Nikkei Asia รายงานว่า ราคาของส่วนประกอบของ iPhone 14 นั้นมีราคาสูงขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าถึง 20% ในขณะที่ต้นทุนการผลิตของ iPhone 14 Pro Max อยู่ที่ 501 เหรียญ (ประมาณ 18,800 บาท) เพิ่มขึ้นจาก iPhone 13 Pro Max ที่มีต้นทุนการผลิตราว 441 เหรียญ (ประมาณ 16,600 บาท)

ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นหลัก ๆ มาจากชิป A16 Bionic ตัวใหม่ที่ใช้ใน iPhone 14 Pro และ Pro Max คิดเป็นต้นทุน 110 เหรียญ (ประมาณ 4,100 บาท) โดยในปัจจุบันมีเพียง TSMC และ Samsung Electronics เท่านั้นที่เป็นผู้ผลิตชิป 4nm แบบ mass-produce (ผลิตจำนวนมาก)

ส่วนประกอบอีกอย่างที่มีราคาสูงขึ้นก็คือเซนเซอร์ภาพ CMOS ของ Sony ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 30% และราคาก็สูงขึ้นถึง 50% ที่ 15 เหรียญ (560 บาท) โดยเซนเซอร์ตัวนี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ดีแม้ในสภาพแสงน้อย และให้ noise ที่ต่ำ ช่วยลดการแก้ไขด้วยเทคโนโลยีจากซอฟต์แวร์ในการประมวลผล และทำให้ได้ภาพ/วิดีโอที่มีคุณภาพมากขึ้น

ส่วนประกอบของ iPhone 14 นั้นมาจากซัปพลายเออร์จากอเมริกาเป็นสัดส่วนถึง 32.4% เพิ่มขึ้นจากโมเดลปี 2021 อยู่เกือบ 10% ในขณะที่เกาหลีใต้ซึ่งเคยมีสัดส่วนมากที่สุดในปีก่อนกลับลดลงมาเหลือ 24.8%

สำหรับการผลิตนั้น ในอดีต Apple จะพึ่งพาจีนเป็นอย่างมาก แต่จากสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างอเมริกาและจีนจึงทำให้ Apple ตัดสินใจพึ่งพาการผลิตจากจีนให้น้อยลง โดยเราจะเห็นว่าปัจจุบัน Apple ได้กระจายการผลิตไปสู่ประเทศอินเดียและประเทศในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ที่มา: Nikkei

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส