Google ได้เปิดตัว Android Wear 2.0 อย่างเป็นทางการ และร่วมกับ LG ในการเปิดตัว Watch Style และ Watch Sport ในฐานะสมาร์ทว็อทช์ระบบ Android Wear 2.0 รุ่นแรก ที่ทรงพลังและเพียบพร้อมด้วยฟีเจอร์ใหม่มากมาย รวมถึง Google Assistant ที่รองรับภาษาอังกฤษและเยอรมัน โดยจะอัปเดตการรองรัรบภาษาอื่นๆในเร็ววันนี้

LG Watch Style

 

LG Watch Style มาพร้อมกับรูปทรงที่เป็นทางการมากขึ้น มีบอดี้ที่เรียบหรูมากกว่ารุ่นก่อน โดยมี 3 สี คือ Silver, Rose Gold และ Titanium พร้อมด้วยสายนาฬิกาหนังและซิลิโคนที่เหมาะกับวาระโอกาสที่ต่างกัน และเปิดเข้าใช้งานเมนูต่างๆ และ Google Assistant ได้อย่างง่ายดายด้วยหมุนปุ่มที่อยู่ด้านข้างหน้าปัดนาฬิกา

สเปคของ LG Watch Style มีดังนี้

  • หน้าจอ P-OLED ขนาด 1.2 นิ้ว ความละเอียด 360 x 360 พิกเซล
  • เซ็นเซอร์วัดแสง
  • สเตนเลสสตีล 316L
  • กระจก Gorilla Glass 3
  • สายหนังอิตาเลียน
  • ซีพียู Qualcomm Snapdragon Wear 2100 ความเร็ว 1.1 GHz
  • แรม 512 MB
  • เนื้อที่ภายในตัวเครื่อง 4 GB
  • แบตเตอรี่ 240 mAh
  • Wi-Fi
  • Bluetooth
  • ระบบป้องกันน้ำและฝุ่น มาตรฐาน IP67
  • สี Silver, Titanium และ Rose Gold
  • ราคา 249 เหรียญ (ประมาณ 8,700 บาท) รุ่นสี Rose Gold ราคา 279 เหรียญ (ประมาณ 9,500 บาท)

LG Watch Sport

LG Watch Sport มาในรูปแบบที่ต่างจาก Watch Style อย่างสิ้นเชิง ตัวเรือนมีขนาดใหญ่กว่า เหมาะสำหรับนักกีฬา และยังเป็นสมาร์ทว็อทช์ Android Wear ที่ทรงพลังที่สุดในตอนนี้ พร้อมด้วยฟีเจอร์ตรวจวัดการเต้นของหัวใจสำหรับการวิ่งและออกกำลังกาย, รองรับ NFC ที่ไม่มีใน Watch Style และรองรับการชำระเงินแบบไร้สาย (Android Pay) ด้วย

สเปคของ LG Watch Sport มีดังนี้

  • หน้าปัด P-OLED ขนาด 1.38 นิ้ว ความละเอียด 480 x 480 พิกเซล
  • เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสง
  • สเตนเลสสตีล 316L
  • กระจก Gorilla Glass 3
  • สายรัด Thermoplastic Polyurethane
  • ซีพียู Qualcomm Snapdragon Wear 2100 ความเร็ว 1.1 GHz
  • แรม 768 MB
  • เนื่อที่ภายในตัวเครื่อง 4 GB
  • แบตเตอรี่ 430 mAh
  • Wi-Fi
  • Bluetooth
  • GPS
  • NFC (สำหรับ Android Pay)
  • ระบบป้องกันน้ำและฝุ่น มาตรฐาน IP68
  • สี Titanium และ Dark Blue
  • ราคา 349 เหรียญ (ประมาณ 12,200 บาท)

สมาร์ทว็อทช์ LG ทั้ง 2 รุ่น จะเริ่มจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 10 กุมภาพันธฺ์ 2017 และจะตามด้วยประเทศแคนาดา, รัสเซีย, ซาอุดิอาระเบีย, แอฟริกาใต้, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหราชอาณาจักรในอีกไม่กี่สัปดาห์นับจากนี้

ข้อมูลอ้างอิง : phonearena , theverge