วีรกรรมรอบ 3 ของศาสตราจารย์โรเบิร์ต แลงดอน ที่เว้นระยะห่างจากภาค 2 ไปถึง 7 ปี ซึ่งต้นฉบับนิยายเป็นเล่มที่ 4 เดิมที โซนี่ เตรียมงานสร้าง “The Lost Symbol” ซึ่งเป็นนิยายเล่ม 3 จริง ๆ ไปแล้ว แต่ติดปัญหาหลายอย่าง รอน โฮเวิร์ด ไม่กลับมากำกับ ทอม แฮงค์ ก็ไม่กลับมารับบทโรเบิร์ต แลงดอน ระหว่างที่เตรียมการอยู่นั้น แดน บราวน์ ก็ออก “Inferno” ภาคต่อเล่มที่ 4 ออกมา โซนี่ เปลี่ยนใจหันมาหยิบ “Inferno” มาสร้างเป็นภาคต่อเสียก่อน แล้วพัก “The Lost Symbol” ไว้โปรเจ็คท์เดินหน้าได้เต็มตัว ทั้ง รอน โฮเวิร์ด และ ทอม แฮงค์ กลับมากันพร้อมหน้า หนังสร้างเสร็จตั้งแต่ปีที่แล้ว วางกำหนฉายเดิมไว้ ธันวาคม 2015 แต่เลือกที่เลี่ยงไม่ให้หนังชนกับ Star Wars : The Force Awakens เลยเลื่อนยาวมาลง ตุลาคม 2016 แทน

inferno-2016

หนังเปิดตัวได้ผิดคาดมาก ไม่ประสบความสำเร็จในสหรัฐทั้งทางด้านรายได้และเสียงวิจารณ์ หนังใช้ทุนสร้างไป 75 ล้านเหรียญ แต่ทำเงินในประเทศได้เพียง 26 ล้าน นักวิจารณ์เบ้หน้า แต่ตลาดนอกอเมริกากลับไปได้สวย สัปดาห์แรกกวาดเงินไปทะลุ 50 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังที่ทำตัวเลขเปิดตัวในตลาดต่างประเทศเดือนตุลาคมสูงสุดเป็นอันดับ2 ของโซนี่ เหตุที่ไม่ถูกใจคนดูอเมริกันส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะ รอบนี้เปลี่ยนคนเขียนบทจาก อกิวา โกลด์แมน ขาประจำจาก 2 ภาคแรกมาเป็น เดวิด โคเอ็ปป์ ขาเก๋าอีกคนในวงการ (Jurassic Park ,Spiderman ,Mission Impossible) ที่ร่วมเขียน Angels and Demon อยู่ด้วย มาภาคนี้ก็เหมาหน้าที่เขียนบทคนเดียว เดวิด ดัดแปลงโทนเรื่องจากนิยายไปพอสมควร เขาลดทอนรายละเอียดขั้นตอนในการถอดรหัสที่เป็นความสามารถพิเศษของโรเบิร์ต แลงดอน ลง และไปเน้นหนักกับการพัฒนาการของตัวละครแทน ทำให้ Inferno เป็นวีรกรรมของ แลงดอน ที่เอาใจตลาดมากขึ้น เพิ่มฉากแอ็คชั่นแต่ลดความซับซ้อนของเนื้อหาลง

tom-hanks-inferno-2016

Inferno เป็นภาคที่สั้นที่สุดในไตรภาคของแลงดอน หนังยาวแค่ 2 ชั่วโมง แต่ก็เป็น 2 ชั่วโมงที่เดินหน้าไปอย่างรวดเร็วและกระชับ อัดแน่นด้วยรายละเอียดเต็มไปหมด ขนาดที่ว่าถ้าสมาธิหลุดจากหนังไปเพียงเสี้ยวนาที ก็ทำให้พลาดรายละเอียดสำคัญของเนื้อหาไปได้ หนังเปิดเรื่องด้วยปริศนาน่าสนใจ แลงดอน ฟื้นขึ้นมาในโรงพยาบาลในฟลอเรนซ์ เขาจำอะไรในช่วงระยะเวลา 48 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ไม่ได้ ไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ไง พบเพียงแพทย์หญิง บรู๊ค ที่มาดูแลเขา หลังได้สติไม่นาน บรู๊ค ก็ต้องพาแลงดอนหนีเอาชีวิตรอดจากการตามล่าของนักฆ่าสาวในคราบตำรวจ แลงดอนพบว่าเขาเป็นผู้ครอบครองแผนภาพลับที่จะเป็นกุญแจนำไปสู่การยับยั้งหายนะระดับโลก จากแผนการปลดปล่อยไวรัสของมหาเศรษฐีสติแตก ที่เชื่อว่าการขยายจำนวนของมนุษย์จะพาไปสู่จุดจบของโลกมนุษย์ เป็นหน้าที่ของเขาที่จะต้องกอบกู้โลกไว้ด้วยการปล่อยไวรัสล้างโลกเพื่อลดประชากรมนุษย์ลงเสียครึ่งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้มีเพียงแลงดอนเท่านั้นที่จะไขปริศนาให้ทันเวลาเพื่อหยุดแผนการร้ายได้ทันการ

Robert Langdon (Tom Hanks) and Sienna (Felicity Jones) run for their lives through Boboli Gardens in Columbia Pictures' INFERNO.

