[รีวิวซีรีส์]Cherry Magic ถ้า 30 ยังซิง! จะมีพลังวิเศษ : บอยเลิฟญี่ปุ่น ฮากระจาย ยิ้มแก้มแตก

Our score

10.0

จุดเด่น

ถือเป็นซีรีส์ในแนวบอยเลิฟที่บทละเอียด มองความรักอย่างเป็นธรรมและสวยสะอาดเห็นถึงการให้เกียรติในเรื่องนี้อย่างชัดเจนไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหนก็ตาม
ฉาก แสง สีบรรยากาศมีความเป็นญี่ปุ่นอย่างไม่ทิ้งลายเส้น โดยเฉพาะความฮาที่มาในรูปแบบมังงะ ที่แต่ละมุกที่เวอร์วังถึงเป็นการแสดงก็จริงอยู่ แต่ฮาได้เนียน ๆ เป็นธรรมชาติเอามาก ๆ
นักแสดงเคมีเข้ากันและถึงใครจะไม่อินกับบอยเลิฟก็สามารถดูได้เลยนะ เพลิน ๆ

จุดสังเกต

ตอนละ 20 นาที มันสั้นไปค่ะ ขอประท้วง

ความสมบูรณ์ของบท

10.0
คุณภาพนักแสดง

10.0
คุณภาพงานสร้าง

10.0
คุณภาพการเล่าเรื่อง

10.0
ความคุ้มค่าในการรับชม

10.0

เป็นบอยเลิฟญี่ปุ่นที่ดูไปขำไป บทจะฮาก็ฮาก๊าก บทจะซึ้งก็อบอุ่นสมเป็นแดนปลาดิบ ถ้าอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นแล้วฮาแบบไหน เรื่องนี้จังหวะฮาก็เป็นแบบนั้นนั่นแหละจ้ะ

Cherry Magic เป็นมังงะยาโออิญี่ปุ่น เขียนโดย ยู โทโยตะ จนนำมาสร้างเป็นซีรีส์สั้น ๆ ตอนละ 20 นาที เนื้อเรื่องใส่ความแฟนตาซีเล็ก ๆ ลงไปว่า หากใครอายุ 30 แล้วยังซิงอยู่จะมีพลังวิเศษ!! คิโยชิ อาดาจิ (เอย์จิ อากาโซะ) เป็นหนุ่มโสดพนักงานบริษัทธรรมดา ที่ยังเวอร์จินอยู่และกำลังจะมีอายุ 30 ในวันรุ่งขึ้น เมื่อถึงวันเกิดเขาก็พบว่าตัวเองมีพลังวิเศษ! ขึ้นมาหน้าตาเฉย เขาสามารถอ่านใจคนอื่นได้ด้วยการสัมผัส ใครมาแตะตัวปุ๊บก็รู้ความคิดในใจทันทีเลย แต่มันน่าปวดหัวนะและเขาก็ไม่อยากได้อะไรแบบนี้หรอก เขาก็เลี่ยงที่จะโดนตัวใครต่อใครมาสักพัก แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็เผลอไปสัมผัสตัว ยูอิจิ คุโรซาวะ (เคตะ มาจิดะ) รุ่นพี่หนุ่มรูปหล่อที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกัน แล้วก็รู้ความลับว่า รุ่นพี่แอบปิ๊งเขาอยู่ซะงั้นน่ะ

กลิ่นมังงะญี่ปุ่นโชยแรง

แอกติ้งตัวแสดงนี่แหละจ้ะที่ทำให้ภาพมังงะญี่ปุ่นลอยมาอยู่ตรงหน้าเดี๋ยวนั้นเลย ฮากระจัดกระจายจนบรรยากาศลอยมาให้เห็นกันชัด ๆ ไม่ใช่มุกตลกโป๊งชึ่งดาษ ๆ แต่เป็นมุกท่าทาง บทขำ ๆ ที่มาจากความคิดในใจ ที่เราเห็นแล้วก็ขำก๊ากนึกว่าอ่านมังงะอยู่ซะอีก ตัว อาดาจิ เขามีเพื่อนซี้เป็นนักเขียนนิยายชื่อ มาซาโตะ สึเกะ (โคได อาซากะ) ด้วยความที่เขากลุ้มใจกับพลังพิเศษที่ตัวเองมี เพราะทำตัวไม่ถูก ฮีก็มาปรึกษาเพื่อนซี้จนได้รู้ว่า อ้าว…เพื่อนที่ใกล้จะ 30 อีกไม่กี่วันก็ยังซิงอยู่เหมือนกัน

Cherry Magic ถ้า 30 ยังซิง! จะมีพลังวิเศษ

ระหว่างดูไปก็ยังคิดว่า แล้วอย่างนี้อีตาเพื่อนก็ต้องมีพลังวิเศษด้วยสิ แล้วก็เป็นดังนั้นจ้ะ พ่อนักเขียนนิยายที่อาศัยอยู่กับแมวชื่อ อุด้ง เมื่อถึงวันที่อายุ 30 พอดีเป๊ะ ดันไปสัมผัสตัวของ มินาโตะ วาตายะ (โกโตะ ยูตาโระ) พนักงานส่งของแล้วดันได้ยินเสียงในใจเขาซะงั้น แล้วก็ปิ๊งพนักงานส่งของเอาดื้อ ๆ ก็เท่ากับว่าทั้งคู่เอกและคู่รอง ต่างมีพลังวิเศษเหมือน ๆ กัน

บทน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม เต็มไปด้วยมิตรภาพ

ด้วยพล็อตง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน แต่ใส่ความเล่นใหญ่เบอร์แรงที่เป็นความฮามาแบบไม่ขาด บวกกับบทที่มีความนุ้บนิ้บในหัวใจ ก็ทำให้คนที่ไม่อินกับบอยเลิฟสามารถดูได้แบบเพลิน ๆ ซีรีส์สร้างสังคมฉบับย่อออกมาให้เห็นว่า ความรักไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนมันเป็นสิ่งที่รับได้และจงยอมรับมัน ด้วยการแสดงออกที่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรื่องนี้เป็นบอยเลิฟที่เสนอไปในวัยของคนทำงาน น่ารักอบอุ่นและยังคงเกี่ยวเอาสังคมญี่ปุ่นมาใส่ในเรื่องไว้อยู่ลึก ๆ เป็นสังคมของคนทำงานทียังถูกกดทับด้วยระบบอาวุโส

เรายังเห็นค่านิยมของแม่ที่อยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝาด้วยการคาดหวังให้ลูกสาวแต่งงานและมีทายาทสืบทอด เรายังเห็นหัวหน้างานที่อาศัยความอ่อนน้อมของลูกน้องโยนงานให้ทำ และแน่นอนกับวัฒนธรรมกินดื่ม ที่ยังแสดงให้เห็นว่าสังคมของการเอาใจนายในสายงานบริษัทยังคงอยู่ ในบทของ อาดาจิ ที่เป็นนายเอก จะเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตัวเองและคิดว่าตัวเองไม่มีอะไรดี ตรงกันข้ามกับ คุโรซาวะ พระเอกรูปหล่อที่เก่งรอบด้านแต่กลับถูกเจ้านายมองว่ามีดีที่หน้าตา แต่บทก็ทำให้เห็นว่าในความดีมีความด้อยและในความด้อยมีอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่ ถือว่าเป็นการใส่เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่สามารถสร้างพลังใจให้ใครหลายคนเอาไว้ได้แบบเนียน ๆ

แอกติ้งนักแสดงที่สมกับบทบาท

เป็นการจับคู่แคสติ้งที่ดึงสายตาคนดูได้เยอะเลยทีเดียวกับความน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มของ เอย์จิ อากาโซะ ที่หลายคนอาจจะจำเขาได้ในบทของ บันโจ ริวงะ หรือ Kamen Rider Cross-Z จากซีรีย์ Kamen Rider Build และ นากาเซะ ฮิโรกิ หัวหน้าทีม X ใน Kamen Rider Amazons Season 2 กลับมารอบนี้ก็มุ้งมิ้งซะ กลายเป็นหนุ่มขี้ตื่น รับบทเป็นนางน้องน่าทะนุถนอม ประกบคู่กับ เคตะ มาจิดะ ที่ส่งเคมีอบอุ่นเป็นหลัวแห่งชาติ เนื่องจากบทของเรื่องนี้มีความกลมกล่อมตามสไตล์ญี่ปุ่น ก็นายเอกเขาแอบรักเพื่อนร่วมงานมาตั้งนานอ่ะเนอะ การแสดงออกของนักแสดงที่สวมบทบาทจึงเป็นไปตามเนื้อเรื่องได้อย่างเป็นธรรมชาติ จนต้องบอกว่าเคมีพระ-นายดีมาก

สิ่งละอันพันละน้อยที่ซีรีส์ใส่เข้าไปในบทบาท มันเป็นลูกผสมของชีวิตที่เกิดขึ้นจริงของสังคมญี่ปุ่น กับความเป็นซีรีส์ที่มีแฟนตาซีเป็นส่วนผสม เรียกได้ว่าลงตัวและฮากระจาย โดยเฉพาะในบทของ โคได อาซากะ ที่พลิกบทบาทจากตำรวจใน Anata No Ban Desu (Your turn to kill) มากลายเป็นนักเขียนติงต๊องที่หลงรักเด็กส่งของแบบไม่รู้ตัว

เป็นบอยเลิฟที่ให้เกียรติในความสัมพันธ์

ซีรีส์ใส่ความรู้สึกนี้ลงไปในบท สร้างความรู้สึกที่อบอุ่นและถูกรักอย่างให้เกียรติ ในทุก ๆ ฉากที่ผ่านมาโดยเฉพาะ ฉากในช่วงเล่นเกมพระราชา ที่ต่อให้ต้องรับคำสั่งตามเกมที่หัวหน้าสั่ง ยังคงมีการให้เกียรติในความสัมพันธ์แบบปิดซึ่งกันและกัน บ่งบอกถึงความจริงใจที่มีต่ออีกฝ่ายอย่างซาบซึ้ง ถือว่าจุดนี้ทำดีมาก ๆ

เงื่อนไขของเกมก็คือให้จูบกันจ้ะ แล้วต้องทำด้วยนะเพราะพระราชาสั่ง จะไม่ทำก้ไม่ได้เพราะพระราชาดันมีสายงานที่ใหญ่กว่า บทเขียนให้คุโรซาวะ ไม่ได้ใช้โอกาสนี้ฉกฉวยหรือคุกคามอีกฝ่าย ในขณะที่ อาดาจิ ถึงไม่ได้รังเกียจ แต่ก็แสดงออกให้เห็นว่าไม่สบายใจกับคำสั่งของเกมนี้ ซึ่งในบทของซีรีส์ก็ใส่ทางออกที่นุ่มนวลกว่ามาให้ ทำให้เห็นถึงมิตรภาพที่อยากจะมอบให้กันอย่างจริงใจ จนเราสามารถมองความรักที่มีต่อกันเป็นเรื่องที่อบอุ่นสวยงามได้ไม่ยาก รวมถึงฉากอื่น ๆ ที่แสดงออกมาให้รู้สึกได้ว่าความรู้สึกของคุโรซาวะมันแสนบริสุทธิ์ รวมไปถึงความเพี้ยนของคู่รองที่เป็นสีสันในทางตรงกันข้ามนี่น่าติดตามอีกคู่หนึ่ง

ถือว่าเป็นซีรีส์บทละเอียดอีกเรื่องหนึ่งที่ใส่ความเป็นธรรมชาติให้ตัวละครอย่างน่ารัก มีความเคอะเขิน มีการยอมรับในสถานะ และนักแสดงก็ยังสวมบทบาทได้เข้าถึงอีกต่างหาก จนคนดูรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติของความรักรูปแบบนี้ได้จริง ๆ มีความสมจริงในเนื้อเรื่องและบทบาทที่ต้องบอกว่า บอยเลิฟเรื่องนี้ลงตัวในทุกอิริยาบถ ทั้งพล็อต บท และคุณภาพงานสร้างที่เห็นความเป็นญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ใครอยากจะจิ้นก็จิ้นได้เต็มที่ไม่โฉ่งฉ่าง ใครจะดูเพลิน ๆ ก็ดูได้แบบฟีลกู๊ด ฉากและแสงที่ใช้ให้บรรยากาศความอบอุ่นและความอาร์ตแบบญี่ปุ่นจนสัมผัสได้

สำคัญคือ 7EP ที่ผ่านมา ยังไม่เห็นฉากไหนที่แสดงออกจนเกินงาม แต่กลับกลายเป็นความละมุนใสสะอาด ยิ้มแก้มแตกเสียอาการกันได้ง่าย ๆ และฮากระจายมาแทนที่ซะมากกว่า

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส