Disney กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามหาศาล จากการซื้อ 21st Century Fox ด้วยมูลค่าเกือบ 5.3 หม่ื่นล้านเหรียญ แต่ Apple อาจเห็นเป้าหมายในการต่อยอดธุรกิจจากหุ้นของ Disney

Forbes ได้วิเคราะห์ว่า มีความเป็นไปได้ที่ Apple จะซื้อกิจการของ Disney ซึ่งถ้าพิจารณาจากมูลค่าในตลาดของบริษัท Disney ที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.68 แสนล้านเหรียญ และบวกค่าพรีเมียม (Premium) อีก 30% ก็จะทำให้ Apple ต้องทุ่มเงินมากถึง 2.2 แสนล้านเหรียญในการซื้อกิจการของ Disney

  • ค่าพรีเมียม (Premium) คือ ค่าใช้สิทธิ กล่าวคือ ในการซื้อขายทรัพย์สินหรือกิจการในอนาคตตามราคาที่ได้ตกลงไปไว้ในสัญญา ถ้าหากผู้ซื้อยินยอม ในวันที่ซื้อก็จะต้องจ่ายเงินค่าใช้สิทธิให้กับผู้ขายเป็นการตอบแทน เพื่อให้ได้สิทธิตามสัญญานั้น

ข้อได้เปรียบของ Apple

แน่นอนว่า Disney เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงมาก แต่ Apple อาจสามารถซื้อกิจการของ Disney ได้ ด้วยปัจจัยดังนี้

  • สตีฟ จอบส์ ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Apple และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Pixar ด้วยเช่นกัน
  • สตีฟ จอบส์ ได้เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Pixar
  • หุ้นดังกล่าวได้ถูกเปลี่ยนเป็นหุ้น Disney เมื่อ Disney ได้ซื้อกิจการของ Pixar
  • หลังจากที่ สตีฟ จอบส์ เสียชีวิต หุ้นเหล่านั้นได้ถูกโอนเข้ากองทรัสต์ของ สตีฟ พี จอบส์ (Steve P. Jobs Trust  : การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์) ซึ่งควบคุมโดย ลอเรนซ์ โพเวลล์ จอบส์ ภรรยาของสตีฟ จอบส์
  • กองทรัสต์ของ สตีฟ พี จอบส์ ได้กลายเป็นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของ Disney เมื่อปี 2006 (8%)
  • นั้นอาจทำให้ Apple มีข้อได้เปรียบในการถือเสียงข้างมากจาก Disney ในกรณีที่มีการโหวตเพื่อซื้อขายกิจการ

จะคุ้มไหม ?

การเข้าซื้อกิจการของ Disney ด้วยมูลค่ามหาศาลนั้น อาจทำให้ Apple มีข้อได้เปรียบในการขยายตลาดในหลายๆด้าน ดังนี้

  • Apple ได้ประกาศว่าจะสร้างคอนเทนท์สำหรับฉายออนไลน์ โดยมีเนื้อหาที่เหมาะสำหรับเด็กและครอบครัว
  • เมื่อการซื้อขายเสร็จสิ้น Disney จะได้ครอบครอง 27% ของอุตสาหกรรมการผลิตภาพยนตร์ทั้งหมดในฮอลลีวู้ด
  • Disney เตรียมที่จะสร้างแอปสตรีมวิดีโอออนไลน์ของตนเอง โดยมุ่งเน้นการใช้ตัวละครและภาพยนตร์ของ Disney เป็นจุดขาย เพื่อแข่งขันกับ Netflix
  • Disney เตรียมจะตัดการฉายภาพยนตร์ของ Disney บน Netflix ในปี 2019
  • Fox ซึ่งจะอยู่ภายในการดูแลของ Disney อาจต้องเน้นการผลิตเนื้อหาสำหรับฉายออนไลน์เพิ่มมากขึ้น
  • Apple สามารถขยายฐานผู้บริโภคออกให้กว้างขึ้นได้อีก

อุปสรรคของ Apple

  • เมื่อช่วงต้นปี 2017 ที่ผ่านมา หุ้นของ ลอเรนซ์ โพเวลล์ จอบส์ ได้ถูกตัดลงเหลือ 4% ซึ่งทำให้กลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับที่ 4 ของ Disney
  • ถ้าหากการซื้อภาคธุรกิจของ 21st Century Fox ได้เสร็จสิ้นลง จะทำให้กองทรัสต์ของตระกูล เมอร์ด็อก ซึ่งเป็นเจ้าของ Fox จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดอับดับที่ 2 (4.37%) ของ Disney รองจาก Vanguard
  • นั่นจะทำให้ ลอเรนซ์ โพเวลล์ จอบส์ กลายเป็นผู้ถือหุ้นอับดับที่ 5 (3.19%) ของ Disney

เมื่อไรที่ Apple ควรซื้อ Disney ?

ถ้าหาก Apple ต้องการซื้อกิจการของ Disney จริงๆแล้วนั้น ก็ควรเริ่มให้เร็วที่สุดหลังจากที่ Disney ได้ปิดดีลกับ 21st Century Fox เพราะยิ่งนานวัน การเข้าซื้อกิจการของ Disney ก็จะยิ่งมีความซับซ้อน และยากที่จะเป็นจริงได้

อย่างไรก็ดี การที่ Apple จะซื้อกิจการของ Disney นั้น ยังเป็นเรื่องที่ห่างไกลเกินกว่าที่ใครจะตัดสินได้

ข้อมูลอ้างอิง : phonearena และ latimes