ครึ่งแรกของหนังเปิดด้วยปริศนาที่ถาโถมเข้าใส่คนดูเต็มไปหมด เกิดอะไรขึ้นกับแลงดอน ใครทำร้ายเขาด้วยจุดประสงค์อะไร แล้วทำไมถึงมีนักฆ่าตามล่าเอาชีวิตเขา ปริศนาในแผนภาพที่เขาครอบครองจะพาเขาไปไหน เป็นภาคที่มีตัวละครอัดแน่นมาก นอกจากนักฆ่าแล้วก็ยังมีองค์การอนามัยโลกที่ส่งมือปราบมาตามล่าเขาเช่นกัน แถมยังมีองค์กรลึกลับระดับโลกที่ก็ต้องการตัวแลงดอนด้วย ดูไปก็คาดเดาไปใครจะเป็นฝ่ายดี ใครจะเป็นฝ่ายร้าย ความสนุกอยู่ตรงที่แลงดอนต้องหนีเอาชีวิตรอดไปพร้อมกับไขปริศนาจากงานศิลปะไปด้วย ซึ่งภาคนี้เล่นกับงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์พาลาซโซ แลงดอนพาเราไปตามช่องลับเข้าทางนั้นออกทางนี้ไปทั่ว หนังเดินหน้าไปความทรงจำของแลงดอนก็ค่อย ๆ กลับมาให้ปะติดปะต่อเรื่องราวได้ แล้วก็พาไปสู่จุดหักมุมแรง ๆ ในช่วงกลางเรื่อง พอเข้าครึ่งหลังเมื่อความทรงจำของแลงดอนทยอยกลับมาแล้ว แต่ละคนแต่ละองค์กรก็เผยเจตนาตัวตน ในขณะที่เวลาที่จะต้องกู้ไวรัสให้ทันการณ์ก็กระชั้นชิดมากขึ้น ภาคนี้เราจึงได้เห็นแลงดอนวิ่งเกือบทั้งเรื่อง เอกลักษณ์ของนิยายแลงดอนในเรื่องของการถอดรหัสจากงานศิลปะยังคงไว้ ได้เห็นการถอดจากจุด1 พาไปจุด2 จุด3 เช่นเคย เพียงแต่ไม่ใช้เวลาในการตีความนานเหมือนภาคก่อน ๆ ได้เห็นแลงดอนพะบู๊มากขึ้น เป็นครั้งแรกที่ศาสตราจารย์ได้ออกหมัดมวยต่อสู้กับเขาบ้าง เฟลิซิตี้ โจนส์ มารับหน้าที่นำหญิงของภาคนี้ นับเป็นตัวละครที่มีบทบาทกับเนื้อหามาก ไม่ใช่แค่โผล่มาวิ่งตามแลงดอน มีเวลาบนจอใกล้เคียงกับแลงดอน เฟลิซิตี้ จัดได้ว่าเป็นดาราที่สวยขึ้นกล้องคนหนึ่ง เดือนหน้านี้ก็ถึงคราวชี้ชะตาเธอแล้วว่า บทนำเดี่ยวของเธอใน The Rogue One จะส่งให้เธอเป็นดาราแถวหน้าฮอลลีวู้ดคนใหม่หรือไม่

Langdon (Tom Hanks) and Sienna (Felicity Jones) make their way through St. Marks Square in Venice in Columbia Pictures' INFERNO.

Inferno นับเป็นภาคที่หวังผลทางการตลาดมากขึ้น หลังจาก Angels And Demons (2009) ทำรายได้น้อยกว่า Davinci Code (2006)เกือบครึ่ง เนื้อหาของภาคนี้ก็เลยถูกดัดแปลงไปจากนิยายต้นฉบับพอสมควร เลยทำให้ขัดใจแฟน ๆ ประจำที่รักนิยายของแดน บราวน์ แต่ถ้าคนที่ไม่ได้อ่านนิยายมาก่อน หรือไม่เคยดู 2 ภาคแรกมาก่อน ก็ไม่น่าจะรู้สึกอะไร เพราะแทบไม่พูดถึงเนื้อหาในภาคก่อน และก็สนุกไปกับหนังได้โดยไม่ต้องทำการบ้านหรือมีความรู้พื้นฐานทางศิลปะตะวันตก ถ้าใครชอบหนังที่เปิดเรื่องด้วยปริศนาแบบนี้ ไม่ควรพลาดครับ

แถมเกร็ดจากหนังเล็กน้อย

#ฉากในภวังค์ของแลงดอน ที่มองเห็นคลื่นเลือดพุ่งทะลุตึกออกมานั้น ไม่ได้ใช้ CG ในการถ่ายทำ แต่เป็นน้ำจริงแต่งสีจำนวน 9,000 ลิตร

#แดน บราวน์ กำลังจะออก “Origin” การผจญภัยครั้งที่ 5 ของโรเบิร์ต แลงดอน ในปีหน้า ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเราจะได้ดู “The Lost Symbol” หรือ “Origin” กันก่อนแน่

Play video