[รีวิว] Murder Mystery: ร่วมหาคนร้ายไปกับ วันว่าง ๆ สบาย ๆ
Our score
7.7

Murder Mystery

จุดเด่น

  1. ช่วงตั้งแต่มีเหตุฆาตกรรม หาตัวคนร้ายสนุก
  2. นักแสดงดี เล่นกันได้กำลังพอดี
  3. มุกกำลังพอดี ไม่เว่อไป
  4. ดูเพลิน ๆ ยามว่างได้ดี
  5. ล้อพวกนิยายหนังนักสืบได้สนุก

จุดสังเกต

  1. ช่วงปูเรื่องไม่น่าติดตามเท่าไร
  2. โปรดักชั่นดูธรรมดา แม้จะมีโลเกชั่นสวย ๆ เยอะ
  • ตรรกะ ความสมบูรณ์ของบท

    7.0

  • คุณภาพนักแสดง

    8.0

  • คุณภาพงานสร้าง

    7.0

  • ความสนุก

    8.0

  • คุ้มเวลา ค่าตั๋ว

    8.5

เรื่องย่อ

นิค (อดัม แซนด์เลอร์) ตำรวจนิวยอร์ก พาภรรยาช่างทำผม ออเดรย์ (เจนนิเฟอร์ อนิสตัน) ไปเที่ยวยุโรปอย่างที่สัญญาไว้มานาน และจับพลัดจับผลูได้รับเชิญจากหนุ่มไฮโซ คาเวนดิช (ลุค อีแวนส์) ให้ไปร่วมงานรวมญาติบนเรือยอชต์ของมหาเศรษฐีสูงวัยอย่าง มัลคอล์ม ควินซ์ แต่เพียงคืนแรกควินซ์ก็ถูกฆ่าต่อหน้าแขกที่เขาเชิญมาอย่างเป็นปริศนา และทำให้ทั้งนิคและออเดรย์ต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญ นิคจะใช้ทักษะนักสืบ ร่วมกับความรู้จากติ่งนิยายสืบสวนของออเดรย์ เพื่อหาคนร้ายตัวจริงได้อย่างไรต้องติดตาม

Play video

หนังเน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับชื่อไม่ค่อยดังอย่าง ไคล์ เนวาเช็ค ที่เคยมีผลงานซีรีส์สร้างชื่ออยู่บ้างอย่าง Community ทางช่อง NBC ที่ทำให้เขาได้รางวัลสายการกำกับซีรีส์ตลกจากสมาคมหนังและซีรีส์ออนไลน์ หรือ OFTA Awards 2012 และยังได้มือเขียนบทอย่าง เจมส์ แวนเดอร์บิลต์ จากหนัง The Amazing Spider-Man (2012) และ White House Down (2013) ที่น่าจะเป็นตัวตั้งตัวตีสำคัญร่วมกับ อดัม แซนด์เลอร์ ในการสร้างหนังเรื่องนี้ โดยยังได้ดึงดาราชั้นนำมาร่วมได้อีกหลายคนทั้ง เจนนิเฟอร์ อนิสตัน ที่จำไม่ได้แล้วว่าหนังดังเรื่องสุดท้ายคือเรื่องอะไร แต่หน้าเธอก็ยังคงขายได้อยู่เรื่อย ๆ ยิ่งมาทางหนังตลกที่เธอสร้างชื่อขึ้นมาด้วยแล้ว และ ลุค อีแวนส์ ที่ให้เห็นหน้าเห็นตาในหนังดังอยู่เรื่อย ๆ และปลายปีนี้เตรียมเจอเขาในหนังสงครามโลกของ โรแลนด์ เอ็มเมอริช ใน Midway ด้วย

จริง ๆ ต้องบอกว่าหนังยังได้ผู้กำกับภาพจากหนัง Man of Steel (2013) อย่าง อาเมียร์ โมครี และมือตัดต่อจาก The Matrix อย่าง ทอม คอสเทน มาร่วมด้วย และถ้าไล่มาตั้งแต่เริ่มโปรเจ็กต์ตอนแรกหนังจะได้ เอมิลี่ บลันท์ โคลิน เฟิร์ธ และชาร์ลีซ เธอรอน มาแสดงนำร่วมกับแซนด์เลอร์ และยังจะได้ผู้กำกับอย่าง จอห์น แมดเดน จาก Shakespeare in Love (1998) มากำกับด้วย ก็พอมองออกว่าจริง ๆ แล้วคงวางไว้เป็นหนังที่เอาจริงเอาจังกว่าตอนนี้แน่ ๆ แต่พอเปลี่ยนทีมงาน ก็เหมือนหน้าหนังที่ออกมาแบบเบาสมองดูสบาย ควรเรียกว่าเป็นงานทำเอามัน ทำพักมือกันมากกว่า แต่ก็กลายเป็นว่าอาจเป็นข้อดีด้วย เพราะมันดูง่ายและดูสนุกอยู่เหมือนกันนะ

หนังเล่าเรื่องช่วงแรกได้เดิม ๆ จนเกือบเผลอปิดไปแล้วเหมือนกัน เพราะเสียเวลาปูเรื่องราวความสัมพันธ์ของ นิค และออเดรย์ อยู่พอสมควรว่าทั้งคู่แต่งงานกันมาสิบกว่าปี แต่นิคก็ยังคงสอบเป็นนักสืบไม่ได้ ทั้งคู่มีปัญหาการเงินมาก และออเดรย์ก็ยังรอสัญญาที่นิคเคยให้ตั้งแต่วันแต่งงานว่าจะพาไปฮันนีมูนที่ยุโรปอยู่เสมอ แต่นิคก็ได้แต่ร้องเพลงเราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นานอยู่ร่ำไป จนวันครบรอบครั้งนี้ที่นิคจับสัญญาณได้ว่าความสัมพันธ์ของเขาทั้งคุ่กำลังเสี่ยงอันตราย เขาจึงแถและซื้อทัวร์ยุโรปราคาถูกแก้ลำไปก่อน เอาจริงแม้กระทั่งถึงตอนการปรากฏตัวของ คาเวนดิช ไฮโซสุดปริศนาบนเครื่องบินชั้นเฟิร์สต์คลาสที่มาตีสนิทและชักชวนออเดรย์ไปร่วมงานฉลองสมรสของลุงมหาเศรษฐีของเขา กับ ซูซี่ (คัตซึนะ ชิโอลิ) อดีตสาวคนรู้ใจชาวญี่ปุ่นของคาเวนดิช มันก็ยังไม่ถือว่าน่าติดตามนัก เป็นประมาณว่าดูแก้เบื่อได้เรื่อย ๆ อยากหยุดตอนไหนก็ไม่เสียดายอะไร มุกตลกก็มาแบบคำพูดปากหมาของนิคเสียส่วนใหญ่

แต่ทันทีที่หนังกระโจนเข้าสู่ปริศนาฆาตกรรม เมื่อควินซ์ถูกฆ่าด้วยกริชโบราณระหว่างไฟดับบนเรือสำราญส่วนตัวของเขา ต่อหน้าแขกพิเศษเพียงไม่กี่คน หนังก็ดูน่าสนุกขึ้นทันที ยิ่งแต่ละคนต่างมีแรงจูงใจที่น่าสนใจทั้งสิ้น คือดูมุกมันธรรมดาล่ะเหมือนเอานิยายและหนังปริศนาสืบสวนดัง ๆ มาดัดวิธีเล่า แต่เพราะมันมีสูตรสำเร็จที่ทำงานได้ผลอยู่แล้ว เราจึงสนใจและติดตามว่าหนังจะใช้ความตลก บวกกับสถานการณ์ประหลาด ๆ เล่าเรื่องและเฉลยได้อย่างไร เพราะข้อสำคัญของหนังตลกคือมันจะพลิกจะหักไปเป็นอะไรก็ได้ มันไม่เรียกร้องความสมเหตุสมผลมากมายอยู่แล้ว จึงกลายเป็นว่าดูไปก็เดาไรไม่ถูก พอคิดว่าตัวนี้เป็นคนร้ายแน่ ๆ อ่าว ถูกฆ่าตายตามไปเฉย เอาจริงก็สนุกไปกับมันรอมันเฉลยไปนั่นล่ะ 555

ซึ่งที่ว่ามากลายเป็นว่าหยุดดูไม่ได้และก็สนุกพอสมควรทีเดียว มีหลายมุกที่ทำงานดีมาก มุกเกี่ยวกับพวกนิยายนักสืบก็ใช่ได้เลย การเฉลยก็ทำได้โอเคไม่ถือว่าเฟลอะไร ระหว่างทางก็สร้างปมปริศนา และเพิ่มความอยากรู้อยากเห็นให้มากขึ้น ๆ เป็นอีกเรื่องที่ดูธรรมดาแต่ดูสนุก และเหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดครับ อ่อตอนจบเหมือนเขาจะบอกว่าอยากทำภาคต่ออยู่เหมือนกันนะ 555

ชมได้ที่นี่เลย https://www.netflix.com/watch/80242619