สตีเฟน ฮอว์คิง นักฟิสิกส์ทฤษฎีและนักจักรวาลชื่อดังของโลกได้พูดถึงประเด็นสำคัญที่น่าสนใจเกี่ยวกับโลกมนุษย์ระหว่างไปให้บรรยายที่ชมรมโต้วาทีที่อ๊อกซฟอร์ด (Oxford Union) ในสัปดาห์นี้ โดยเขามองว่ามนุษยชาติจะสามารถดำรงชีวิตไม่เกิน 1,000 ปีอยู่บนโลกใบนี้ก่อนจะสูญพันธุ์

%e0%b8%81%e0%b8%ab%e0%b8%9f%e0%b8%81%e0%b8%ab%e0%b8%9f

The Daily Mail ได้เปิดเผยคำพูดของ ฮอว์คิง ระหว่างบรรยายที่อ๊อกซฟอร์ดว่า ‘ผมไม่คิดว่ามนุษย์เราจะดำรงชีวิตอยู่รอดไปมากกว่า 1,000 ปีข้างหน้าบนโลกใบนี้ที่เปราะบางลงไปทุกวัน หากไม่ย้ายหนีไปอยู่ดาวดวงอืนในจักรวาล’ โดยสิ่งที่ฮอว์คิงหยิบยกมาเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ส่งผลต่อการสูญพันธุ์ของมนุษยชาตินั้นคือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ภาวะโลกร้อน รวมทั้งสงครามนิวเคลียร์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทำให้โลกใบนี้พบกับจุดจบในอนาคต ทำให้มนุษย์ควรเริ่มศึกษาหาความเป็นไปได้ในการไปตั้งอาณานิคมใหม่บนดาวดวงอื่นอย่างจริงจังได้แล้ว

ก่อนหน้านี้ในปี 2010 เขาเคยให้สัมภาษณ์กับ Big Think กับประเด็นนี้มาแล้ว ซึ่งฮอว์คินมองว่า เป็นเรื่องยากมากที่มนุษย์จะรอดพ้นจากมหันตภัยร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นบนโลกในอีกหลายร้อยปีข้างหน้า และเขาถือเป็นนักวิชาการแถวหน้าคนหนึ่งที่สนับสนุนแนวคิดที่จะช่วยให้มนุษย์พัฒนาศักยภาพที่จะสามารถย้ายไปดำรงชีวิตนอกโลกได้ โดยก่อนหน้านี้ทาง Elon Mask ซีอีโอของทาง Tesla บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชื่อดังเองก็เคยออกมาประกาศว่าจะพามนุษย์ไปดาวอังคารให้ได้ในอีก 9 ปีข้างหน้า

อ้างอิง