ความโดดเด่นของภาพยนตร์ ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings’ (ชาง-ชี กับตำนานลับเท็นริงส์ ) นั้นไม่ใช่เพียงแค่การที่มันเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในจักรวาลมาร์เวล หรือ MCU (Marvel Cinematic Universe) ที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับฮีโรที่มีเชื้อชาติเอเชีย ภายใต้เรื่องราวแบบเอเชียแบบเต็ม ๆ เพียงเท่านั้น เพราะการมาของฮีโรอย่าง ‘ชางชี’ ยังได้ให้กำเนิดขุมพลังขุมใหม่ในจักรวาลมาร์เวลขึ้นอีกด้วย ซึ่งนั่นก็คือ ‘Ten Rings’ หรือวงแหวนทั้งสิบ และยังเป็นครั้งแรกที่เล่าเรื่องเจาะจงไปที่องค์กรใหญ่แห่งหนึ่งในจักรวาลมาร์เวล นั่นก็คือกลุ่มที่มีชื่อว่า ‘เท็นริงส์’ ที่เคยมีบทบาทในภาพยนตร์ ‘Iron Man’ มาก่อนหน้านี้
หากจะอธิบายง่าย ๆ วงแหวนทั้งสิบหรือ ‘เท็นริงส์’ นั้นก็ไม่ต่างอะไรจาก ‘อินฟินิตีสโตน’ (Infinity Stone) ของธานอสใน Avenger นั่นเอง เพราะว่ามันเป็นสิ่งของวิเศษที่ทำให้ผู้ที่ได้ครอบครองนั้นมีพลังอันทรงอานุภาพ ซึ่งการมาของวงแหวนทั้งสิบนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร และจะมีบทบาทต่อไปใน MCU อย่างไร นี่คือตำนานเล่าขานและเบาะแสที่ควรรู้
SPOILER ALERT !!
คำเตือน : ส่วนหนึ่งของเนื้อหาในบทความนี้ มีการเปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์ ‘Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings’ เท่าที่จำเป็น จึงจำเป็นที่ควรจะต้องรับชมภาพยนตร์ก่อนที่จะอ่านบทความนี้ (และเพื่อจะได้นึกเนื้อเรื่องตามระหว่างอ่านได้ด้วย)
ตำนาน ‘วงแหวนทั้งสิบ’
จากคอมิก
หากจะพูดถึง ‘วงแหวนทั้งสิบ’ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่พูดถึง ‘แมนดาริน’ โดยวายร้ายชาวจีนคนนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในคอมิกส์ ‘Tales of suspense’ ฉบับที่ 50 เดือนกุมภาพันธ์ ปี 1964

เนื้อเรื่องเล่าว่า แมนดารินเป็นอดีตลูกเศรษฐีจีนที่พ่่อแม่ตายก่อนยุคเปลี่ยนการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ไม่นาน แมนดารินที่อาศัยอยู่กับป้า ใช้จ่ายเกินกำลังจนหมดเนื้อหมดตัว และไม่มีเงินจ่ายภาษีให้กับทางการ ทำให้ทั้งคู่โดนไล่ออกจากเมือง เขาจึงเดินทางสำรวจเข้าไปยังดินแดนต้องห้ามที่เรียกว่า ‘หุบเขาแห่งวิญญาณ’ (Valley of Spirits)
(หมายเหตุ : ในคอมิกส์ช่วงแรก พ่อของชางชี จะมีชื่อว่่า ‘ฟูแมนจู’ (Fu-Manchu) แต่ภายหลังด้วยปัญหาของตัวละครฟูแมนจู ที่สร้างขึ้นจากภาพลักษณ์ด้านลบต่อชาวจีนและชาวเอเชีย รวมถึงการถูกฟ้องจาก ‘แซ็ก โรห์เมอร์’ (Sax Rohmer) นักเขียนชาวอังกฤษเจ้าของลิขสิทธิ์ตัวละครฟูแมนจูที่เขาเขียนขึ้นในปี 1910 ทำให้ Marvel ได้ปรับเปลี่ยนเรื่องราวของชางชีใหม่ และเปลี่ยนชื่อพ่อของชางชี กลายเป็น ‘เฉิง ซู่’ (Zheng Zu) และปรับให้แมนดารินเป็นพ่อของชางชีในเวอร์ชันภาพยนตร์)

ณ ที่นั้น เขาได้พบโครงกระดูกเอเลียนสายพันธุ์ ‘แอกซอน-คารร์’ (Axonn-Karr) มีลักษณะครึ่งเอเลียน ครึ่งมังกรจีน มีความสามารถในการปลอมตัวเป็นสิ่งมีชีวิตต่่าง ๆ ที่เคยเดินทางมาเพื่อยึดครองโลกเมื่อหลายร้อยปีก่อนหน้า พร้อมกับนำ ‘วงแหวนทั้งสิบ’ เดินทางติดมาด้วย แมนดารินได้พบกับวงแหวนทั้งสิบ เขาใช้เวลานานหลายปีในการศึกษาพลังของวงแหวนแต่ละวงอย่างละเอียด โดยในคอมิกได้ระบุพลังของวงแหวนแต่ละวงเอาไว้อย่างละเอียด


มือซ้าย
นิ้วโป้ง : ‘White Light’ ปล่อยพลังแสงเพื่อควบคุมพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อควบคุมพลังดึงดูด หรือใช้ปล่อยแสงเพื่อพรางตา หรือปล่อยภาพลวงตาแก่ศัตรู หรือใช้ปล่อยแสงเลเซอร์ได้
นิ้วชี้ : ‘Flame Blast’ ปล่อยรังสีออกมาเพื่อทำให้ศัตรูลุกเป็นไฟจากระดับโมเลกุล
นิ้วกลาง : ‘Electro-Blast’ ใช้ควบคุมการปล่อยพลังงานไฟฟ้าได้
นิ้วนาง : ‘Mento-Intensifier’ ช่วยให้สามารถควบคุมความคิดจิตใจของศัตรูได้ แต่ใช้ได้ในระยะสั้น ๆ
นิ้วก้อย : ‘Ice Blast’ สามารถช่วยให้ปล่อยพลังทำให้อุณหภูมิของสิ่งต่าง ๆ และอากาศลดลงจนกลายเป็นน้ำแข็งได้
มือขวา
นิ้วโป้ง : ‘Matter Rearranger’ ปล่อยพลังเพื่อควบคุมอะตอมในระดับโมเลกุลให้ช้าลงหรือเร็วขึ้น สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพของสิ่งของได้โดยไม่เปลี่ยนแปลงรูปร่างของโมเลกุล
นิ้วชี้ : ‘Impact Beam’ ปล่อยแรงผลักรุนแรงเท่ากับระเบิด 150 กิโลกรัมเพื่อทำลายโมเลกุลของสิ่งต่าง ๆ ได้
นิ้วกลาง : ‘Vortex Beam’ ใช้ทำให้เกิดพายุ หรือกระแสน้ำวนพัดพาสิ่งต่าง ๆ หรือใช้เป็นอาวุธได้
นิ้วนาง : ‘Disintegration Beam’ ปล่อยลำแสงทำให้อะตอมแตกตัวออกจากกัน แต่ต้องชาร์จพลัง 20 นาทีก่อนการใช้งานครั้งต่อไป
นิ้วก้อย : ‘Black Light’ ปล่อยพลังดูดกลืนแสงเพื่อให้ความมืดเข้าปกคลุมได้

จนเมื่อแมนดารินสามารถควบคุมพลังของวงแหวนทั้งสิบได้แล้ว เขาจึงใช้มันในการยึดครองหมู่บ้าน จนแม้แต่ทางการก็ยังหวาดกลัว และเมื่อยึดได้ทั้งหมดแล้ว เขาก็มีเป้าหมายที่หวังอยากจะยืดครองโลกต่อไป จนกระทั่งแมนดารินได้กลายมาเป็นศัตรูของไอรอนแมนในที่สุด ส่วนใน ‘Iron Man 3’ (2013) ใน MCU ก็อย่างที่รู้กันว่า แมนดารินแห่งกลุ่มเท็นริงส์คนนั้น ที่ลักพาตัวโทนี สตาร์กเป็นเพียงตัวปลอมเฉย ๆ ซะงั้น ซึ่งในหนังเรื่องนี้ เราก็จะได้เห็นแมนดารินตัวจริงพูดถึงแมนดารินตัวปลอมด้วย




ต่อมาในคอมิก ‘Special Marvel Edition’ ฉบับที่ 15 เดือนธันวาคม 1973 ฟูแมนจู ได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกที่ชื่อว่า ‘ชางชี’ ซึ่ง ฟูแมนจู ในเวลานั้นได้ใช้พลังแห่งวงแหวนทั้งสิบสร้างกองทัพอันยิ่งใหญ่ และแผ่ขยายอำนาจไปทั่วโลกราวกับลัทธิหรือศาสนาหนึ่งเลยทีเดียว แมนดารินจึงได้ตั้งใจที่จะฝึกชางชีให้กลายเป็นนักฆ่าผู้แข็งแกร่งและเก่งกาจในการต่อสู้ในทุกรูปแบบ ทั้งการใช้อาวุธและมือเปล่า แต่ชางชีกลับตาสว่างและพบว่า พ่อบังเกิดเกล้าของเขาคือวายร้ายที่กำลังทำลายโลก เขาจึงเลือกที่จะแยกทางกับพ่อของตนเอง



ส่วน ‘เซี่ยหลิง’ บุตรีคนแรก และน้องสาวของชางชี ในคอมิกจะทำหน้าที่เป็นอดีต “มือขวา” ให้กับ ฟูแมนจู ด้วย แต่ด้วยความที่ห่างเหินกับพ่อ เธอจึงเปลี่ยนข้างมาต่อสู้ร่วมกับชางชีในที่สุด
(อ่านต่อ “บทบาทของ ‘เท็นริงส์’ ในภาพยนตร์” หน้า 2 เลย)