เพิ่งประเดิมความน่ากลัวลงจอได้ไม่นานกับซีรีส์ซอมบี้ที่สร้างจากเกมอย่าง ‘The Last of Us’ เรื่องราวของโจล (เพโดร พาสคาล – Pedro Pascal) ที่ต้องเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้เห็ด เพื่อนำตัวสาวน้อย เอลลี รับบทโดย เบลลา แรมซีย์ (Bella Ramsey) ความหวังของมนุษยชาติไปส่งให้กับสถานที่สกัดวัคซีน เพราะเธอคือคนที่ถูกซอมบี้กัด แล้วไม่ติดเชื้อ

หลายคนคงคุ้นหน้าคุ้นตาแรมซีย์ จาก ‘Game of Thrones’ ที่รับบทหญิงสาวผู้สูงศักศักดิ์ ลีอานา มอร์มอนต์ กันมาบ้างแล้ว แต่ลำหรับใครที่มาโดนเธอตกจากซีรีส์เรื่อง ‘The Last of Us’ วันนี้เราจะพาไปรู้จักเรื่องราวของเธอกัน

เบลลา แรมซีย์ เกิดวันที่ 30 กันยายน 2004 เธอเติบโตที่ประเทศสหราชอาณาจักร ตอนนี้อายุ 19 ปี เธอมีความฝันที่อยากเป็นนักแสดงตั้งแต่อายุ 4 ขวบ นับตั้งแต่วันนั้นเธอจึงเริ่มฝึกฝนทักษะการแสดงและเริ่มเดินสายออดิชัน เพื่อเป็นนักแสดงมืออาชีพ จนวันหนึ่งเธอก็ได้รับบท ลีอานา มอร์มอนต์ จาก ‘Game of Thrones’ มาครอบครอง ด้วยวัยเพียง 11 ปี

ด้วยเสน่ห์และทักษะการแสดงที่เกินวัยของเธอนั้น ทำให้ได้รับคำชมว่าเป็นหนึ่งในนักแสดงเด็กที่มีพรสวรรค์คนหนึ่ง หลังจากที่เธอโชว์ผลงานแจ้งเกิดจนดังเป็นพลุแตกแล้ว เธอก็ยังมีส่วนร่วมในผลงานที่เด่น ๆ อีกหลายเรื่องเช่น ‘The Worst Witch 4’ ในปี 2017

แต่ความโด่งดังเร็วตั้งแต่เด็กก็สร้างผลเสียให้เธอไม่น้อย ครั้งหนึ่งแรมซีย์เคยออกมาเผยทาง Instagram ส่วนว่า เธอกำลังเจอกับปัญหาสุขภาพทางจิต เนื่องจากเธอยังอยู่ในวัยเรียนและต้องทำงานไปด้วย จนส่งผลต่อการจัดตารางเวลาชีวิตที่มีปัญหาและทำให้กระทบกับการเรียน สุดท้ายแรมซีย์จำใจต้องถอนตัวจากบท มิลเดร็ก ฮับเบิล ใน ‘The Worst Witch 4’ เพราะปัญหาดังกล่าว

“ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันรู้สึกขอบคุณบท มิลเดร็ก ใน The Worst Witch 4 แต่มันมีเวลาสำหรับทุกอย่างบนโลกนี้และเมื่อปีที่แล้ว ฉันได้ตัดสินใจแล้วว่า ก่อนที่ ‘The Worst Witch 4’ จะเริ่มถ่ายทำ มันคงถึงเลาแล้วที่ฉันต้องบอกลามิลเดร็ก

“ขอบคุณแฟน ๆ ทุกคนเลยที่สนับสนุนฉัน ขอบคุณทีมงานสำหรับสามปีที่ผ่านมา ขอบคุณชาว Cackles Academy ทุกคน ขอบคุณนักเขียน จิลล์ เมอร์ฟี (Jill Murphy) ที่สร้างโลกที่มหัศจรรย์ใบนี้ขึ้นมา ฉันได้ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดที่จะบอกลาบทนี้ ด้วยเหตุผลที่ฉันไม่สามารถอธิบายได้ สำหรับทุกคนที่อ่านข้อความนี้แล้ว โปรดให้ความสำคัญกับสุขภาพทางจิตของคุณกันด้วยนะ และทำอะไรที่คุณคิดว่าใช่กับคุณ”

ย้อนกลับไปในวันที่ 10 ตุลาคม 2018 ซึ่งเป็นวันสุขภาพจิตโลก แรมซีย์ได้ออกมาแชร์ความเจ็บป่วยและวิธีที่เธอจัดการกับมันผ่านทางทวิตเตอร์ ว่า

“เนื่องจากมันเป็นวันสุขภาพจิตโลก ฉันเคยสงสัยว่าเมื่อไหร่ฉันจะมีช่วงเวลาที่ดีที่จะแบ่งปันเรื่องราวของฉัน และวันนี้ก็มาถึง เมื่อหลายปีก่อน ฉันได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคคลั่งผอม ถึงแม้ความเจ็บป่วยนี้จะเกาะกินฉันเป็นเวลาหนึ่งปี หรือมากกว่านั้น

“หนึ่งในภาระหน้าที่ใหญ่ ๆ ในการเข้ารับให้คำปรึกษาที่ฉันเจอคือ ฉันพยายามระบุให้ชัดเจนว่าอะไรคือปัญหาที่เกี่ยวพฤติกรรมการกินของฉัน แต่ในความเป็นจริง ฉันไม่เคยได้รับคำอธิบายที่ละเอียดเกี่ยวกับมันเลย และฉันคิดว่าคงมีอีกหลายคนที่กำลังต่อสู้กับปัญหาสุขภาพจิตอยู่เหมือนกัน

“มันไม่มีคำตอบเสมอไปหรอกนะ แต่ฉันบอกคุณได้อย่างหนึ่งว่ามันมีแสงสว่างที่ปลายทางออกอุโมงค์เสมอ แม้ว่ามันจะดูสลัวก็ตามที แต่ฉันโชคดีที่ไปถึงแสงสว่างนั้น ถึงจะมีบางครั้งฉันจะรู้สึกว่ามันไม่มีอยู่จริงก็เถอะ แต่ทางออกก็อยู่ที่ตรงนั่นเสมอมา

“สำหรับแสงสว่างของฉันนั้นคือพระเยซู ความศรัทธาของฉันมีส่วนอย่างมากในการฟื้นตัวของฉันและครอบครัวของฉัน ฉันไม่รู้เรื่องราวของคุณหรอกนะ แต่ฉันรู้สึกสำเร็จแล้วที่ได้ออกมาแชร์เรื่องราวของฉัน”

ปี 2018 เธอได้กลับมาเฉิดฉายบนจออีกครั้ง ครั้งนี้เธอกลับพร้อมกับบท ฟลอตแซม จาก ‘Holmes & Watson’ และบท มิแรนด้า จาก ‘Two for Joy’ ด้วยความพยายามของเธอที่สร้างผลงานบนจอไว้หลายเรื่อง ทำให้เธอได้รับรางวัล Best Young Actress จาก The BAFTA และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล BAFTA Children’s Award และ RTS North West Awards ด้วย ถือเป็นความสำเร็จก้าวหนึ่งในฐานะนักแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล

ปี 2023 แรมซีย์ได้กลับมาในบทเอลลี ใน ‘The Last of Us’ การกลับมาครั้งนี้ของเธอจะมาช่วยชีวิตมนุษยชาติให้รอดพ้นจากฝูงซอมบี้ได้หรือไม่? ไปเอาใจช่วยเธอให้มีชีวิตรอดไปถึงสถานที่สกัดวัคซีนได้แล้ววันนี้บน HBO GO

ที่มา Dreshare Wikipedia

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส