อย่างที่แฟน ๆ Fast ทราบกันดีว่าใน Fast X นี้ จะแนะนำวายร้ายตัวใหม่นามว่า ดังเต้ เรเยส ที่ได้ เจสัน โมมัว (Jason Momoa) ซึ่งเป็นลูกชายของ เฮอร์นัน เรเยส ตัวร้ายจาก Fast Five (2011) ที่โดนดอมและฮอบส์จัดการไป ในภาคนี้เขาจึงกลับมาทวงแค้นกับดอมและครอบครัว นั่นจึงทำให้เนื้อหาในภาคนี้มีหลายส่วนเชื่อมโยงกับ Fast Five และภาคอื่น ๆ ถ้าไม่มีเวลาที่จะหยิบภาคเก่า ๆ มาไล่ย้อนดูเพื่อรื้อฟื้นความทรงจำ ผู้เขียนจึงเลือกหยิบยก 16 ประเด็นสำคัญที่ควรรู้ก่อนไปดู “Fast X: Part I” มาให้อ่านกับแบบรวบรัดประหยัดเวลากันไปเลย

1.เฮอร์นัน เรเยสเป็นเจ้าพ่อผู้ค้ายาเสพติดที่เป็นตัวร้ายใน Fast Five

เฮอร์นัน เรเยสเป็นนักการเมือง นักธุรกิจ และเจ้าพ่อยาเสพติดชาวโปรตุเกส-บราซิลที่เป็นจอมฉ้อฉลและไร้ความปรานี ซึ่ง โดมินิก โทเร็ตโต และทีมของเขาต้องเผชิญหน้าเข้ากับเรเยส เมื่อพวกเขาวางแผนปล้นเพื่อขโมยเงิน 100 ล้านดอลลาร์จากเรเยส สานต่อเป็นฉากลากตู้เซฟสนั่นเมือง ก่อนจะลงเอยด้วยการที่ ลุค ฮอบส์ เป็นผู้ลั่นไกลงมือสังหารเรเยส เพื่อแก้แค้นให้ลูกทีมของเขา กลายเป็นความแค้นสั่งสมอันยาวนานให้กับ ดังเต้ เรเยส ลูกชายที่กลับมาแก้แค้นดอมและพลพรรคในภาคนี้

2.ดอมและเล็ตตี้แต่งงานกัน

ใน Furious 7 หนังบอกเป็นนัยว่า ดอมและเล็ตตี้ (มิเชลล์ โรดริกเกซ) แต่งงานกันแล้วที่ Los Bandoleros ในสาธารณรัฐโดมินิกัน เหตุการณ์นี้ถูกเล่าไว้ในหนังสั้น 20 นาที ที่ วิน ดีเซล เขียนบทและกำกับเอง เพื่อเป็นบทนำสำหรับ Fast and Furious 4  (2009) ในงานแต่งนี้ เราจะเห็นดอมและเล็ตตี้ในช่วงหลังงานแต่ง ทั้งคู่นั่งไปด้วยกันในรถสีขาว เล็ตตี้สวมผ้าพันคอและผ้าคลุมสีขาวโบกมือไปรอบ ๆ ทั้งคู่ไม่สวมแหวนแต่งงาน แต่ใช้โซ่คล้องมือเข้าด้วยกันแทนความหมายของการผนึกพันธะเข้าด้วยกัน

3.ในจักรวาล Fast นั้น ไบรอัน โอ’คอนเนอร์ ยังมีชีวิตอยู่

แม้เราจะทราบกันดีว่า พอล วอล์คเกอร์ (Paul Walker) เสียชีวิตไปเมื่อปี 2013 ด้วยวัย 40 ปี แต่ทางทีมงานสร้างก็ตกลงกันว่า จะไม่ฆ่าตัวละครไบรอันไปด้วย แต่เลือกเล่าเรื่องว่า เขาขอไปใช้ชีวิตครอบครัวอย่างสงบกับมีอาและลูก ๆ ในตอนจบ Furious 7 (2015) ในฉากปิดเรื่องของ Fast 9 เรายังได้เห็นรถของไบรอันขับเข้าไปในบ้านของดอม เพื่อร่วมทานบาร์บีคิวกับเพื่อน ๆ เพื่อเผยเป็นนัยว่าไบรอันยังมีชีวิตอยู่

4.ลูกชายของดอมชื่อว่า ลิตเทิลไบรอัน

เมื่อดอมเข้าใจว่าเล็ตตี้ถูกฆ่าไปใน Fast 4 Fast & Furious แล้ว ดอมก็เริ่มคบหากับเอเลนา (เอลซา พาตากี) ใน Fast Five พอมาถึง Fast 6 ดอมก็ได้รับรู้ว่าเล็ตตี้ยังมีชีวิตอยู่ แต่ขณะเดียวกันเอเลนาก็รู้ตัวว่าเธอตั้งท้องกับดอม แต่ก็เก็บเป็นความลับ เพื่อรอเวลาที่เหมาะสมที่จะบอกความจริงเรื่องนี้กับดอมและเล็ตตี้ แล้วใน The Fate of the Furious หรือ Fast 8 เราก็ได้เห็นลูกชายของดอมกับเอเลนา และใน Fast X เราน่าจะได้เห็นไบรอันน้อย ในวัยที่โตขึ้นอีกหน่อยล่ะ

5.ไซเฟอร์เป็นคนสั่งฆ่าเอเลนา ภรรยาของดอมและแม่ของไบรอันน้อย

ไซเฟอร์ เป็นผู้ก่อการร้ายไซเบอร์และแฮกเกอร์อัจฉริยะ รับบทโดย ชาร์ลิซ เธอรอน เธอเป็นวายร้ายตัวฉกาจในแฟรนไขส์ Fast นับตั้งแต่ Fast 6 เป็นต้นมา เธอเป็นคนที่ทำให้ดอมหักหลังกับทั้งครอบครัวของเขาใน The Fate of the Furious เพราะเธอลักพาตัวเอเลนาและไบรอันน้อยมาเป็นตัวประกัน แล้วสุดท้ายเธอก็เป็นคนสั่งฆ่าเอเลนาต่อหน้าต่อตาดอม ทำให้เราเห็นว่าเล็ตตี้ต้องเป็นผู้เลี้ยงดูไบรอันน้อยใน F9 ซึ่งตัวเล็ตตี้เองก็มีความแค้นต่อไซเฟอร์ เพราะเธอไม่พอใจที่เห็นไซเฟอร์จูบดอมต่อหน้าเธอ ใน F9 เราได้เห็นเธอใช้ไหวพริบและสติปัญญาจนสามารถหลบหนีไปได้ ไม่มีใครรู้ว่าไซเฟอร์อยู่ที่ไหน แต่เราจะเห็นเธอกลับมาใน Fast X

6.ดอมและมีอา ยังมีพี่น้องอีกคนคือ เจคอบ ทอเร็ตโต

ในช่วงที่ดอมยังเป็นว้ยรุ่นนั้น เขาเป็นคนไล่ เจคอบ (จอห์น ซีนา) น้องชายของเขาออกจากครอบครัว เพราะเข้าใจว่าเจคอบเป็นต้นเหตุให้พ่อต้องเสียชีวิต จนผ่านมาถึงเหตุการณ์ใน F9 ที่เจคอบได้อธิบายความจริงให้ดอมได้รู้ว่า แท้จริงแล้ว พ่อต้องการแกล้งแพ้ในการแข่งรถเพื่อเอาเงินก้อนโตไปปลดหนี้ จึงขอให้เจคอบดัดแปลงรถระหว่างที่เข้าพิต แต่กลายเป็นว่าการปรับแต่งของเจคอบนั้นทำให้รถระเบิดและพ่อเสียชีวิต ในตอนท้ายของ F9 ดอมและเจคอบได้ปรับความเข้าใจกันและดอมยินดีต้อนรับน้องชายกลับสู่ครอบครัว แต่แล้วเจคอบก็แยกทางออกไปอีกครั้ง เพราะเขาต้องหนีซ่อนตัวเองจากใครสักคน

7.ปัจจุบันไม่มีใครรู้ว่า มิสเตอร์โนบอดี้ อยู่แห่งหนใด

มิสเตอร์โนบอดี้ ชื่อฉายาของเจ้าหน้าที่รัฐบาล รับบทโดย เคิร์ต รัสเซล (Kurt Russell) เขาเป็นผู้ที่ชื่นชอบฝีมือการทำงานของดอมและครอบครัว จึงมอบหมายภารกิจกอบกู้โลกให้พวกเขา เริ่มตั้งแต่ Furious 7 มาจนถึงช่วงต้นของ F9 ที่ดอมและพรรคพวกได้รู้ว่าเครื่องบินของมิสเตอร์โนบอดี้ตก ระหว่างเดินทางส่งตัวไซเฟอร์ ทำให้ไม่มีใครทราบชะตากรรมของมิสเตอร์โนบอดี้ และยังเผยให้เรารู้อดีตของเจคอบ น้องชายของดอมด้วยว่า เขาเคยทำงานให้กับมิสเตอร์โนบอดี้มาหลายปี ก่อนจะแปรพักตร์มาเป็นฝ่ายร้าย

8.ลิตเทิลโนบอดี้ เป็นมือขวาของ มิสเตอร์โนบอดี้

ลิตเทิลโนบอดี้เปิดตัวใน The Fate of the Furious รับบทโดย สก็อตต์ อีสต์วูด (Scott Eastwood) ลูกชายของ คลินต์ อีสต์วูด เขาเข้าร่วมแฟรนไชส์ในฐานะของเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่เปิดเผยตัวตน เช่นเดียวกับ มิสเตอร์โนบอดี้ ดอมและครอบครัวเลยตั้งฉายาให้เขาว่า ลิตเทิลโนบอดี้ ตามอย่างมิสเตอร์โนบอดี้ ที่เป็นลูกพี่ของเขา สก็อตต์ อีสต์วูด ประกาศผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวว่าเขาจะกลับมาใน Fast X

9.มิสเตอร์โนบอดี้ ช่วยจัดฉากการตายของฮาน

ในแฟรนไชส์ Fast นั้น แทบไม่มีใครตายจริง กลายเป็นอีกประเด็นที่แฟนหนังล้อกันอย่างมาก เช่นเดียวกับ ฮาน บทของ (ซุง คัง) ที่เราเห็นว่าเขาตายไปแล้วในตอนท้ายของ fast 6 (2013) เมื่อเราได้เห็นรถเมอร์เซเดส เบนซ์ พุ่งเข้าชนมาสด้า RX7 ของฮานอย่างรุนแรงจนระเบิด ซึ่งเผยต่อมาว่า ฮานโดนลอบสังหารโดย เด็กคาร์ด ชอว์ บทของ เจสัน สตาแธม เพราะชอว์ต้องการแก้แค้นดอมและครอบครัว ที่ทำให้ โอเวน ชอว์ น้องชายของเขาต้องบาดเจ็บถึงขั้นโคมา เขาเลยมาลงมือกับฮานแทน

พอมาถึง F9 ฮานก็กลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง เขาเผยความจริงว่า มิสเตอร์โนบอดี้เป็นคนช่วยจัดฉากการตายให้กับเขา ที่เราได้เห็น มาสด้า RX7 ระเบิดนั้น ตอนนั้นเขาไม่ได้อยู่ในรถแล้ว แต่ไม่มีการลงรายละเอียดว่า มิสเตอร์โนบอดี้ นำร่างฮานออกมาจากรถได้อย่างไร มีแต่การเผยเป็นนัยว่า มิสเตอร์โนบอดี้นั้นเก่งมาในการสร้างเล่ห์กล

10.จีเซลคนรักของฮาน เสียชีวิตใน Fast6

ในฉากแอ็กชันสุดระทึกใน Fast6 นั้น ฮานและจีเซลได้ร่วมปฏิบัติการกัน ทั้งคู่เกาะอยู่บนรถที่ถูกเครื่องบินลากด้วยสลิง จีเซลพลาดท่าจะหลุดจากตัวรถ แต่ฮานคว้ามือเธอไว้ได้ทัน แต่แล้วจีเซลก็มองเห็นคนร้ายโผล่มาด้านหลังของฮาน เธอตัดสินใจปล่อยมือจากฮาน นั่นเท่ากับเป็นการยอมสละชีพตัวเอง เพื่อที่เธอได้จะได้คว้าปืนมาสาดกระสุนใส่คนร้ายระหว่างที่ร่างเธอลอยอยู่กลางอากาศ ช่างเป็นฉากพลีชีพที่เท่มาก แต่เราก็ไม่ได้เห็นจุดจบของเธอ เพียงคาดเดาไปว่า ร่างเธอจะต้องลงกระแทกพื้นด้วยความเร็วสูงและเสียชีวิตเป็นแน่ ฮานโทษตัวเองว่าเขาเป็นสาเหตุการตายของจีเซล ซุง คัง เผยความรู้สึกของฮาน ตัวละครของเขาว่า “ฮานเดินไปเดินมาพร้อมกับความรู้สึกผิดในใจ เขาควรจะต้องตายไม่ใช่จีเซล”

11.จีเซลมีความเกี่ยวพันกับมิสเตอร์โนบอดี้

ดูเหมือนว่าตั้งแต่แฟรนไชส์ Fast แนะนำตัวมิสเตอร์โนบอดี้ขึ้นมานี่ แล้วนายคนนี้จะมีความเกี่ยวพันกับหลายตัวละครในครอบครัว Fast อย่างมาก นอกจากเจคอบ, ฮาน แล้ว ยังมีการเปิดเผยใน F9 ว่า จีเซลเองก็เคยทำงานให้กับมิสเตอร์โนบอดี้ด้วย ในช่วงหนึ่งที่มิสเตอร์โนบอดี้ทำงานให้กับ CIA เพื่อทำลายขบวนการค้ายาในอเมริกากลาง แต่พอจีเซลเสียชีวิตไป มิสเตอร์โนบอดี้เลยทาบทามให้ฮานมาทำงานกับเขาด้วย เพราะเคยเห็นฮานทำงานกับจีเซลมาแล้ว ในช่วงที่ฮานทำงานกับมิสเตอร์โนบอดี้นั้น ฮานได้พบกับเอลลี่ เด็กสาวที่พ่อและแม่ของเธอโดนผู้ก่อการร้ายฆ่าตาย พอฮานรู้ว่าเธอตกเป็นเป้าหมายต่อไป จึงรับอุปการะเธอไว้เป็นลูกบุญธรรม

12.เมื่อคนร้ายอย่าง เด็กคาร์ด ชอว์ กลายเป็นพระเอก

ในฉากหลังเอนด์เครดิตใน F9 เราได้เห็นฮานและ เด็กคาร์ด ชอว์ เผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรก เราได้เห็นชอว์แสดงสีหน้าประหลาดใจ เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู พอเปิดมาแล้วก็พบว่าฮานที่มาเยี่ยมเขา แล้วภาพก็ตัดไปโดยที่ไม่ได้เห็นทั้งคู่เจรจากัน ฉากนี้เป็นหนึ่งในความพยายามของทีมงานผู้สร้าง ที่จะล้างภาพตัวร้ายให้กับชอว์ เพราะในอดีตนั้นเขาก้าวเข้าสู่แฟรนไชส์ในฐานะตัวร้ายของเรื่อง เป็นผู้ที่ลงมือสังหารฮาน จนทำให้แฟน ๆ พากันตั้งแฮชแท็ก #JusticeforHan หลังจากที่เห็นว่าผู้สร้างกำลังจะลืมความผิดร้ายแรงที่ชอว์เคยกระทำให้ แล้วพยายามจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ให้เขาเป็นพระเอก

จัสติน ลิน (Justin Lin) ผู้กำกับ F9 เผยว่า ที่จริงแล้วบทของฮานก็ยังคงตายจากแฟรนไชส์ Fast ตลอดไป ถ้าไม่มีฉากที่ชอว์โผล่มาร่วมวงบาร์บีคิวในตอนท้ายของ Fast 8 เพราะฉากนั้นล่ะ จุดประเด็นให้แฟน ๆ Fast รู้สึกโกรธเคืองแทนฮาน แม้ว่าผู้เขียนบทก็พยายามสร้างวีรกรรมความดีให้กับชอว์ ด้วยการเขียนให้เขาได้ช่วยชีวิตไบรอันน้อยไว้ แต่ดูเหมือนว่าแฟน ๆ ก็ยังคงไม่ให้อภัยกับชอว์ และไม่พอใจที่ได้เห็นเขามาเข้าร่วมครอบครัวกับดอม ทำให้แฟน ๆ รู้สึกสับสนกับสถานะของตัวละครใน Fast และการทำแบบนี้กับชอว์ก็เท่ากับเป็นการไม่ให้เกียรติต่อการตายของฮาน

ก่อนหน้านี้ ทางทีมผู้สร้างเองก็พยายามสร้างภาพลักษณ์ให้กับ เด็กคาร์ด ชอว์ มาโดยตลอด แม้กระทั่งในหนัง Hobbs & Shaw ปี 2019 ที่ชอว์ได้ยกระดับขึ้นมาเป็นตัวละครนำ ก็มีบทพูดที่ชอว์ได้เอ่ยกับฮอบส์ว่า “มีบางเรื่องที่ฉันได้เคยทำความผิดไป และสมควรต้องชดใช้” คริส มอร์แกน ผู้เขียนบทได้เผยเองเลยว่า ประโยคนี้นั้น เขาเขียนขึ้นเพื่อต้องการสื่อให้ผู้ชมได้รับรู้ว่า ชอว์ได้เอ่ยถึงฮาน และมันอยู่ในใจเขาตลอดเวลา มันเป็นความรู้สึกทรมานและเขาพยายามที่จะชดใช้มัน

13.ดอมได้สานสัมพันธ์อันดีกับ “ควีนนี่” แม่ของ เด็กคาร์ด ชอว์


ใน The Fate of the Furious ดอมได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกับ ควีนนี่ หัวหน้าครอบครัวชอว์ ที่รับบทโดย เฮเลน เมียร์เรน ในภาคนี้เราได้เห็น ควีนนี่ออกคำสั่งให้เด็กคาร์ด และ โอเวน ลูกชายทั้งสองของเธอ ให้ร่วมมือกันช่วยลูกชายของดอมจากน้ำมือของไซเฟอร์ เพราะเธอถือว่า ไซเฟอร์ เป็นศ้ตรูของครอบครัวเธอและดอม ควีนนี่ยังมี “เลย์ซา” บทของ คาร์ดี บี ที่เป็นหนึ่งในทีมงานของเธอเอง เลย์ซาเองก็เคยรู้จักดอมมาแล้วในฉากขโมยแก๊สในสาธารณรัฐโดมินิกันใน Fast 4

14.ความบาดหมางระหว่างพี่น้องชอว์ กับ ไซเฟอร์

แม้ว่า โอเวน และ เด็กคาร์ด ชอว์ จะถูกแนะนำตัวในฐานะวายร้ายใน Fast 6 และ Furious 7 ตามลำดับ แต่เนื้อหาของหนังก็มาเปิดเผยให้เรารู้ภายหลังว่า ไซเฟอร์ได้มาทาบทามเด็กคาร์ดให้ไปร่วมงานกับเธอ แต่เมื่อเด็กคาร์ดปฏิเสธไซเฟอร์ไป เธอถึงหันไปขู่โอเวนให้ไปทำงานกับเธอแทน แล้วก็ลงเอยด้วยการที่โอเวนพลาดท่าบาดเจ็บถึงขั้นโคมา ด้วยเหตุนี้ทำให้เด็กคาร์ดมีความแค้นต่อไซเฟอร์ และหันมาช่วยดอมจัดการกับไซเฟอร์ใน The Fate of the Furious
และทำให้เด็กคาร์ดได้เผชิญหน้ากับไซเฟอร์ในช่วงสั้น ๆ ขณะที่เขาบุกไปชิงตัวไบรอันน้อย เด็ดคาร์ดเอ่ยปากกับไซเฟอร์ว่า “เขามั่นใจว่าจะต้องทำให้ไซเฟอร์สำนึกให้ได้ว่าได้ทำให้ครอบครัวชอว์ต้องเผชิญกับอะไรไปบ้าง” แต่เด็กคาร์ดก็ยังไม่ได้ลงมือชำระแค้น เพราะไซเฟอร์ก็ชิงกระโดดร่มหนีไปก่อน

15.สร้อยไม้กางเขนของดอม เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของแฟรนไชส์ Fast


เครื่องประดับเพียงชิ้นเดียวที่ดอมหวงแหนและแฟน ๆ จะเห็นเขาห้อยคออยู่เป็นประจำ ก็ได้ทำหน้าที่ประหนึ่งสัญลักษณ์ของแฟรนไชส์ Fast ในหลายช่วงหลายตอนสำคัญ เคยผ่านมือตัวละครสำคัญอย่าง เล็ตตี้ ไปจนถึง เด็กคาร์ด ชอว์ ใน The Fate of the Furious เราได้เห็นดอมแขวนสร้อยไม้กางเขนเงินนี้ไว้เหนือห้องขังของเอเลนา เพื่อสื่อว่ากางเขนนี้จะทำหน้าที่ปกป้องคนที่เขารัก ข้ามมาจนถึงตอนท้ายของ F9 เราได้เห็นกางเขนนี้อยู่กับเล็ตตี้ เมื่อเธอมอบให้กับไบรอันน้อย แล้วบอกให้เขาเก็บรักษาไว้ให้ดี แฟน ๆ น่าจะได้เห็นบทบาทของสร้อยไม้กางเขนนี้อีกครั้งใน Fast X

16.God’s Eye หรือ ดวงตาพระเจ้า

God’s Eye เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะถูกสร้างขึ้นมาด้วยเจตนาดีโดย แรมซีย์ บทบาทของ นาธาลี เอ็มมานูเอล เธอสร้างขึ้นมาด้วยเจตนาดีว่า มันสามารถตามหาตัวบุคคลใดก็ได้บนโลกมนุษย์นี้ในเวลาไม่เกิน 4 นาที เราได้รู้จัก God’s Eye พร้อม ๆ กับแรมซีย์ ใน Furious 7 แต่ด้วยความที่เป็นอุปกรณ์อัจฉริยะนี้ ทำให้ God’s Eye ได้กลับมาเป็นประเด็นสำคัญอีกครั้งใน The Fate of the Furious เมื่อมันเป็นที่ต้องการของเหล่าอาชญากรตัวเอ้ของโลกอย่างไซเฟอร์ ที่ต้องการนำ God’s Eye ไปใช้ในทางชั่วร้าย ก็เป็นไปได้ว่า God’s Eye น่าจะกลับมามีบทบาทอีกครั้งในอนาคตของ Fast

ที่มา : insider The Fast and the Furious Wiki screenrant IMDB