกมาหลายต่อหลายเรื่อง อย่างเช่นหนังเรื่อง ‘The Day the Earth Stood Still’ ผลงานของ โรเบิร์ต ไวส์ (Robert Wise) ในปี 1951 ที่ตัวเขานำพาความประทับใจนั้นมาสู่ผลงาน ‘E.T.’ , ‘Close Encounters of the Third Kind’ หรือแม้แต่หนังเรื่องดัง ‘A.I.’ ที่เขาได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘Pinocchio’ 

จากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในวงการหลายสิบปีของเขา ภาพยนตร์ต่าง ๆ ได้ผ่านสายตา และความคิดของเขานับร้อยนับพันเรื่อง ในจำนวนนี้จะมีเพียงไม่กี่เรื่องกันที่เขาชื่นชอบยกให้เป็นหนังในดวงใจ และมีเพียงไม่กี่เรื่องที่กลายเป็นแรงบันดาลใจขับเคลื่อนให้เขาสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมออกมาให้แฟน ๆ ได้ชมกัน เราจะพาไปดูว่าหนัง 6 เรื่องที่เขายกให้เป็นสุดยอดในดวงใจตลอดกาลนั้น มีเรื่องอะไรกันบ้าง

Blue is the Warmest Color

ภาพยนตร์ฝรั่งเศสเรื่องอื้อฉาว ผลงานของ อับเดลลาทีฟ เคชิเช (Abdellatif Kechiche) ผู้กำกับชาวตูนิเซีย ออกฉายในปี 2013 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรักระหว่างหญิงสาว 2 คน และมีฉากแสดงออกเกี่ยวกับเพศอย่างชัดเจน จนเป็นประเด็นกันในสังคมขณะนั้น แต่หนังเรื่องนี้ก็ทำให้คณะกรรมการของเทศกาลหนังเมืองคานส์ปีนั้นมอบรางวัล ‘Palme d’Or’ ให้อย่างเป็นเอกฉันท์ โดยประธานกรรมการในปีนั้นชื่อ สตีเวน สปีลเบิร์ก 

Fiddler on the Roof

ภาพยนตร์เพลงจากปี 1971 เนื้อหาเกี่ยวกับชาวยิวครอบครัวหนึ่งที่อาศัยอยู่ในประเทศรัสเซีย ด้วยศาสนาและความเชื่อที่แตกต่างทำให้ครอบครัวนี้อยู่อย่างยากลำบากในทุก ๆ เรื่อง ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้คือประเด็นการต่อต้านชาวยิวนี้ เกิดก่อนที่จะเป็นกระแสใหญ่ในเยอรมัน ตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 หนังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ถึง 8 รางวัลในปี 1971 และคว้าไปได้ถึง 3 รางวัลด้วยกัน

The Iron Giant

เป็นภาพยนตร์ที่ โรเจอร์  อีเบิร์ต (Roger Ebert) สุดยอดนักวิจารณ์ภาพยนตร์ได้นิยามเอาไว้ว่า “หนังเต็มไปด้วยจินตนาการ และจิตวิญญาณ ที่เต็มตื้นอยู่ในทั้งตัวและหัวใจ” แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จในด้านรายได้ แต่นี่ก็คือหนึ่งในหนังสุดรักของสปีลเบิร์ก จนเราได้เห็นเจ้าหุ่นยักษ์จากหนังเรื่องนี้ไปโลดแล่นบทบู๊อยู่ใน ‘Ready Player One’ ของเขา 

War of the Worlds (1953)

ชอบหนังรักหนังเรื่องนี้มากจนต้องนำมารีเมกใหม่ด้วยตัวเองในปี 2005 หนังเรื่องนี้สร้างจากนิยายชื่อเดียวกัน ผลงานของ เอช. จี. เวลล์ส (H.G Wells) ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “บิดาแห่งนิยายวิทยาศาสตร์” ผลงานเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาในปี 1898 หนังต้นฉบับเรื่องนี้ถูกยกย่องว่าใช้เทคนิคพิเศษถ่ายทอดจินตาการออกมาได้อย่างดี และสเปเชียลเอฟเฟกต์ต่าง ๆ รวมถึงเทคนิคการถ่ายทำก็เป็นการปฏิวัติวงการหนังในสมัยนั้นอีกด้วย 

Avatar

ภาพยนตร์ในตำนานอีกเรื่องหนึ่งที่เรียกได้ว่าปฏิวัติวงการหนังของฮอลลีวูดอีกระรอกหนึ่งก็ว่าได้ ทั้งเรื่องเทคนิคการถ่ายทำ เครื่องไม้เครื่องมือ รวมถึงการจัดฉายบนจอ IMAX ที่ทำให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์แบบถึงที่สุด จนทำรายได้เป็นที่ 1 ในโลกก่อนการมาของ ‘Avengers : Endgame’ ผลงานของเพื่อนรัก ลุงเจมส์ คาเมรอน (James Cameron) และสปีลเบิร์กเองยังเคยออกมากล่าวชื่นชมหนังเรื่องนี้ออกสื่อฯ อยู่หลายครั้ง

Star Wars : A New Hope

ไม่เพียงแต่สปีลเบิร์กที่เคารพ และยกย่องชื่นชอบหนังเรื่องนี้ของ จอร์จ ลูคัส (George Lucas) เพื่อนรัก แต่คนในวงการต่างยกย่องและให้เกียรติภาพยนตร์เรื่องนี้กันมากมาย เพราะนี่คือตำนานของมหากาพย์แห่งพลังที่ยังอยู่ยืนยงจนทุกวันนี้ มีแฟน ๆ หลาย ๆ ล้านคนทั่วโลก และมันยังเป็นแรงบันดาลใจ รวมถึงปฏิวัติการถ่ายทำของวงการ เรียกได้ว่าหนังดังหลาย ๆ เรื่องมีแรงสร้างสรรค์ไปจาก ‘Star Wars’ มากมาย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหนังที่ทรงอิทธิพลต่อวงการภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่สุดเรื่องหนึ่งของโลกกันเลยทีเดียว

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส