‘อีโลน่า การ์เซีย’ (Ylona Garcia) นักร้อง-นักแต่งเพลงสาวสุดชิควัย 19 ปี เชื้อสายฟิลิปปินส์ที่เกิดในออสเตรเลีย นับเป็นหนึ่งในนักร้องเยาวชนที่มีสไตล์และมีผลงานเพลงที่โดดเด่นที่สุดในวงการเพลงของฟิลิปปินส์ ปัจจุบันเธอมีผู้ติดตามบน Instagram มากกว่า 4.1 ล้านคน และผู้ติดตามบน TikTok อีกเกือบ 1 ล้านคน นอกจากนี้เธอยังมีผู้ฟังรายเดือนบน Spotify มากกว่า 265,000 คน และผู้ติดตามในช่อง YouTube ของเธอ 172,000 คนอีกด้วย

ก่อนหน้านี้เธอได้แนะนำตัวด้วยการปล่อยซิงเกิลมาให้แฟนเพลงได้รู้จักไปบ้างแล้วอย่าง “All That” และ “Don’t Go Changing” เมื่อปี 2021 ล่าสุดเธอต้อนรับปี 2022 ด้วยซิงเกิลใหม่ “Entertain Me” งานเพลงที่เธอร่วมเขียนกับโปรดิวเซอร์ DNA ที่มีเนื้อหาเพลงอย่างตรงไปตรงมา เพลงที่มีพลังและความมั่นใจมาพร้อมกับดนตรีบีทเท่ ๆ ที่เต็มไปด้วยคุณภาพทางดนตรีภายใต้สังกัด PARADISE RISING ซึ่งเป็นค่ายย่อยของ 88rising Music นอกจากนี้ “Entertain Me” ยังเป็นบทเพลงที่ใช้ในการเปิดตัว ‘Neon’ เอเจนต์สาวเชื้อสายฟิลิปปินส์คนแรกของเกม first-person shooting ‘Valorant’ อีกด้วย

Beartai Buzz ได้มีโอกาสพูดคุยกับอีโลน่าถึงบทเพลงและมุมมองที่น่าสนใจในชีวิตของเธอ มาทำความรู้จักเธอให้มากขึ้นกับบทสนทนานี้กัน

เรามาเริ่มกันที่เพลงล่าสุดของคุณ “Entertain Me” อะไรคือแรงบันดาลใจเบื้องหลังเพลงนี้

ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะที่ถามคำถามนี้ เพลง “Entertain Me” เป็นเพลงที่เกี่ยวกับการตระหนักถึงสถานการณ์บางอย่างที่เรากำลังเผชิญอยู่และรู้ตัวดีว่าอะไรคือสิ่งที่เราอยากจะทำ เหตุผลที่ฉันเขียนเพลงนี้ก็เพราะนั่นคือคนในแบบที่ฉันต้องการจะเป็น นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการเป็นมาโดยตลอด และฉันเขียนมันขึ้นมาก็เพราะว่ามีหลายครั้งที่ฉันรู้สึกว่าตัวเองมีความมั่นใจไม่พอที่จะเชื่อมั่นในสิ่งที่ฉันกำลังรู้สึกอยู่ ฉันก็เลยเขียน “Entertain Me” ขึ้นมาเพื่อเป็นสิ่งเตือนใจให้ฉันทำตัวเป็นยัยตัวแสบในแบบที่ฉันสามารถเป็นได้

ตกหลุมรักเสียงดนตรีตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครเป็นแรงบันดาลใจในการเป็นนักร้องนักแต่งเพลงสำหรับคุณ

ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองนั้นรักดนตรีตั้งแต่อายุ 9 ขวบค่ะ จนกระทั่งมาถึงตอนที่ฉันอายุ 16 ปี ฉันเริ่มมีความรู้สึกว่าฉันไม่อยากทำมันอีกแล้วเพราะฉันรู้สึกว่าฉันไม่ได้กำลังทำมันเพื่อตัวฉันเอง แต่สุดท้ายฉันก็พบทางที่ทำให้ฉันได้กลับมาสนใจทำมันอีกครั้ง และครั้งนี้ฉันก็ทำมันอย่างเต็มที่และจริงจังสุด ๆ เลยค่ะ

ส่วนคนที่เป็นแรงบันดาลใจของฉันนั้นมีมากมายหลายคนเลยค่ะ คนที่เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ฉันอยากเป็นศิลปินนั้นมีคริสตีนา อากีเลลา (Christina Aguilera) ไมเคิล แจ็กสัน (Michael Jackson) เอ็มมิเน็ม(Eminem) วง Hers และ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) และก็มีอีกเยอะเลยค่ะ

คุณมีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย ตอนอายุ 13 ได้ออกรายการ ‘Pinoy Big Brother’ และได้ออกอัลบั้มแรกในชีวิต ‘My Name is Ylona Garcia’ ตอนอายุ 14 ปี หลังจากนั้นก็เติมโตมาและใช้เวลาในช่วงวัยรุ่นไปท่ามกลางแสงสปอตไลต์ คุณรู้สึกอย่างไรในช่วงเวลานั้นและจัดการกับเรื่องพวกนี้และหาสมดุลของชีวิตได้ยังไง

การที่ฉันรับมือกับเรื่องต่าง ๆ ได้ดีนั่นเป็นเพราะครอบครัวของฉันเลยค่ะ ฉันรู้สึกซาบซึ้งใจและขอบคุณครอบครัวของฉันมาก ๆ ที่อยู่เคียงข้างคอยดูแลและเป็นผู้ให้การสนับสนุนเป็นอันดับแรกในชีวิตของฉันมาโดยตลอด และไม่ได้เพียงแค่ในเรื่องอาชีพของฉันเท่านั้นแต่ยังรวมถึงทุก ๆ เรื่อง การที่ฉันเติบโตมาท่ามกลางแสงไฟตั้งแต่อายุ 13 ปีในอุตสาหกรรมบันเทิงของฟิลิปปินส์ ฉันรู้สึกว่ามันค่อนข้างมหัศจรรย์จริง ๆ และมันทำให้ฉันได้พบเจอกับเพื่อน ๆ ที่ยังคบหากันมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งฉันต้องขอบคุณพวกเขาเหล่านี้มาก ๆ ด้วยเช่นกันค่ะ

หลังจากนั้นในปี 2020 คุณก็วางมือจากชีวิตที่วุ่นวายและกลับไปใช้ชีวิตธรรมดา ได้ไปทำงานในร้านแมคโดนัลด์ คุณช่วยเล่าเรื่องราวในช่วงเวลานั้นให้ฟังหน่อยได้ไหม ทำไมคุณถึงไปทำงานในร้านแมคโดนัลด์และคุณได้เรียนรู้อะไรจากประสบการณ์นี้

ฉันอยากทำงานในร้านแมคโดนัลด์มาโดยตลอด ซึ่งฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม รู้แต่ว่าอยากทำมากกก (หัวเราะ) ฉันคิดว่ามันเป็นโอกาสดีที่ฉันจะได้ใช้เวลาทำอะไรบ้างในช่วงล็อกดาวน์ฉันเลยตัดสินใจไปสมัครงานเลย และสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากการทำงานที่แมคโดนัลด์ก็มีตั้งแต่การทอดเฟรนช์ฟรายส์ การเสิร์ฟน้ำในจังหวะที่รวดเร็ว การเผชิญหน้าและแก้ปัญหาในเวลาอันรวดเร็วค่ะ

ปกติแล้วคุณมีวิธีการเขียนเพลงยังไง

บางครั้งมันก็ผุดขึ้นมาในหัวฉันเองและฉันก็จะรีบเขียนมันลงไปในสมุดจดหรือไม่ก็ในโทรศัพท์มือถือและฉันก็แค่เขียนต่อไปจากที่ได้จดเอาไว้ค่ะ หลาย ๆ ครั้งมันมักจะเป็นอะไรที่เด้งขึ้นมาในหัวของฉันเองหรือไม่ก็จากประสบการณ์ที่ฉันอยากจะบอกคนอื่น ๆ ด้วยความหวังว่ามันจะช่วยพวกเขาในสถานการณ์ทั้งหลายได้ค่ะ

คุณมีแผนจะออกอัลบั้มกับทางค่าย ‘Paradise Rising’ เร็ว ๆ นี้ไหม

ใช่ค่ะ ในเร็ววันนี้ค่ะ

ในปีนี้ ?

หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นค่ะ (หัวเราะ)

ในเพลง “All That” คุณร้องว่า “So I left all that shit back in 2020” เราเลยอยากรู้ว่าสำหรับปี 2021 อะไรคือสิ่งที่คุณทิ้งไปและอะไรคือสิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากปีนี้

สิ่งที่ฉันทิ้งไว้ในปี 2021 คือนิสัยที่ไม่ดีเกี่ยวกับการคิดมากจนเกินไป และการไปในที่ที่ไม่ดีทั้งหลาย หรือการกลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นบ้างในบางครั้ง  ส่วนสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ก็คือ มันไม่เป็นไรเลยที่เราจะขอ ช่วยเหลือจากผู้อื่นและมันเป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องผ่านการต่อสู้ในชีวิต เพราะถ้าคุณไม่ผ่านการต่อสู้ใด ๆ เลยในชีวิต ฉันคิดว่ามันคงไม่มีการเติบโตมากนักสำหรับคุณ ฉันแค่อยากจะเป็นคนที่ดีที่สุดในช่วงเวลาที่ฉันมีอยู่ในตอนนี้ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราในวันพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นฉันจะใช้ชีวิตให้เป็นตัวฉันในเวอร์ชันที่ดีที่สุด และนั่นคือสิ่งที่ฉันรักที่สุดในปี 2021

ปัญหาแบบไหนหรือในกรณีไหนที่คุณจะต้องความช่วยเหลือ

บางครั้งฉันก็ไม่แน่ใจในการโพสต์อะไรลงไปบนโซเชียลมีเดีย ฉันมักจะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นฉันจึงมักจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ หรือไม่ฉันก็จะถามแม่ว่าเธอคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ส่วนสาเหตุที่ฉันอยากจะโพสต์อะไรออกไปบ้าง ก็เพื่อที่ฉันจะได้กลับบ้านและบอกพ่อแม่ของฉัน บอกครอบครัวของฉันว่าฉันอยากจะภูมิใจกับสิ่งที่ฉันได้เผยแพร่ออกไปในโลกนี้ ฉันก็เลยมักจะถามพวกเขาว่าพวกเขาคิดว่าโอเคไหม และเรื่องพวกนี้ก็มักเป็นปัญหาปกติที่ฉันมักจะไปหาพวกเขาเพื่อขอความช่วยเหลือ

อะไรคือเป้าหมายของคุณในปี 2022 นี้

เป้าหมายของฉันสำหรับปี 2022 มีหลายอย่างเลยค่ะ ฉันตั้งใจที่ปล่อยอัลบั้มออกมาในปีนี้ ได้ทำงานอะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการแสดง และมอบของขวัญให้กับครอบครัวของฉันนั่นก็คือบ้านที่ฉันสัญญาไว้กับพวกเขาค่ะ และก็ขอให้ฉันได้มีโอกาสพบปะกับแฟน ๆ แบบต่อหน้าค่ะ

สุดท้ายคุณอยากบอกอะไรกับแฟน ๆ ชาวไทย

สวัสดีค่ะแฟน ๆ ชาวไทย ฉันรักพวกคุณมาก ๆ ค่ะ และหวังว่าจะได้เจอกับพวกคุณในเร็ว ๆ ๆ ๆ วันนี้ ในตอนที่พวกเราทุกคนปลอดภัยกันแล้วเนอะ ฉันอยากจะไปร้องเพลงให้พวกคุณฟังและอยากจะพาพวกคุณไปทานข้าวกลางวันด้วยกันด้วยนะ รักษาสุขภาพด้วยและไว้เจอกันค่ะ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส