ผ่านพ้นกันมาไม่นานนะคะ สำหรับงานพิธีเสกสมรสระหว่าง เจ้าชาย แฮรี่ กับ นาง เมแกน มาร์เคิล นักแสดงสาวอเมริกันที่โด่งดังจากซีรีส์เรื่อง SUITS (2011) ซึ่งเชื่อว่าหลายคนคงยังอินไม่หาย และอยากหาหนังหรือซีรีส์เกี่ยวกับราชวงศ์ อังกฤษมาดูเพื่อสานต่อความอินกันอยู่แน่ๆ WHAT THE FACT เลยขออาสานำหนังที่จะทำให้คุณรู้จักกับราชวงศ์อังกฤษในตระกูลวินเซอร์มากขึ้น
W./E. หยุดโลกไว้ที่รักเธอ (2011)
ผลงานกำกับหนังของเจ้าแม่เพลงพ็อพอย่าง มาดอนนา ที่บอกเรื่องราวความรักสองช่วงเวลาระหว่าง พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 (เจมส์ ดิอาร์ซีย์) กับ นางวาลลิส ซิมป์สัน (เอนเดรีย ไรซ์โบโรห์)สตรีสามัญชนจนนำไปสู่การตัดสินใจสละราชสมบัติ ซึ่งจดหมายรักที่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 เขียนได้นำ วัลลี (แอบบี คอร์นิช) หญิงสาวที่เพิ่งช้ำรักจากสามีไฮโซ ให้ได้พบกับพนักงานรักษาความปลอดภัยรูปหล่อ (ออสการ์ ไอแซ็ค)
แน่นอนล่ะ ว่าตัวหนังได้รับคำวิจารณ์กลางๆแต่แอบได้เข้าชิงลูกโลกทองคำสาขา ดนตรีและเพลงประกอบยอดเยี่ยม แต่จุดที่น่าสนใจคือการนำความรักครั้งประวัติศาสตร์ที่สร้างความอื้อฉาวให้ราชวงศ์อังกฤษมากที่สุดครั้งหนึ่งมานำเสนอให้ดูชวนฝัน ละมุนละไม ต่างจากหนังหรือซีรีส์เรื่องอื่นที่แทบให้ภาพพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 เป็นตัวร้ายคอยสร้างปัญหาให้ราชวงศ์อังกฤษอยู่เนืองๆ
The King Speech ประกาศก้องจอมราชา(2010)
หนังรางวัลออสการ์ที่กล่าวถึงการก้าวข้ามอุปสรรคทางการพูดของพระเจ้าจอร์จที่ 6 (โคลิน เฟิร์ธ) ซึ่งจำใจขึ้นครองราชย์หลังพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 สละราชสมบัติไปแต่งงานกับสามัญชน ทว่าอุปสรรคใหญ่หลวงของพระองค์กลับกลายเป็นอาการติดอ่าง จนต้องพึ่งพา ไลโอเนล โลก (เจฟฟรีย์ รัช) นักบำบัดการพูดชาวออสเตรเลียให้พระองค์พูดได้คล่องแคล่วทันการถ่ายทอดพระสุรเสียง เพื่อพิสูจน์ว่าพระองค์ คู่ควรกับบัลลังก์
สิ่งที่ The King Speech โดดเด่นมากคือการถ่ายทอดความไม่สมบูรณ์แบบของอดีตกษัตริย์ที่มีตัวตนจริงๆ และถ้าจะให้กล่าวชัดๆก็คือ นี่เป็นเรื่องราวของพระเจ้าจอร์จที่ 6 หรือ อดีตพระราชบิดาของ สมเด็จพระนางเจ้าเอลิซาเบธที่ 2 องค์ปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งการกำกับที่แม่นยำของ ทอม ฮูเปอร์ ยังทำให้เรื่องราวของผู้สูงศักดิ์ดูจับต้องได้และสร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากก้าวข้ามอุปสรรคทั้งปวง
The Crown (2016 -)
ซีรีส์สุดยิ่งใหญ่ของ Netflix ที่บอกเล่าเรื่องราวของ สมเด็จพระนางเจ้าเอลิซาเบธที่ 2 ตั้งแต่เริ่มครองราชย์ที่อำนาจและความรับผิดชอบก็ทำให้พระองค์ต้องเผชิญหน้าความขัดแย้งทั้งคนในครอบครัวและผู้มีอำนาจในประเทศ ที่ขัดเกลาให้พระองค์เปลี่ยนจากเด็กสาวไร้เดียงสาสู่พระราชินีที่ครองบัลลังก์อย่างยั่งยืน
ขุมพลังสำคัญของซีรีส์ชุด The Crown คงหนีไม่พ้น ปีเตอร์ มอร์แกน มือเขียนบทชั้นครูที่เคยเล่าเรื่องราวของสมเด็จพระราชินีนารถเอลิซาเบธที่ 2 มาแล้วใน The Queen (2006) โดยขณะนี้ซีรีส์มี 2 ซีซันซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของพระองค์ในยุคเริ่มแรกในช่วงปี 1947 – 1963 โดยซีรีส์ได้ แคลร์ ฟอย มารับบทราชินีแห่งอังกฤษได้อย่างยอดเยี่ยมจนได้เข้าชิงรางวัลมากมาย แต่จากข่าวล่าสุดที่ยืนยันแล้วคือจะมีการเปลี่ยนตัวนักแสดงเป็น โอลิเวีย โคลแมน ดาราสาวใหญ่ที่เพิ่งร่วมงานกับ ยอร์กอส ลันธิมอส ผู้กำกับสุดเฮี้ยน ใน The Favourite ที่จะฉายในปีนี้พร้อมข่าวลือมากมายที่ยังไม่ยืนยันโดยเฉพาะกรณี เฮเลนา บอนแฮม คาร์เตอร์ ที่อาจมารับบท เจ้าหญิงมาร์กาเร็ต หัวก้าวหน้าแทน วาเนสซา เคอร์บี ที่กลายเป็นขวัญใจของหนุ่มๆจากทั้ง 2 ซีซัน
The Queen เดอะควีน ราชินีหัวใจโลกจารึก(2006)
หนังที่ส่ง เฮเลน เมอร์เรน ได้ครองรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในบท สมเด็จพระราชินีนารถเอลิซาเบธที่ 2 ที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญหลังการจากไปของ เจ้าหญิงไดอาน่า ที่กระแสสังคมเรียกร้องให้พระองค์จัดงานศพและไว้อาลัยให้สมพระเกียรติแก่อดีตสะใภ้หลวงของพระองค์แม้จะขัดกับโบราณราชประเพณีก็ตาม
คงแทบไม่ต้องกล่าวอะไรอีกแล้วสำหรับหนังอัตชีวประวัติของพระราชินีอังกฤษที่สมบูรณ์พร้อมทั้งการแสดงของ เฮเลน เมอร์เรน การกำกับสุดแม่นยำของ สตีเฟน เฟรียส์ รวมถึงบทภาพยนตร์สุดลุ่มลึกและสนุกอย่างไม่น่าเชื่อของ ปีเตอร์ มอร์แกน ที่บอกเล่าเรื่องราวเสี้ยวหนึ่งของประวัติศาสตร์มาอธิบายตัวตนของพระราชินีอังกฤษองค์ปัจจุบันได้อย่างลุ่มลึก แถมยังสอนให้คนดูรู้จักการยอมรับความเปลี่ยนแปลงผ่านสัญญะเรื่องชะตากรรมของกวางที่ยั่วเย้าให้เราตีความและเปรียบเทียบชะตาชีวิตของสตรีสูงศักดิ์กับกวางสุดสง่าได้อย่างลึกซึ้ง
แถมท้ายด้วยเพลง Stand By Me จากงานพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮรี่ กับ เมแกน มาร์เคิล ที่หลายคนประทับใจ