[รีวิวซีรีส์] ‘เด็กใหม่ ซีซัน 2’ – “แนนโน๊ะ 2.0” และการพิพากษาโคตรโหดในโลกเซอร์เรียล
Our score
9.5

Release Date

07/05/2021

แนว

ลี้ลับ-แฟนตาซี-ทริลเลอร์

เรตผู้ชม

18+ (ความรุนแรง,คำหยาบคาย,เรื่องเพศ,การฆ่าตัวตาย)

จำนวนตอน (ซีซัน 2)

8 ตอน (ตอนละ 45 นาที)

ผู้กำกับ

ไพรัช คุ้มวัน, คมกฤษ ตรีวิมล, สิทธิศิริ มงคลศิริ, จตุพงศ์ รุ่งเรืองเดชาภัทร์

ผู้เขียนบท

คงเดช จาตุรันต์รัศมี, อาทิชา ตันธนวิกรัย,ทินพัฒน์ บัญญัติปิยพจน์

[รีวิวซีรีส์] ‘เด็กใหม่ ซีซัน 2’ – “แนนโน๊ะ 2.0” และการพิพากษาโคตรโหดในโลกเซอร์เรียล
Our score
9.5

เด็กใหม่ ซีซัน 2 | Girl From Nowhere Season 2

จุดเด่น

  1. เนื้อเรื่องเข้มข้น ดาร์ก และเสี่ยงโดนสอยมาก
  2. มีเส้นเรื่องรองที่เล่าคู่ไปกับเส้นเรื่องหลัก เป็นการเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับแนนโน๊ะได้ชนิดที่เรียกว่าคาดไม่ถึง
  3. ถ้าซีซันที่แล้ว 'คลาวเดีย จักรพันธุ์' คือ MVP ซีซันนี้ 'เจมส์ ธีรดนย์' , 'เอม ภูมิภัทร' , 'ญารินดา บุนนาค' และ 'พลอย ศรนรินทร์' ถือตำแหน่ง MVP ร่วมกัน

จุดสังเกต

  1. อีพีแรก ๆ ยังออกตัวช้าเล็กน้อย แต่อีพีกลาง-ท้ายเข้มข้นและดาร์กมาก ๆ
  • ความสมบูรณ์ของเนื้อหา

    9.4

  • คุณภาพงานสร้าง

    9.3

  • คุณภาพของบท / เนื้อเรื่อง

    9.6

  • การตัดต่อ / การลำดับ และการดำเนินเรื่อง

    9.6

  • ความคุ้มค่าเวลาในการรับชม

    9.5

เรื่องย่อ หลังจากครั้งที่แล้ว เธอปรากฏตัวขึ้นด้วยบทบาทของเด็กนักเรียนที่ย้ายเข้ามาใหม่เสมอ เธอเข้ามาราวกับแม่มดที่คอยยื่นแอปเปิ้ลอาบยาพิษให้ผู้คน คอยเขี่ยสิ่งที่ซ่อนไว้อยู่ใต้พรมในใจของแต่ละคน ให้แสดงด้านมืดออกมา และทุกที่ที่เธอไปคนทำผิดจะได้รับโทษทัณฑ์ ก่อนเธอจะจากไปอย่างลึกลับ และปรากฏตัวที่โรงเรียนใหม่เรื่อยไป ไม่ว่าแท้จริงแล้ว เธอจะเป็นซาตาน เป็นปีศาจ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า…บางคน และ บางที่ ต้องการเธอ


ในซีซันที่แล้ว ซีรีส์ ‘เด็กใหม่’ (Girl From Nowhere) คือการซีรีส์แนวแฟนตาซี-ลึกลับ-ทริลเลอร์คอนเซ็ปต์จัด เนื้อหาจี๊ดความยาว 13 อีพีที่ว่าด้วยเรื่องของ ‘แนนโน๊ะ’ ลูกสาวซาตานในร่างหญิงสาววัยมัธยมปลาย ผู้เปรียบเสมือน ‘ทูต’ พาคนดูเข้าไปในโรงเรียนด้วยสถานะ ‘เด็กใหม่’ เฝ้าดูพฤติกรรมของผู้คนทั้งที่ดีงามและชั่วร้าย ทั้งกระทำและโดนกระทำ ได้เปรียบและเสียเปรียบของเหล่าผู้คนในรั้วโรงเรียน

เด็กใหม่ ซีซั่น 2

และเปลี่ยนตัวเองเป็น “ยมทูต” ที่นำพาคนดูไปเฝ้าสังเกตการชำแหละด้านมุมของประเด็นสังคมเหล่านั้นด้วยการคอยยุยง และกระตุ้นชี้ให้คนตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างลงไป ก่อนที่จะปล่อยให้ผลของการกระทำนั้น ๆ ค่อย ๆ กัดกิน และแสดงผลของมันต่อคนผู้กระทำนั้นอย่างรุนแรง หนักหน่วง และแฟนตาซี

เด็กใหม่ ซีซั่น 2

ใน ‘เด็กใหม่ ซีซัน 2’ (Girl From Nowhere Season 2) นี้ แม้ว่าเหตุการณ์ในทั้ง 8 อีพีของซีซันนี้จะยังเกิดขึ้นในโรงเรียน แต่โครงสร้างของเนื้อหาโดยรวมเริ่มขยายออกไปนอกรั้วโรงเรียน ไปสู่ประเด็นข่าวดราม่าในสังคมที่ดูปุ๊บรู้เลยว่าหมายถึงข่าวไหน ทั้งเรื่องประเด็นความรักในวัยเรียนใน ‘นักล่าแต้ม’ (Pregnant) และ ‘True Love’ อุบัติเหตุและการปัดความรับผิดชอบใน ‘มินนี่ 4 ศพ’ (Minnie and the Four Bodies) ประเด็นเรื่องชนชั้นและการเอารัดเอาเปรียบใน ‘กำเนิดยูริ’ (Yuri) กฏระเบียบและอาการบ้าคลั่งในอำนาจที่ดูไร้สาระใน ‘ห้องสำนึกตน’ (Liberation) และ ‘รับน้อง’ (SOTUS) ตัวตนจริง ตัวตนปลอมในโลกออนไลน์ใน ‘JennyX’ และเรื่องราวสุดสะพรึงของคู่แม่ลูกสุดลึกลับในตอนสุดท้าย ‘อวสานแนนโน๊ะ’ (The Judgement)

เด็กใหม่ ซีซั่น 2

ในแง่ของบทในซีซันนี้ ดูเหมือนว่าโจทย์ของทีมงานเขียนบทและกำกับจะค่อนข้างมีแนวทางชัดเจนว่า เพื่อจะเป็นซีรีส์ที่ลงใน Netflix “เท่านั้น” ต่างจากในซีซันแรก ที่มันเคยเป็น “ทีวีซีรีส์” มาก่อน สิ่งที่แตกต่างอย่างเห็นชัดก็คือ ในซีซันนี้ เนื้อหาถือว่า “ดาร์ก” “ตรงไปตรงมา” และ “แฟนตาซี” มากกว่า รวมทั้งยังมีความ “สากล” มากกว่า ทำให้ภาพรวมในซีซันนี้ ขับเคลื่อนเรื่องราวด้วยความแฟนตาซีเซอร์เรียลมากกว่าในซีซันที่แล้ว ที่สำคัญคือ ประเด็นสังคมแต่ละประเด็นในซีซันนี้แต่ละตอนนี่แรงมาก แรงโคตร ๆ ชนิดที่เรียกว่าดูปุ๊บรู้เลยว่าหมายถึงใครหรือข่าวไหน จนแอบหวั่นใจแทนเหมือนกันว่า เนื้อหาบางตอนนี่เสี่ยง “โดนสอย” หรือ “ทัวร์ลง” อยู่เหมือนกันนะครับ

เด็กใหม่ ซีซั่น 2

อีกสิ่งที่ชัดเจนก็คือ การที่ในซีซันนี้ เปิดกว้างให้ผู้กำกับในแต่ละตอนมีโอกาสได้ตีความเรื่องราว และสื่อสารออกมาในรูปแบบต่าง ๆ มากขึ้น จนทำให้ในแต่ละตอนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจนมาก อย่างเช่นในตอน ‘ห้องสำนึกตน’ (กำกับโดย ‘ปวีณ ภูริจิตปัญญา’ และ ‘สุรวุฒิ ตุงคะรักษ์’) ที่มีการใช้สีขาว-ดำ และเปลี่ยนขนาดภาพเป็น 4:3 ราวกับว่าเป็นภาพยนตร์ขาวดำยุคเก่า เพื่อสื่อถึงการปลดแอกจากกฏประหลาด ๆ ถือเป็นการทดลองที่มีความเป็นรูปธรรมมากขึ้นกว่าในซีซันที่แล้วอย่างชัดเจน

เด็กใหม่ ซีซั่น 2

นอกจากเส้นเรื่องหลักที่ว่าด้วยเรื่องของการพิพากษาคนชั่วของแนนโน๊ะในแต่ละตอนแล้ว สิ่งที่ในซีซันนี้มีความแตกต่างจากซีซันที่แล้วอย่างชัดเจนก็คือ “เส้นเรื่องรอง” ที่มีการเพิ่มขึ้นมาในซีซันนี้โดยเฉพาะ ที่บอกได้เพียงแค่ว่า แนนโน๊ะกำลังจะเผชิญกับ “ความท้าทายใหม่” บางอย่าง ทำให้ในซีซันนี้ไม่ได้เล่าแค่ว่า ใครคือคนชั่ว และคนชั่วจะได้รับกรรมอย่างไรแต่เพียงอย่างเดียว

เด็กใหม่ ซีซั่น 2

แต่ในซีซันนี้ยังมีการเพิ่มการ “ทบทวน” มุมมองและการกระทำของแนนโน๊ะในแต่ละอีพีเข้าไปด้วย จนทำให้คนดูเองก็คงอดทบทวนตามไปด้วยไม่ได้ว่า สิ่งที่แนนโน๊ะทำหรือคิดลงไปแบบนั้น (หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนั้น) มันถูกต้องจริง ๆ ใช่ไหม จนกระทั่งมาขมวดปมเป็นบทสรุปจบในอีพีสุดท้าย ‘อวสานแนนโน๊ะ’ ที่อยู่ภายใต้ธีมคำถามที่ว่า “จะเกิดอะไรขึ้น หากคนที่พิพากษา ถูกพิพากษาเสียเอง?” ที่ถือเป็นการพลิกตลบมุมมองของแนนโน๊ะที่เรารู้จัก ในแบบที่เรียกว่าคาดไม่ถึงไปเลยล่ะครับ

เด็กใหม่ ซีซั่น 2

หากจะมีข้อสังเกตอยู่บ้างในซีซันนี้ก็คือ เนื้อหาในบางอีพีมีอาการดรอปอยู่บ้างครับ จริง ๆ เนื้อหาโดยรวมถือว่าใช้ได้เลย แต่อาจจะด้วยความแรงและดาร์กมาก ๆ ในบางอีพี ก็เลยทำให้บางอีพีอาจดูดรอปลงไป แต่เมื่อเนื้อหาเริ่มคลายปม ความดาร์ก โหดเหี้ยม และเซอร์เรียลก็ถาโถมเข้ามาอย่างหนักหน่วง

ส่วนนักแสดงทุกคนในซีซันนี้ ถือว่าเล่นดีในบทบาทของตัวเองอย่างน่าประทับใจครับ โดยเฉพาะกับ ‘คิทตี้ ชิชา อมาตยกุล’ เจ้าของบทบาทแนนโน๊ะ ที่ในซีซันนี้ เราจะได้เห็นแนนโน๊ะในมุมที่ต่างออกไปจากในซีซันแรกอย่างสิ้นเชิง ชนิดที่เรียกว่า เราอาจจะมีโอกาสได้เห็น “ซาตานกลายเป็นพระเจ้า” อะไรทำนองนั้นแหละส่วนนักแสดงรับเชิญหลายคนเช่น ‘เจมส์ ธีรดนย์’, ‘เอม ภูมิภัทร’, ‘ญารินดา บุนนาค’ และ ‘พลอย ศรนรินทร์’ ก็แสดงบทบาทของตัวเองในแต่ละอีพีได้โดดเด่นน่าจับตามองเลยทีเดียว

เด็กใหม่ ซีซั่น 2

จากแนนโน๊ะสุดโหด แนนโน๊ะโรคจิต กลายเป็นแนนโน๊ะในอีกมุมที่ชวนให้เราฉุกคิดกันใหม่ ในเรื่องของความถูกต้อง และความดีความชั่ว การพิพากษา ตัดสินใครสักคนจากเพียงมุมเดียวนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ การตัดสินใครสักคน มันเกิดจากเจตนา หรือเป็นเพียงภาวะที่แล้งไร้ทางเลือกกันแน่ ความชั่วร้ายจำเป็นต้องถูกทำลายด้วยความชั่วร้ายแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันหรือไม่ ทั้งหมดนี้ถูกครอบภายใต้พล็อตเรื่องราวความเป็น “แฟนตาซี-ทริลเลอร์” ที่โคตรดาร์ก เซอร์เรียล และโหดเหี้ยมจัดหนัก (กว่าซีซันที่แล้ว) จนอาจทำให้คนที่มือถือสาก ปากถือศีล (แต่เพียงเปลือก ๆ ปลอม ๆ ) อาจดิ้นพล่านจนดูไม่จบก็ได้

เด็กใหม่ ซีซั่น 2

เชื่อว่าหลายคนดูจบ อาจรู้สึกรักแนนโน๊ะขึ้นมาบ้าง หรืออย่างน้อย การพิพากษา (และโดนพิพากษา) ในซีซันนี้ อาจช่วยทำให้เรา “ตาสว่าง” และมองเห็น “อะไรอะไร” ในโลกแห่งความจริงใบนี้ ที่ทั้งโหดร้ายยิ่งกว่า และเซอร์เรียลยิ่งกว่าในซีรีส์มากขึ้นก็เป็นได้

อ่านเพิ่มเติม


เด็กใหม่ ซีซั่น 2

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส