สำหรับหลายคนที่ชอบหนังผจญภัยล่าสมบัติยุคใหม่ แนวเดียวกันกับหนัง Indiana Jones หรือ The Da Vinci Code น่าจะมีอีกหนึ่งแฟรนไชส์รวมเป็นหนังที่ชอบอยู่ด้วย นั่นคือ National Treasure นำแสดงโดย Nicolas Cage ซึ่งพักหลังถือคติไม่เลือกงานไม่ยากจน รับเล่นแต่หนังเกรดบีที่แทบไม่มีใครรู้จัก ซึ่งก็หวังว่าภาค 3 ของ National Treasure ที่ Disney กำลังเดินเครื่องสร้างอีกครั้งนี้ จะทำให้นักแสดงออสการ์อย่าง Cage ได้กลับมาคืนฟอร์มอีกครั้ง
Diane Kruger และ Nicolas Cage
Nicolas Cage ออกตามล่าสมบัติของสหรัฐอเมริกาในซ่อนอยู่มา 2 ภาคแล้ว
ภาคแรกออกฉายในปี 2004 ทำรายได้รวมทั่วโลกไป 347 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 100 ล้านเหรียญฯ นำแสดงโดย Cage ในบท “เบนจามิน แฟลงคลิน เกตส์” และอีกสองเพื่อนร่วมทีมอย่างนักแสดง Diane Kruger ที่กลายมาเป็นคนรักของตัวละครของ Cage และ Justin Bartha ที่รับบทลูกน้องของเกตส์ที่คอยประดิษฐ์คิดค้นเครื่องมือในการเอาตัวรอดให้ หนังเล่าเรื่องราวของการค้นหาขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในเอกสารประกาศอิสรภาพของผู้ก่อตั้งสหรัฐอเมริกา สมทบด้วยดารารุ่นใหญ่ Jon Voight ในบทพ่อของเกตส์ Christopher Plummer คุณปู่จาก Knives Out รับบทเป็นคุณปู่ของเกตส์ Harvey Keitel ตำรวจที่ตามไล่ล่าจับเกตส์และครอบครัว มีตัวร้ายตลอดกาลที่ตายทุกเรื่อง (แต่เรื่องนี้ไม่ตายนะ) อย่าง Sean Bean
แก๊งนักวิชาการที่ออกมาล่าสมบัติ
Sean Bean รับบทตัวร้ายของเรื่อง
ภาค 2 ปี 2007 ในชื่อตอนว่า Book of Secret เกตส์จะต้องพิสูจน์ว่าบรรพบุรุษของเขาบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับการลอบสังหารประธานาธิบดี Abraham Lincoln ในอดีต ผ่านสมุดบันทึกของตัวละครจอห์น ไวค์ บูทธ ซึ่งในตอนจบนั้นมีการทิ้งเชื้อไว้ถึงสมุดบันทึกลับที่ส่งต่อกันในหมู่ประธานาธิบดี หน้าที่ 47 ที่หายไป ซึ่งทำให้คนดูนึกไปว่าน่าจะเป็นความลับเกี่ยวกับการลอบสังหารประธานาธิบดี John F. Kennedy ก็ไม่รู้ว่าในภาค 3 ที่กำลังพัฒนากันตอนนี้ จะยังกลับไปเล่นกับเรื่องราวนี้เหมือนเดิมหรือไม่ ภาค 2 ทีมนักแสดงเดิมกลับมากันครบ สมทบด้วยนักแสดงออสการ์ Helen Mirren ในบทแม่ของเกตส์ Ed Harris ที่เคยปะทะกับ Cage มาแล้วในหนัง The Rock ที่อำนวยการสร้างโดย Jerry Bruckheimer เหมือนกัน หนังทำรายได้ทั่วโลกไป 457 ล้านเหรียญฯ จากทุนสร้าง 130 ล้านเหรียญฯ ได้กำไรมากพอที่จะสร้างภาคต่อนานแล้ว แต่แฟน ๆ ต้องรอกันมานานถึง 13 ปี
นักแสดงออสการ์ Helen Mirren สมทบทีมล่าสมบัติ
ตัวร้ายของเรื่องรับบทโดย Ed Harris
ผู้อำนวยการสร้างชื่อดัง Bruckheimer จากสองภาคแรกยังคงกลับมาทำหน้าที่เดิม โดยได้ Chris Bremner ผู้เขียนบทของ Bad Boys for Life ที่กำลังจะเป็นความสำเร็จใหม่สุดสัปดาห์นี้บนตารางหนังทำเงิน หลังจากกวาดเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์มากมาย มาปัดฝุ่นเกลาบทให้ใหม่ ซึ่งก็น่าจะเพราะฝีมือดีจน Bruckheimer เชื่อใจคว้าตัวจาก Bad Boys 3 ที่เขาก็อำนวยการสร้างอยู่ด้วยมาทำบทเรื่องนี้นั่นเอง รายงานเปิดเผยว่า Bremner ได้เซ็นสัญญาพัฒนาบทของ Bad Boys 4 และ National Treasure อีก 2 เรื่อง ยังไม่มีการยืนยันว่า Jon Turtletaub ผู้กำกับจากสองภาคแรก ที่เคยกลับมากำกับหนังดังอย่าง The Meg (2018) หนังฉลามยักษ์ไปเมื่อปีก่อน และเคยมีผลงานอย่าง While You Were Sleeping (1995) และ The Sorcerer’s Apprentice (2010) ที่ Cage เล่นเป็นนักเวทย์ จะกลับมากำกับหรือไม่
Cage, Brukheimer และ Turtletaub ผู้กำกับจากสอภาคแรก
หนังยังไม่มีกำหนดเปิดกล้องและยังไม่ได้กำหนดวันฉาย
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส