อดีตเจ้าหน้าด้านข่าวกรองระดับสูงของสหรัฐอเมริกาหลายรายออกมาระบุว่า กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (Islamic State – IS) ได้หันไปใช้ NFT ในการระดมทุนให้กับทางกลุ่ม โดยปรากฎ NFT ที่เป็นภาพของการการเชิดชูการก่อเหตุต่อกลุ่มตอลีบาน (Taliban) ซึ่งได้รับการเผยแพร่บนโลกออนไลน์

หนึ่งใน NFT ที่ปรากฎอยู่บนเว็บไซต์ซื้อขาย NFT มีชื่อว่า IS-NEWS #01 ที่มีรูปตราสัญลักษณ์ของกลุ่ม IS ซึ่งผู้เชี่ยวชาญคาดว่าผู้สนับสนุนของทางกลุ่มน่าจะทำขึ้นมาเพื่อทดลองกลยุทธ์การสนับสนุนทางการเงินใหม่ ๆ และดูว่ารัฐบาลประเทศต่าง ๆ รวมถึงตลาดขาย NFT จะสามารถจัดการมันได้หรือไม่

ยายา ฟานูซี (Yaya Fanusie) อดีตนักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจและการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) แสดงความกังวลว่า IS อาจเริ่มช่ำชองในการใช้ NFT เพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ เนื่องจาก NFT เป็นหน่วยข้อมูลที่เก็บบรรจุไว้ในบล็อกเชน ซึ่งไม่มีองค์กรกลางในการควบคุมและยากต่อการทำลาย

ทั้งนี้ ไม่ปรากฎว่า IS-NEWS #01 ถูกซื้อขายไปแล้ว แต่การที่มันอยู่บนบล็อกเชนก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายจะนำมันออกไปจากระบบอินเทอร์เน็ต

“มันป้องกันการปิดกั้นได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่มีใครสามารถลบ NFT ได้” มาริโอ คอสบี (Mario Cosby) อดีตนักวิเคราะห์ด้านข่าวกรองที่เชี่ยวชาญในด้านบล็อกเชนระบุ

นอกจาก IS-NEWS #1 แล้ว ก็ยังมี NFT อีก 2 ชิ้นที่ถูกสร้างโดยคนเดียวกันและในวันเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 NFT ต่างก็แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของปฏิบัติการของ IS ทั้งคู่

หนึ่งใน NFT มีชื่อว่า Chemist เป็นภาพของนักรบ IS ที่กำลังสอนวิธีประกอบระเบิดให้กับนักเรียน ส่วนอีกภาพหนึ่งใช้ชื่อว่า Cigarettes Or Miswak มีเนื้อหาประณามการสูบบุหรี่

NFT ทั้ง 3 ภาพนี้อยู่บนแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า IPFS และถูกนำไปวางแสดงอยู่ในตลาด NFT ได้แก่ OpenSea และ Rarible ซึ่งทั้ง 2 แห่งได้แบนผู้สร้าง NFT ดังกล่าว และลบช่องทางการเข้าถึง NFT ทั้งหมดแล้ว โดยให้เห็นผลว่ามีเนื้อหาสนับสนุนความรุนแรง ซึ่งขัดต่อนโยบายหลัก

ทั้งนี้ แม้ว่า IS จะสูญเสียพื้นที่เกือบทั้งหมดในซีเรียไปตั้งแต่เมื่อสิ้นปี 2017 แต่การถอนตัวของสหรัฐฯ จากอัฟกานิสถานเมื่อปี 2021 ก็เป็นโอกาสให้เครือข่ายของกลุ่มที่อยู่ในประเทศสามารถขยายอิทธิพลกลับคืนมาได้โดยการเข้ายึดพื้นที่ที่ตอลีบานยึดครองอยู่ ยิ่งหาก IS สามารถนำ NFT มาใช้ได้อย่างช่ำชองก็อาจเป็นหนทางกู้ความแข็งแกร่งได้อีกครั้ง

ที่มา WSJ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส