หนึ่งในเทรนด์เกี่ยวกับการศึกษาที่ฮิตกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็คือ การตั้งหัวข้อทางการศึกษาจากสื่อบันเทิงที่มีชื่อเสียง เพื่อนำเอาความรู้ที่ได้มาเปิดสอนแก่แฟนคลับหรือผู้ที่สนใจให้เข้ามาเรียนรู้ และนำเอาความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ ต่อไป ซึ่งหนึ่งในศิลปินที่สถานศึกษามักจะหยิบยกมาเป็นคอร์สสอนอยู่บ่อยครั้งก็คือ ศิลปินสาวที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของยุคนี้อย่าง เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) นั่นเอง

โดยล่าสุด มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้มีการเปิดสอนคอร์สใหม่ล่าสุดที่มีชื่อว่า ‘All Too Well’ (Ten Week Version) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร ITALIC 99 หรือหลักสูตรที่เน้นสอนหัวข้อต่าง ๆ หลากหลายเกี่ยวกับศิลปศาสตร์ที่คิดค้นหลักสูตรและลงมือสอนโดยศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยนั่นเอง

All Too Well” (10 Minute Version) Taylor Swift Stanford University

ในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยระบุว่า นักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในวิชานี้ จะได้รับการเรียนการสอนการวิเคราะห์เชิงลึกในเชิงวรรณกรรม โดยใช้เนื้อเพลง “All Too Well (10 Minute Version)” เพลงจากอัลบั้ม ‘Red (Taylor’s Version)’ ของสวิฟต์มาเป็นกรณีศึกษา และมี โนนา ฮันเกต (Nona Hungate) ศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยเป็นผู้ดำเนินการสอน และจะทำการเปิดการเรียนการสอนทุก ๆ วันพฤหัสบดีในภาคเรียน Winter Quarter ของปี 2023 เป็นระยะเวลา 10 สัปดาห์ ตามชื่อหลักสูตร

“All Too Well (10 Minute Version)” เป็นเพลงจากอัลบั้ม ‘Red (Taylor’s Version)’ (2022) ซึ่งเป็นอีกเพลงที่ได้รับการบันทึกเสียงใหม่จากอัลบั้ม ‘Red’ (2012) จากกรณีที่เธอเสียลิขสิทธิ์ตัวมาสเตอร์เพลง 6 อัลบั้มแรกที่เป็นของค่าย Big Machine แต่ตัวเธอเองยังถือลิขสิทธิ์ในบทเพลง (Composition Copyrights) ที่เธอแต่งเอง ก็เลยมีการนำเอาเพลงจาก 6 อัลบั้มแรกมาบันทึกเสียงใหม่ โดยเฉพาะเพลงนี้ที่ถูกทำใหม่ให้กลายเป็นเวอร์ชันความยาว 10 นาที

นอกจากนี้ ตัวเพลงยังถูกนำไปทำเป็นมิวสิกวิดีโอในรูปแบบหนังสั้น ‘All Too Well: The Short Film’ นำแสดงโดย ดีแลน โอไบรอัน (Dylan O’Brian) และ ซาดี ซิงก์ (Sadie Sink) ซึ่งสวิฟต์เป็นคนลงมือทั้งเขียนบท และกำกับด้วยตัวของเธอเอง

ซึ่งตอนปล่อย MV นี้ออกมา ก็สร้างความฮือฮาจากการที่ตัว MV แอบซ่อนรายละเอียด เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สวิฟตี้ (Swiftey) หลายคนต่างก็วิเคราะห์ว่า Easter Egg หลายอย่างที่อยู่ในหนังสั้น อาจจะเป็นการสื่อถึงเรื่องราวความรักของเธอ กับอดีตคนรักเก่าอย่างดาราหนุ่ม เจค จิลเลนฮาล (Jake Gyllenhaal) นั่นเอง และนอกจากนี้ ตัว MV นี้เพิ่งจะคว้ารางวัลสาขามิวสิกวิดีโอยอดเยี่ยม (Best Music Video) จากเวทีแกรมมี่อวอร์ด (Grammy Awards) ในปีนี้มาครองได้อีกด้วย

แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพลงของสวิฟต์ถูกนำไปเป็นหัวข้อทางการศึกษา เพราะเพลงของเธอถูกนำไปใช้ในการศึกษาหลายต่อหลายครั้ง โดยในปี 2022 มีทั้งสถาบัน Clive Davis Institute of Recorded Music ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (New York University) ได้เปิดสอนหลักสูตร เทย์เลอร์ สวิฟต์ ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับชีวิตของสวิฟต์ตั้งแต่วัยเด็ก เติบโตมาเป็นผู้ประกอบการด้านดนตรี มุมมองของแฟนเพลง แรงบันดาลใจในการแต่งเพลง รวมทั้งมุมมองด้านการเมืองที่แฝงอยู่ในเนื้อเพลงของเธอ

และมหาวิทยาลัยเท็กซัสออสติน (University of Texas at Austin) ที่เคยเปิดหลักสูตร ‘Taylor Swift’s Songbook’ ซึ่งเป็นหลักสูตรปริญญาตรี ที่มุ่งเน้นศึกษาด้านวรรณกรรมของเนื้อเพลงเพื่อตีความและถกเถียงในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับตัวเพลง ทั้งเรื่องสัจธรรม เพศ รวมทั้งบทบาทของแฟนเพลงที่ส่งผลต่อการทำงานและแนวคิดของผู้แต่งเพลง และแนวทางการประพันธ์หนังสือและบทเพลงของผู้เขียน ควบคู่ไปกับวรรณกรรมอื่น ๆ

รวมทั้ง ‘Taylor Swift’s Literary Legacy’ หลักสูตรด้านวัฒนธรรมศึกษา เกี่ยวกับมรดกทางวรรณกรรมของนักร้องและนักแต่งเพลงในมุมมองของวรรณกรรมจากผลงานเพลงของสวิฟต์ ซึ่งเปิดสอนที่มหาวิทยาลัยควีนส์ (Queen’s University) ประเทศแคนาดา


ที่มา: Rolling Stone, Billboard

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส