จากเด็กหนุ่มผู้หลงใหลในภาพยนตร์ จึงเลือกงานที่ทำให้เขาได้ดูหนัง ทั้งทำงานในโรงหนังและร้านวิดีโอ เควนตินดูหนังเยอะมากทำให้มีความรู้เรื่องหนังอย่างมาก ไม่เพียงแค่มีความสุขกับการได้แนะนำหนังดี ๆ ให้กับลูกค้าแล้ว เขายังใช้เวลาว่างในการเขียนบทภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง ในที่สุดเขาก็ได้สร้างชื่อในวงการด้วย Reservoir Dogs (1992) ที่เขาโชว์ความสามารถทั้งร่วมแสดง , เขียนบท และ กำกับ จากการสนับสนุนของ ฮาร์วีย์ ไคเทล นักแสดงชื่อดังในยุคนั้นที่ได้อ่านบทแล้วชอบมาก ฮาร์วีย์ จึงช่วยหาทุนให้กับหนังและร่วมแสดงด้วย Reservoir Dogs ประกาศศักดาด้วยเสียงชื่นชมจากเทศกาลหนังซันแดนซ์ ส่งให้หนังทุนต่ำเรื่องนี้กลายเป็นที่รู้จัก ทุกคนพูดถึงหนังในด้านความโหด รุนแรง และกล้าบ้าบิ่น ชื่อของเควนติน แทแรนติโน กลายเป็นที่รู้จักขึ้นมาทันทีนับแต่นั้น

Reservoir Dogs (1992)

Reservoir Dogs (1992)

2 ปีต่อมา เขาตอกย้ำความสำเร็จด้วย Pulp Fiction (1994) หนังสร้างปรากฏการณ์มากมาย หนังใช้ทุนสร้างเพียงแค่ 8 ล้านเหรียญ แต่มีดาราแถวหน้าในวงการมาร่วมงานเพียบ บรู๊ซ วิลลิส , ซามูเอล แอล.แจ๊คสัน , อูมา เธอร์แมน , ทิม รอธ เควนติน หนังยังเป็นที่จดจำในฐานะหนังที่คืนชีพ จอห์น ทราโวลต้า ให้กลับมาเป็นนักแสดงงานชุกได้อีกครั้ง บทคู่หู จูลส์ และ วินเซนส์ กลายเป็นคาแรกเตอร์อมตะของฮอลลีวู้ด หนังได้เข้าชิงออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม ทั้งที่เพิ่งกำกับหนังเพียงแค่เรื่องที่ 2 ตัวหนังได้เข้าชิงรางวัลใหญ่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่สุดท้ายเขาก็คว้าออสการ์ “บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม” มาครอง ด้านรายได้ หนังทำกำไรมหาศาลด้วยตัวเลขกว่า 200 ล้านทั่วโลก นับว่าเป็นผู้กำกับ และนักเขียนบทน้อยคน ที่ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในวงการด้วยระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น

Pulp Fiction (1994)

Pulp Fiction (1994)

นับตั้งแต่นั้น ชื่อเสียงของเควนติน ก็กลายเป็นที่จับตา มีแฟน ๆ ติดตามผลงานของเขาทั่วโลก จากเด็กหนุ่มหน้าใหม่ในวงการ กลายเป็นผู้กำกับที่มีอิทธิพลในฮอลลีวู้ด ได้รับการยอมรับนับถือในฐานะผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนตร์ฝีมือเยี่ยม ที่มีเอกลัษณ์เฉพาะตัว ด้วยภาษาเขียนที่รุนแรงแต่คมคาย บทสนทนาจากปากตัวละครของเขากลายเป็นคำคม และวลีฮิตมากมาย ด้วยเหตุนี้เขาจึงเขียนบทภาพยนตร์ให้กับผู้กำกับรุ่นพี่อีกหลายคนอย่าง โทนี สก็อตต์ และ โอลิเวอร์ สโตน

แบรด พิตต์ , ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ และ เควนติน แทแรนติโน

แบรด พิตต์ , ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ และ เควนติน แทแรนติโน

กว่า 20 ปีในวงการเขาส่งให้นักแสดงหลายคนได้แจ้งเกิดในวงการ ผลงานของเขากลายเป็นตัวอย่างการศึกษาการสร้างภาพยนตร์และมีอิทธิพลต่อผู้กำกับรุ่นน้องอีกมากมาย เควนติน ไม่ได้มองเห็นชื่อเสียงของเขาเป็นโอกาสทองในการกอบโกยรายได้ เขายังคงทำงานแบบค่อยเป็นค่อยไป และประกาศชัดเจนว่าเขาตลอดชีวิตของเขาจะกำกับหนังเพียงแค่ 10 เรื่องเท่านั้น และในวันนี้ผลงานของเขาก็ดำเนินมาถึงเรื่องที่ 9 แล้ว กับ Once Upon a Time in Hollywood เพียงแค่ระบุว่าเป็นผลงานของ เควนติน แทแรนติโน หนังก็ได้รับการต้อนรับจากแฟน ๆ ทั่วทุกมุมโลก ถึงวันนี้หนังทำรายได้มหาศาลไปกว่า 300 ล้านเหรียญ แฟน ๆ ทึ่ติดตามผลงานของเขาทั่วโลกต่างก็รู้สึกเสียดายที่จะได้มีโอกาสดูผลงานของเขาอีกเพียงแค่เรื่องเดียวเท่านั้น ถึงตรงนี้ผู้เขียนจึงถือโอกาสหยิบเรื่องราวแง่มุมที่น่าสนใจของ เควนติน แทแรนติโน มาเล่าสู่กันฟัง เชื่อว่าบางเรื่อง ก็น่าจะไม่เคยรู้กันมาก่อน

 

1.พ่อของเขาก็เป็นผู้กำกับ

โทนี แทแรนติโน

โทนี แทแรนติโน

จะเรียกว่าเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นก็ไม่ผิด กับการที่เติบโตมาเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ เพราะพ่อเขาก็เป็นผู้กำกับเช่นกัน โทนี่ แทแรนติโน เป็นบุคคลผู้มีความสามารถหลากหลายซึ่งน่าจะถ่ายทอดมาถึงลูกชายด้วยล่ะ พ่อของเควนตินนอกจากเป็นผู้กำกับแล้ว ยังเป็นนักดนตรี นักเขียน ผู้อำนวยการสร้าง และนักแสดงอีกด้วย จริงจังถึงขนาดเปิดบริษัทตัวเองในนาม “Tarantino Productions” ก่อตั้งในปี 1958 เป็นบริษัทที่โทนี เปิดร่วมกับ โดมินิก อดีตทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็คือคุณปู่ของเควนตินนั่นแหละ ทุกวันนี้ แทแรนติโน โพรดักชัน ยังเปิดบริการอยู่เลยนะ http://www.tarantinoproductions.com/

 

2.เขาทำงานในร้านเช่าวิดีโอถึง 5 ปี

เควนติน แทแรนติโดน ในวันที่กลับมาเยี่ยมร้าน Video Archives

เควนติน แทแรนติโดน ในวันที่กลับมาเยี่ยมร้าน Video Archives

ในช่วงปี 80s เควนติน ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น เขาทำงานหลายอย่างมาก แต่สุดท้ายก็มาจบกับงานที่เขาชอบคือ พนักงานร้านเช่าวิดีโอชื่อ Video Archives ในลอส แองเจลิส เขาทำงานอยู่ที่ร้านนี้ถึง 5 ปี จนถึงวัย 26 ปีที่เขารู้สึกว่าเขาทำงานนี้นานเกินไปแล้ว “ถ้าอายุ 22 มันก็เป็นช่วงวัยที่เหมาะนะที่จะทำงานอยู่กับร้านเช่าวิดีโอเนี่ย แต่พอ 5 ปีผ่านไป ผมเริ่มรู้สึกเหมือนเป็นไอ้ขี้แพ้แล้ว 22 น่ะยังโอเคอยู่ แต่ 26 นี่ไม่ใช่ล่ะ มันต้องทำอะไรอย่างอื่นแล้ว” พอออกจากงานร้านเช่าวิดีโอ เควนติน ก็ไปทำงานเป็นผู้ช่วยกองถ่าย ผลิตวิดีโอสอนออกกำลังกายของ ดอล์ฟ ลันด์เกรน หน้าที่ประจำของเขาคือเช็ดล้างอึหมา

3.จ้างโรเบิร์ต โรดริเกซ ทำดนตรีประกอบภาพยนตร์ด้วยค่าจ้าง 1 ดอลลาร์

คู่ซี้ โรเบิร์ต โรดริเกซ และ เควนติน แทแรนติโน

คู่ซี้ โรเบิร์ต โรดริเกซ และ เควนติน แทแรนติโน

เควนติน แทแรนติโน และ โรเบิร์ต โรดริเกซ นี่จัดได้ว่าเป็นคู่ซี้ เป็นผู้กำกับที่สร้างชื่อเสียงมาจากหนังอินดี้ในยุคเดียวกัน เคยร่วมงานกันในหลายโพรเจกต์ โรเบิร์ต โรดริเกซ เป็นผู้กำกับน้อยคนที่มีความสามารถหลากหลาย แม้ผู้คนจะรู้จักเขาในฐานะผู้กำกับแต่โรเบิร์ต ยังสามารถถ่ายภาพยนตร์เอง เขียนบท ตัดต่อ และทักษะหนึ่งที่เขาชำนาญมากคือการทำดนตรีประกอบภาพยนตร์ ด้วยความสนิทสนม ครั้งหนึ่งโรเบิร์ต ก็เลยไปทำดนตรีประกอบให้หนัง Kill Bill Vol.2 ด้วยค่าจ้างเพียง 1 ดอลลาร์ เรียกว่าช่วยกันจะดีกว่านะ บุญคุณก็ย่อมทดแทนครับ ตอนที่โรเบิร์ต กำกับ Sincity ผลงานเรื่องดังของเขาในปี 2005 เควนติน ก็ไปช่วยกำกับบางฉากให้ฟรีเช่นกัน

4.ไม่สนใจกีฬาใด ๆ เลย

คำคมประจำตัว เควนติน แทแรนติโน

คำคมประจำตัว เควนติน แทแรนติโน

นี่เป็นรสนิยมอย่างหนึ่งที่เควนติน แทแรนติโน เปิดเผยกับสื่อ เขาไม่ใช่คนที่สนใจกีฬา ทั้งในการเล่นกีฬาหรือดูกีฬาประเภทไหน แถมยังตั้งข้อสงสัยอีกว่า คนเราสามารถทนดูฟุตบอลแมตช์นึงยาว ๆ ได้อย่างไรกัน แล้วทำไมเวลาเขาทำหนังยาวสัก 3 ชั่วโมง คนกลับบ่นกัน

5.เคยติดคุกมาแล้ว 2 ครั้ง

ไม่ชอบจ่ายค่าจอดรถ

ไม่ชอบจ่ายค่าจอดรถ

แล้วแต่ละครั้งนี่ข้อหาจิ๊บจ๊อยมาก ครั้งแรกตอนอายุ 15 โดนข้อลักทรัพย์ แล้วของที่เขาขโมยจากร้านก็คือ นิยายของ เอลเมอร์ เลียวนาร์ด ก็น่าจะตอกย้ำได้ว่า เขาคงรักงานเขียนของเอลเมอร์ เลียวนาร์ด จริง ๆ เพราะ “Jackie Brown” หนังเรื่องดังของเขาก็ดัดแปลงมาจากนิยายของเอลเมอร์ เลียวนาร์ด

ส่วนอีกครั้งนั้น เขาต้องเข้าไปอยู่ในคุกที่ลอส แองเจลิส ถึง 10 วัน จากข้อหาไม่จ่ายค่าจอดรถ รวมแล้วเป็นเงินกว่า 7,000 เหรียญ เควนติน เล่าว่าที่จริงแล้วเรื่องเชิดเงินค่าจอดรถเนี่ย ทำเขาติดคุกมาแล้ว 3 ครั้งด้วยซ้ำ ก็แล้วทำไมพี่ไม่จ่ายล่ะครับ

6.แก้บทภาพยนตร์เพื่อ ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ โดยเฉพาะ

ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ ในบท คาลวิน แคนดี

ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ ในบท คาลวิน แคนดี

ตอนที่เควนติน เขียนบท Django Unchained เสร็จ เขาส่งบทภาพยนตร์ไปให้ ลีโอนาร์โด อ่านเผื่อจะสนใจ แล้วลีโอก็สนใจจริงในบท คาลวิน แคนดี พ่อค้าทาสตัวร้ายของเรื่อง แต่บทนี้ เควนติน เขียนบรรยายไว้ว่าเป็นชายอายุมาก แต่เขาก็อยากร่วมงานกับลีโอ จึงยอมแก้ไขบทใหม่ให้ คาลวิน แคนดี หนุ่มขึ้นกว่าเดิมหลายปี เพื่อให้เข้ากับวัยของลีโอโดยเฉพาะ ซึ่งลีโอก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง ใครที่ได้ชมก็น่าจะจำบทบาทการแสดงที่ทุ่มเทเพื่อบทนี้ได้อย่างน่าจดจำ

7.เคยใส่เสื้อสีชมพูไปกำกับหนังเพื่อให้นักแสดงสบายใจ

ER ตอนที่ได้ เควนติน แทแรนติโดน มากำกับ

ER ตอนที่ได้ เควนติน แทแรนติโดน มากำกับ

ช่วงที่เขาเพิ่งประสบความสำเร็จจาก Pulp Fiction เควนติน ได้ไปร่วมกำกับตอนหนึ่งในER ทีวีซีรีส์สุดฮิตในยุคนั้น เป็นซีรีส์เกี่ยวกับห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาล ซึ่งหนังก็ต้องไปถ่ายทำในโรงพยาบาล ด้วยไอเดียของเขาเองที่อยากให้บรรดานักแสดงรู้สึกผ่อนคลาย เควนตินเลือกที่จะใส่ชุดสีชมพูไปกำกับหนัง เพื่อให้เข้ากับสีชมพูของชุดพยาบาล อีกวันก็เป็นสีฟ้าบ้าง สีเขียวบ้างเพื่อให้กลมกลืนกับชุดของแพทย์ในโรงพยาบาล

8.อ้างว่าหนังรีเมก เจมส์ บอนด์ Casino Royale มาจากไอเดียของเขา

เควนติน อ้างว่า เขาเป็นคนริเริ่มไอเดียรีเมก Casino Royale

เควนติน อ้างว่า เขาเป็นคนริเริ่มไอเดียรีเมก Casino Royale

เควนติน บอกว่าเขาเคยให้สัมภาษณ์สื่อว่าเขาอยากเอาหนังเจมส์ บอนด์ ยุคแรก ๆ อย่าง Casino Royale มาทำใหม่ เป็นเพียงการเปรยเท่านั้น ไม่ได้มีการพูดคุยเป็นกิจจะกับทางโพรดิวเซอร์เจ้าของหนัง แต่จากความเห็นของเควนติน ก็กลายเป็นการจุดกระแสความสนใจของแฟน ๆ เจมส์ บอนด์ ให้พูดถึงกันทางอินเทอร์เน็ต ไม่นานจากนั้นก็มีข่าวว่าผู้สร้างเจมส์ บอนด์ ตัดสินใจรีเมก Casino Royale แล้วได้ตัวแดเนียล เครก มาเป็นเจมส์ บอนด์ คนล่าสุด แต่เควนติน บอกว่าไอเดียดั้งเดิมของเขา อยากจะร่วมงานกับ เพียร์ซ บรอสแนน มากกว่า

9.เคยวางตัวเองให้รับบท ไป่เม่ย ใน Kill Bill Vol.2

ไป่เม่ย นักพรตคิ้วขาวใน Kill Bill Vol.2

ไป่เม่ย นักพรตคิ้วขาวใน Kill Bill Vol.2

เควนติน มีความตั้งใจที่จะรับบทเป็น ปรมาจารย์ไป่เม่ย นักพรตคิ้วขาว ผู้ถ่ายทอดวิทยายุทธให้กับ The Bride ถึงขนาดว่าไปฝึกวิชาการต่อสู้มาแล้วด้วย แต่แล้วไม่รู้อะไรดลใจให้ฉุกคิดอีกทีว่า Kill Bill กลายเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ที่เขาต้องทุ่มเทเวลากับหนัง 100% ไม่สามารถแบ่งภาคไปแสดงหนังด้วยได้ ก็เลยล้มเลิกความตั้งใจเสีย แล้วทุ่มเทให้กับงานกำกับเพียงอย่างเดียว ตัดสินใจถูกแล้วล่ะเนอะ เรียกว่าเราจินตนาการกันไม่ถูกจริง ๆ นะ เควนติน มีผมขาว เคราขาว เนี่ย

10.เคยคบหากับ โซเฟีย คอปโปลา

คบหากับ โซเฟีย คอปโปลา ในช่วงปี 2003 - 2004

คบหากับ โซเฟีย คอปโปลา ในช่วงปี 2003 – 2004

เควนติน เคยควงกับ โซเฟีย คอปโปลา ผู้กำกับหญิงฝีมือดี ลูกสาวของฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา อภิมหาผู้กำกับของฮอลลีวู้ด ก็นับว่าเป็นคู่ที่เหมาะสม เพราะเป็นผู้กำกับฝีมือดีด้วยกันทั้งคู่ ทั้งคู่คบหากันสั้น ๆ ในช่วงปี 2003 – 2004 แล้วก็แยกทางกันไป แต่ในช่วงนั้นทั้งคู่ต่างก็สร้างผลงานดี ๆ ออกมาด้วยกันทั้งคู่ เควนติน ได้สร้าง Kill Bill, Vol 1. ส่วน โซเฟียก็สร้าง Lost In Translation กลายเป็นหนังขึ้นหิ้งทั้งคู่ และทั้ง 2 เรื่องต่างมีฉากที่ถ่ายทำในญี่ปุ่นเหมือนกัน แล้วยังมีตัวละครชื่อ “Charlie Brown.” เหมือนกันอีกด้วย

11.แม่บอกว่าเขามี IQ สูงถึง 160

เควนติน แทแรนติโน ตอนที่ไปออกรายการ Howard Stern Show

เควนติน แทแรนติโน ตอนที่ไปออกรายการ Howard Stern Show

เรื่องนี้ไม่มีหลักฐานอ้างอิง มีแต่แม่ของเควนติน ยืนยันเรื่องนี้เพียงคนเดียว IQ 160 นี่ถือว่าอยู่ในระดับอัจฉริยะเลย (ชาร์ล ดาร์วิน นักธรรมชาติวิทยาชือดังชาวอังกฤษ มี IQ 165) ซึ่งค่อนข้างสวนทางกับความเป็นจริงในหลาย ๆ ด้าน เควนติน ลาออกจากโรงเรียน ระหว่างที่ศึกษาอยู่ชั้น ม.3 แค่นั้น และบทภาพยนตร์ของเขาใช้ไวยากรณ์ผิด และสะกดผิดเยอะมาก ปี 1997 เขาเคยไปออกรายการทอล์กโชว์ของ โฮเวิร์ด สโตน พิธีกรชื่อดัง ซึ่งได้ถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน แถมยังถามคำถามทดสอบ IQ ของเควนติน 2 ข้อ และเควนตินก็ตอบผิดหมด

12.ต่อยกับคนขับแท็กซี่ เกือบโดนกัดหัวนมขาด

ดาเนียลา พิก ภรรยาคนปัจจุบัน

ดาเนียลา พิก ภรรยาคนปัจจุบัน

เรื่องนี้เควนตินออกมาเล่าเมื่อปี 2013 เหตุเกิดก่อนหน้านั้นประมาณปีกว่า ตัวเขาและแฟนสาวเรียกแท็กซี่จากหน้าไนต์คลับเพื่อกลับบ้าน เควนตินเล่าว่าคนขับนิสัยแย่มาก แต่ไม่ได้อธิบายละเอียดว่าเขามีมารยาทเช่นใด จนเควนตินทนไม่ไหว บอกให้คนขับจอดข้างทาง เขาจะลงแล้วไม่ไปต่อ ค่าแท็กซี่ 4.5เหรียญ เควนตินให้เงินไป 5 เหรียญ ด้วยความไม่พอใจมารยาทของคนขับ เขาขอเงินทอน 50 เซ็นต์ สร้างความขุ่นเคืองให้กับคนขับแท็กซี่เพิ่มขึ้นอีก แท็กซี่ทอนเงินให้พร้อมกับคำพูดดูถูกสาวของเควนติน “ได้ แล้วเอาเงินไปทำหน้าเมียแกใหม่ด้วยนะ” เท่านั้นล่ะสติเควนตินขาดผึง เขาพุ่งตัวจากเบาะหลังเข้าไปชกต่อยคนขับแท็กซี่ ทั้งคู่ซัดกันอีรุงตุงนังในรถแท็กซี่ ลงเอยด้วยคนขับก้มมากัดหัวนมเควนติน ด้วยความกลัวหัวนมขาด การต่อสู้จึงเป็นอันยุติ เขาเก็บเรื่องนี้เงียบเป็นเวลานานเพราะไม่อยากตกเป็นข่าวในตอนนั้น

 

 

อ้างอิง

อ้างอิง