[su_heading size=”22″]หลัง Goosebumps (2015) ภาคแรกประสบความสำเร็จด้านรายได้และกลายเป็นหนังดูสนุกที่ได้ทั้งเฮฮา และมีอารมณ์หลอนๆสะดุ้งๆจนได้ใจแฟนหนังตลกสยองขวัญไปเต็มๆ โครงการภาคต่อจึงต้องมา แต่คราวนี้ตัวหนังไม่ได้โปรโมต แจ็ค แบล็ค ในบทนำเหมือนภาคแรก แต่ไปเน้นสเปเชียลเอฟเฟกต์ปลุกผีวันฮัลโลวีนกันออกมาให้ป่าช้าแตกแทน [/su_heading]
[su_highlight background=”#9040ff”]หลังจาก อาร์แอล สไตน์ (แจ๊ค แบล็ค) หายไปอย่างลึกลับ เจ้าหุ่น สแลปปี้ (ให้เสียงหลอนๆกวนๆโดย มิค วินเกิร์ต) ได้ทีหลอกให้ ซอนนี (เจเรมี เรย์ ไทเลอร์) และ แซม (คาลีล แฮร์ริส) คู่หูจังก์โบร์ส ที่ไปเก็บขยะ ณ. บ้านเก่าของสไตน์ ร่ายคาถาปลุกชีพมันขึ้นมา และเมื่อเห็นหนทางจะสร้างครอบครัว สแลปปี้ จึงวางแผนใช้หอคอยเทสลาของเมืองในการปลุกชีพสัตว์ประหลาดในฮัลโลวีนมาหลอกหลอนชาวเมืองอีกครั้ง งานนี้ ซอนนี แซม และ ซาร่า (เมดิสัน ไอส์แมน) ต้องร่วมมือกันหยุดยั้งเจ้าสแลปปี้ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป [/su_highlight]
สำหรับหนังภาคนี้เปลี่ยนผู้กำกับมาเป็น อารี แซนเดล ที่เครดิตเคยกำกับหนังและซีรีส์วัยรุ่นมาบ้าง โดยผลงานล่าสุดคือ When we first met (2018) หนังของเน็ตฟลิกซ์มาบอกเล่าเรื่องราวในภาคนี้ ซึ่งถ้าว่ากันตามเนื้อผ้า แซนเดล ก็ทำหน้าที่ตัวเองได้ดีพอสมควร เพราะสามารถคงอารมณ์ ฮาๆ หลอนๆ จากหนังภาคแรกได้ดี ทำให้หนังแทบไม่มีช่วงน่าเบื่อเลย อีกทั้งยังจัดเต็มสเปเชียล เอฟเฟกต์ปลุกสัตว์ประหลาดออกมาเพียบ ชวนตื่นตาตื่นใจไม่น้อย แต่ด้วยเวลาของหนังที่จำกัดตัวเองแค่ 90 นาที (รวมเครดิต) ผลลัพธ์ของมันเลยกลายเป็นว่า ไอ้ที่ปลุกๆผีบ้าป่าช้าแตกกันมา กลับมีบทบาทจริงๆไม่กี่ตัว นอกนั้นเหมือนเป็นงานโชว์เอฟเฟกต์เฉยๆไปอย่างน่าเสียดาย
ซี่งปัญหาดังกล่าวปรากฎแผลมาตั้งแต่บทหนังของ ร็อบ ลีเบอร์ ที่คิดตัวละครน่าสนใจเพียบแต่ขาดเรื่องราว-ปมขัดแย้งที่น่าสนใจมากพอจะขับเคลื่อนให้เราเอาใจช่วยตัวละคร โดยหนังเปิดเรื่องได้เชยระเบิด ด้วยเสียงบรรยายของ ซารา ที่กำลังครุ่นคิดบทความสอบเข้ามหาวิทยาลัยโคลัมเบียเกี่ยวกับความกลัว แต่หนังก็ดันไม่ได้ให้ข้อมูลหรือสร้างปมเกี่ยวกับความกลัวให้เราได้ร่วมลุ้นไปกับเธอ นอกจากเรื่องแฟนหนุ่มที่มาเคาะห้องหวังกินตับเธอเท่านั้น ยังดีที่หนังสร้างตัวละครที่มีสีสันอย่างซอนนี และ แซม มาต่อกรกับ สแลปปี้ ให้เราได้ลุ้นได้ฮากับศึกระหว่างเด็กเนิร์ดกับหุ่นผีได้อย่างสนุกสนาน
อีกจุดบอดสำคัญคือการที่หนังแทบไร้ดาราแม่เหล็กในบทนำ แม้จะเห็น เคน จอง จาก The Hangover มาเรียกเสียงฮาบ้าง แต่หนังก็แค่เชิญมาปรากฎตัวไม่กี่ฉากจริงๆ แถมนักแสดงนำอย่าง เมดิสัน ไอส์แมน ยังไร้เสน่ห์สิ้นเชิงเมื่อเทียบกับ นางเอกภาคแรก ยังดีที่หนังได้ คาลีล แฮร์ริส เจ้าหนูผิวสีลีลาพริ้วในบทแซม ที่มักพาเราไปเจอความระทึกได้ตลอดเรื่องนั่นแหละที่พอเห็นอนาคตหน่อย ซึ่งหนังจบโดยทิ้งเชื้อภาค 3 ไว้ซึ่งคงต้องดูว่างานนี้ โซนี่จะได้มีแฟรนไชส์สุดฮิตไว้กินยาวๆแบบ Hotel Transilvania หรือไม่ต้องติดตาม
ตีตั๋วไปฮาไปหลอนได้ที่โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ คลิกเลย
