การแสดงในช่วงพักครึ่งของซูเปอร์โบวล์ปี 2020 นี้ของสองเจ้าแม่ละติน “เจโล” เจนนิเฟอร์ โลเปซ และ ชากีรา ได้รับคำชื่นชมและความสนใจไม่แพ้ตัวเกมเลย นอกจากจะทำให้ผู้ชมเพลิดเพลินและสนุกสุดเหวี่ยงไปกับโชว์แล้วพวกเธอยังซ่อน “สาร” บางอย่างเอาไว้อย่างลึกซึ้งอีกด้วย นอกจากนี้รู้หรือไม่ว่าทั้งสองศิลปินไม่ได้รับค่าจ้างจากการแสดงครั้งนี้สักแดงเดียว เพราะทั้งคู่นั้น “ยินดี” ที่จะทำการแสดงแบบฟรี ๆ
ซึ่งจริง ๆ แล้วมันมีเหตุผลรองรับที่ทำให้เราร้องอ๋อและเข้าใจได้ นั่นก็คือ อย่างที่เรารู้กันดีว่าการแสดงในช่วงพักครึ่งเวลาของซูเปอร์โบวล์นั้นมันได้รับความนิยมชมชอบเป็นอย่างสูงขนาดไหน ภายในช่วงเวลาไม่เกิน 15 นาทีนี้มันคือช่วงนาทีทองที่ศิลปินที่ปรากฏตัวบนเวทีจะได้แสดงศักยภาพและความสามารถทั้งหมดที่มีในการสะกดผู้ชม (หรือในกรณี เจโล และ ชากีรา ที่โชว์นี้เป็นการ “ส่งสาร” บางอย่างที่ลึกซึ้งไปกว่าการแสดงดนตรีเพื่อความบันเทิง) และผลที่ตามมาจากความประทับใจที่เกิดขึ้นก็คือทัศนคติที่ดีและความชื่นชอบที่เกิดขึ้นต่อตัวศิลปินนั้น ๆ อย่างฉับพลันทันใด พูดง่าย ๆ ก็คือมันเป็นช่องทางในการโปรโมตตัวเองของศิลปินที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด !!
ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2018 หลังจากโชว์ของจัสติน ทิมเบอร์เลก (Justin Timberlake) ที่ดูเหมือนว่าจะล้มเหลวในการบิลท์อารมณ์แฟน ๆ แต่ยอดสตรีมเพลงใน spotify ของนักร้องหนุ่มกลับพุ่งไปกว่า 214 เปอร์เซ็นต์เพียงเวลาไม่เกินหนึ่งชั่วโมงหลังโชว์จบ
นอกจากนี้ยังมีตัวแม่อย่าง Lady Gaga ที่โชว์ในซูเปอร์โบวล์ของเธอทำให้อัลบั้มของเธอกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่มันปล่อยออกมานานแล้ว ส่งผลให้อัลบั้มกลับไปติดชาร์ตเพลงกว่า 60 ชาร์ต แถมยังขึ้นไปถึงอันดับสองในชาร์ตบิลบอร์ดหลังจากโชว์จบได้เพียงหนึ่งสัปดาห์
สำหรับโชว์ของ เจโล และ ชากีรา ในครั้งนี้ทั้งสองสาวก็ได้จัดกันอย่างเต็มที่
เปิดด้วย “ชากีร่า” ที่มาพร้อมชุดเพลงเมดเลย์สุดฮิตของเธอพร้อมชุดสีแดงแรงฤทธิ์ เสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ ท่าเต้นสุดเร่าร้อนและแววตาสุดเซ็กซี่ของเธอ
โดยมีไฮไลต์อยู่ที่ลีลาการเล่นกีตาร์สุดร็อกสะท้านใจของเธอในเพลง “Empire”
การเอาเชือกมา “รัด” รอบกายก่อนคลายตัวและ “ปลดปล่อยตนเอง” จากพันธนาการ ที่ดูเหมือนว่าเป็นการแสดงสั้น ๆ ที่สื่อความหมายลึกซึ้งมากไปกว่าการโชว์เล่นเชือกเซ็กซี่เฉย ๆ
การฟีเจอริ่งกับ “Bad Bunny” นักร้องหนุ่มชาวเปอร์โตริโกผู้สร้างสรรค์ดนตรีในแนวเปอร์โตริโก-ละตินแร็ป และเรเกตอน (Reggaeton) เป็นการรวมพลังหนุ่มสาวชาวละตินที่ยอดเยี่ยม
รวมไปถึงการลงไปเซิร์ฟบนหมู่ผู้ชมของชากีร่า เรียกได้ว่าโชว์ของเธอนี่เร่าร้อนจนเวทีลุกเป็นไฟ!
ต่อด้วยโชว์ของตัวแม่ “เจโล” ที่มาพร้อมชุดสีดำขรึมขลัง เสียงร้องทรงพลัง และท่าเต้นสุดเร่าร้อนก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดสีเงินประกาย โชว์ลีลาร่ายไปบนเสาในบทเพลงฮิต “Waiting For Tonight” ชี้ชวนให้เราคิดไปถึงบทบาทของเธอในภาพยนตร์เรื่อง “Hustlers”
จากนั้น “J Balvin” นักร้องหนุ่มแนวเรเกจากโคลอมเบีย ได้ปรากฏตัวขึ้นมาแจมกับเธอบนเวที เป็นการรวมพลังหนุ่มสาวชาวละตินอีกครั้งบนเวที ดูเหมือนว่าการรวมพลังกันของศิลปินและแขกรับเชิญในการแสดงครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงนัยยะสำคัญบางอย่างจริง ๆ
จากนั้นแขกรับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์น้อง “เอ็มมี่ มาริเบล มูนิช” สาวน้อยน่ารักวัย 11 ปีลูกสาวของเจโลก็ได้ปรากฏตัวบนเวทีในชุดสีขาวพร้อมเหล่าเด็กหญิง แรกเริ่มเธอถูกขังเอาไว้ในกรงบนเวทีซึ่งตรงจุดนี้ทำให้หลายคนคิดไปถึงปัญหาเรื่อง “วิกฤติการณ์ชายแดน” (Border Crisis) นอกจากนี้ เวทีเมื่อมองจากด้านบนแล้วจะเห็นเป็นสัญลักษณ์ “เพศหญิง” อีกด้วย
สาวน้อยเอ็มมี่มาร้องเพลงร่วมกับคุณแม่ในเพลง “Let’s Get Loud” โดยมีชากีร่าตีกลองให้อยู่ทางด้านหลังจากนั้นก็ต่อด้วยเพลง “Born in the USA” ที่คุณแม่เจโลห่มธงชาติที่ด้านในเป็นธงชาติเปอร์โตริโกส่วนด้านนอกเป็นธงชาติอเมริกาช่างเก๋และลึกซึ้ง !!
ส่วน “มาร์ก แอนโธนี” อดีตสามีและคุณพ่อของน้องเอ็มมี่ ก็แสดงความปลาบปลื้มในตัวลูกสาวด้วยการทวีตหลังจบการแสดงว่า “เอ็มมี่พ่อภูมิใจในตัวหนูมาก หนูเป็นยอดดวงใจของพ่อและพ่อเองก็จะเป็นของหนูตลอดไปเช่นกัน ลูกรัก”
เจโล และ ชากีรา ต่างมีความตั้งใจจะให้โชว์ในครั้งนี้เป็นการอุทิศแด่ต้นกำเนิดของพวกเธอนั่นก็คือ “ความเป็นคนละติน” นั่นเอง
“การที่คนละตินสองคนแสดงโชว์ร่วมกันบนเวทีนี้ ในประเทศนี้ ในช่วงเวลานี้ มันช่างมอบพลังอันล้ำค่าให้กับเรา” เจโล กล่าว
ชากีรา เสริมว่า
“มันมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเราที่ต้องส่งสารของ “ความเป็นหนึ่งเดียวกัน” และ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงพลังที่เชื่อมโยงถึงกันของชุมชนชาวละตินในประเทศแห่งนี้”
เป็นสารที่ทรงพลังมาก ลองได้ชมการแสดงและได้เข้าใจความคิดเบื้องลึกแบบนี้ เห็นทีประธานาธิบดี “โดนัล ทรัมป์” อาจจะมีสะอึกกันบ้าง.
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส