นับเป็นการห่างหายไปนานถึง 7 ปี สำหรับหนังชุดภาคต่อที่ทำเงินได้ดีมาตลอดอย่าง บุปผาราตรี ของผู้กำกับ ต้อม ยุทธเลิศ สิปปภาค กลับมาคราวนี้พี่ต้อมได้เปิดฉากใหม่ของบุปผาโดยการเปลี่ยนนักแสดงนำคู่บุญที่ถือครองบทนี้มาอย่างยาวนานอย่าง พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ มาเป็น เก้า สุภัสสรา ธนชาต ซึ่งความสวยความฮอตเทียบกับพลอยในยุคเริ่มต้นนั้นถือว่าบารมีพอๆ กันเลยทีเดียว

ส่งต่อเรื่องราวความหลอนจากรุ่นสู่รุ่น บารมีเทียบกันในช่วงเริ่มแสดงนี่สูสีเลยทีเดียว

ส่งต่อเรื่องราวความหลอนจากรุ่นสู่รุ่น บารมีเทียบกันในช่วงเริ่มแสดงนี่สูสีเลยทีเดียว

เส้นเรื่องใหม่ของหนังบุปผานั้นย้ายโลเกชั่นไปไกลถึงเมืองนิเซโกะ ประเทศญี่ปุ่น จากอพาร์ทเม้นท์ออสการ์ ของเจ๊สาม เจ๊สี่ ก็มากลายเป็น ออสการ์ลอดจ์ ของ พี่เน (นาวิน เยาวพลกุล หรือ นาวิน ต้าร์  ที่ในเทรลเลอร์ไม่ได้ปกปิดเลยว่าเขามีด้านดาร์คอยู่) ส่วนวิญญาณหลอนก็กลายมาเป็นรูปแบบผีญี่ปุ่นที่สวมกิโมโนใส่หน้ากากละครโนะถือมีด กับผีเด็กปะแป้ง ที่เรียกว่าถอดแบบมาล้อเลียนจากหนังจูออนทีเดียว และแน่นอนต้องมีบุปผาด้วยแน่ๆ แต่จะมาในรูปแบบไหนอันนี้ต้องลุ้นในหนังเอาเอง

จูออนแบบไม่ปกปิด แต่เอามาใช้ได้สนุกดีนะ 55

จูออนแบบไม่ปกปิด แต่เอามาใช้ได้สนุกดีนะ 55

หนังเล่าเรื่องผ่านสายตาของ แจ๊ก แฟนฉัน (ในเรื่องใช้ชื่อนี้จริงๆนะ 555) ในฐานะผู้กำกับเอ็มวี ที่ลากเพื่อนๆในแก๊งอย่าง แน๊ก ชาลี (ในเรื่องก็ใช้ชื่อนี้จริงๆนะ 5555) ในฐานะศิลปินเดียวที่กำลังเดบิวผลงานใหม่ และเหล่าเพื่อนที่ยกโขยงมาหมดจากหนังดังเมื่อสิบกว่าปีก่อนอย่างแฟนฉัน ทั้ง หยก (หยก ธีรนิตยาธาร) ออฟ (อภิชาญ เฉลิมชัยนุวงศ์) อ๋อง (ธนา ตันตรานนท์) และ เก็ท (ตรีวรัตถ์ ชุติวัฒน์ขจรชัย) ที่มาช่วยกันเป็นสตาฟทำเอ็มวีด้วย เรียกว่าหายคิดถึงกันไปเลย และเมื่อทั้งหมดมาที่ออสการ์ลอดจ์ พวกเขาก็ได้พบกับ โรส (เก้า สุภัสสรา) หญิงสาวที่พักอยู่ก่อน แจ๊กจึงไม่พลาดที่จะชวนโรสมาเป็นนางเอกเอ็มวีทันที และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของสถานการณ์ชวนสยองของเดอะแก๊ง

เดอะแก๊งในปัจจุบัน แบบ 18+ ในบุปผาอาริกาโตะ

เดอะแก๊งในปัจจุบัน แบบ 18+ ในบุปผาอาริกาโตะ

เดอะแก๊งสมัยสิบกว่าปีก่อนจาก แฟนฉัน

เดอะแก๊งสมัยสิบกว่าปีก่อนจาก แฟนฉัน

แจ๊กเล่าเรื่องถึงสามเส้นเรื่องในคราวเดียว (เชี่ย!) ทั้ง เรื่องการเผชิญผีครั้งแรกในชีวิตของแจ๊ก ความรักแท้ของเพื่อนอย่างแน๊ก และเหตุการณ์สุดลุ้นระทึกที่มีคนตาย 3 สาหัส 1 และนี่คือทั้งหมดที่หนังเกริ่นขึ้นมาในเวลาราวๆ 10 นาทีแรกของหนัง (เชี่ยยยย!) ดังนั้นผมบอกเลยว่าเข้าไปดูแรกๆ มึนสึสเลยล่ะ เหมือนพี่ต้อมแกจงใจตัดองค์ประกอบที่เป็นหัวใจของหนังมาปะมั่วๆในตอนต้นให้คนดูงงไทม์ไลน์ แต่พอผ่านช่วงเกริ่นแล้วเล่าเรื่องปกติก็ไม่งงแล้วล่ะนะ ดังนั้นแนะนำเลยทำเบลอๆ ไปก่อนอย่าไปสนใจลำดับการเล่าเรื่องช่วงต้นมากนัก อดทนรอๆไป

เส้นเรื่อง ผี ที่เป็นร่างกายของหนัง

เส้นเรื่อง ผี ที่เป็นร่างกายของหนัง

เส้นเรื่อง ความรัก ที่เป็นหัวใจของหนัง

เส้นเรื่อง ความรัก ที่เป็นหัวใจของหนัง

เส้นเรื่อง ความวุ่นวาย ของผีและคนที่ถือเป็นกระดูกของหนัง

เส้นเรื่อง ความวุ่นวาย ของผีและคนในที่จำกัด ที่ถือเป็นกระดูกของหนัง

ด้าน บุปผาคนใหม่ น้องเก้านี่เธอมีเสน่ห์มากๆ อยู่แล้วเวลาปรากฎตัวในหนัง เธอก็ดึงดูดความสนใจไปได้ทั้งหมดเลย อันนี้ใครอยากไปดูเพราะน้องเก้านี่คุ้มแน่นอน เธอได้แสดงในหลายๆมุม ทั้งด้านสวยงามและด้านโหด และในขณะที่สวยๆหวานๆอยู่เธอก็อาจพูดว่า ร่าน ขึ้นมาได้ราวกับเป็นเรื่องปกติด้วย! ในขณะเดียวกันน้องแน๊กกับผองเพื่อนก็รักษาคาแรกเตอร์เดอะแก๊งไว้ได้แบบที่เล่นเป็นตัวเองกันทุกคน ตรงนี้เราจะได้เห็นอีกด้านของแน๊กที่เราไม่เห็นบนจอหนังด้วย

Screen-Shot-2559-01-30-at-2.59.16-PMase-e1458010103713 unnamed_qq_screenshot20160408211957

ตรงนี้เป็นสไตล์หนังของพี่ต้อมเขาล่ะนะที่จะมาในแบบมุกที่ไม่เข้ากับเหตุการณ์ หน้าตายในสถานการณ์ที่ตื่นเต้น ตลกในสถานการณ์ที่น่าอึดอัด หยาบคายรุนแรงในสถานการณ์ที่โรแมนติก และอื่นๆคือเป็นการเล่นกับความไม่เข้ากันเพื่อให้มันตลกนั่นเอง ซึ่งอาจเรียกว่าตลกร้ายที่เป็นสูตรสำเร็จของหนังบุปผาเสมอมาเลยทีเดียว

ความนิ่งๆแต่น่ากลัว เป็นอีกรสที่น่าติดตามทีเดียว

ความนิ่งๆแต่น่ากลัว เป็นอีกรสที่น่าติดตามทีเดียว

ผีไม่กลัวพระไม่กลัวหมอผี ความขัดแย้งที่เป็นอีกเอกลักษณ์ของหนังบุปผาเลยทีเดียว

ผีไม่กลัวพระไม่กลัวหมอผี ความขัดแย้งที่เป็นอีกเอกลักษณ์ของหนังบุปผาเลยทีเดียว

ถามว่าความเป็นหนังผีตุ้งแช่ตามสไตล์นิยมมีมั้ย พูดเลยว่ามี แต่ไม่ได้มาก แต่มาทีนี่สะดุ้ง! ดังนั้นคนไม่นิยมหนังผีตุ้งแช่แบบผมก็ถือว่าอยู่ในระดับที่รับได้นะ หนังออกจะเน้นไปที่การหลอกหลอนแบบนิ่งๆแต่น่ากลัวมากกว่า ส่วนด้านดราม่าและบทสรุปที่เข้มข้น ผมว่าเรื่องไม่หนักเท่าสมัยบุปผาราตรียุคเก่าๆ เลือดสาดก็น้อยกว่า แต่ด้วยความสดใหม่ของทีมนักแสดงและเรื่องราวที่แยกมาเป็นของตัวเอง ผมว่าก็ทำให้หนังดูสนุกอยู่ เสียดายที่ด้านโปรดักชั่นนั้นเรียกว่าดรอปจนน่าใจหายเหมือนกันอาจเป็นเพราะการลดต้นทุนเพื่อถ่ายเมืองนอกก็เป็นได้ (โฟกัสหลุดบ่อยเหมือนกัน)

สรุป

นี่อาจไม่ใช่หนังมาสเตอร์พีซสำหรับคนที่ตามดูหนังพี่ต้อม อย่างน้อยก็ในแง่โปรดักชั่นด้านภาพแสงที่ไม่มืออาชีพเท่าไร  และนี่ก็เป็นทั้งบุปผาราตรีอย่างที่คุ้นเคยและไม่ใช่ หนังมีความสดใหม่ตามตัวแสดงใหม่ แต่ก็ยังมีอะไรเก่าๆให้หายคิดถึงทั้งพลอย เฌอมาลย์ ทั้งหมวดอังเคิ่ลในภาคญี่ปุ่น ดังนั้นแฟนบุปผาก็น่าจะชอบ และคนที่เริ่มดูครั้งแรกเลยก็น่าจะชอบได้เหมือนกัน คอหนังผีทั้งตุ้งแช่และไม่ตุ้งแช่นี่ก็ยังเป็นหนังที่พอดูได้นะ และยิ่งว่าอยากดูหนังไทยด้วยผมว่านี่เป็นหนังไทยที่โอเค ที่สำคัญยังคงความหลอนและตลกโปกฮาในทางเสียดสีและเล่นกับสถานการณ์ได้มันทีเดียวล่ะ ผลาญเวลาช่วงหยุดยาวแก้เบื่อได้บันเทิงล่ะนะ เหมาะกับการไปดูกับเพื่อนและแฟน ไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กและผู้สูงวัย (ด้วยประการทั้งปวง)

Buppha1